โรเบิร์ต คราฟท์ เจ้าของทีม นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ยอดทีมแห่งศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ลงทุนบินไปคุยกับ ทอม เบรดี ด้วยต้นเอง เพื่อให้สุดยอดควอเตอร์แบ็กปิดอาชีพการเล่นในฐานะ "แพทส์แมน"
ทอม เบรดี ยังอยู่ในสัญญา 2 ปีสุดท้าย ฉบับที่เซ็นไว้ 4 ปี 72 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.16 พันล้านบาท) เป็นเงินการันตี 48 ล้านเหรียญฯ (ราว 1.44 ล้านบาท) ซึ่งเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซูเปอร์สตาร์วัย 35 ปี ได้ต่อสัญญาปักหลักนำทัพ "นักรบกู้ชาติ" แพทริออตส์ ไปอีกสามปี รับเงิน 27 ล้านเหรียญฯ (810 ล้านบาท) เพื่ออยู่กับแฟรนไชส์ไปถึงปี 2017 ทั้งยังเป็นการเปิดทางให้ต้นสังกัดมีพื้นที่ใน "เพดานเงินเดือน" (ซาลารี แคป) มากขึ้น
ล่าสุดมีรายงานจาก "สปอร์ต อิลลัสเตรทด์" สื่อยักษ์ใหญ่แดนมะกันทำนอง โรเบิร์ต คราฟท์ ลงทุนบินจากบอสตัน ไปยังแอลเอ เมื่อสัก 5 สัปดาห์ก่อน เพื่อเจรจาให้ เบรดี อยู่เป็นตำนานแห่งถิ่นยิลเล็ตต์ สเตเดียม ไปจนเลิก ซึ่งเรื่องนี้เจ้าของ "แพทส์แมน" เผยกับ ปีเตอร์ คิง คอลัมนิสต์ชื่อดังว่า "ผมแค่ไม่ต้องการเห็น ทอม กลายเป็นเหมือน โจ มอนทานา ที่ต้องย้ายออกจากซานฟรานซิสโก เอ็มมิตต์ สมิธ ที่ต้องจากดัลลัส เบร็ตต์ ฟาร์ฟ ซึ่งไม่ได้อยู่โยงกับกรีนเบย์ และเพย์ตัน แมนนิง ที่ย้ายจากอินเดียนาโปลิส"
"แต่ถ้า ทอม (เบรดี) หมดสัญญากับเรา (ตอนนั้นอายุ 40 ปี) และย้ายไปจากเรา มันก็ไม่มีปัญหาถ้ามีทีมใดพร้อมจ่ายเงินก้อนโตให้เขา ซึ่งก็แน่นอนว่า ทอม คู่ควรเพราะเขามีทั้งความสามารถ เป็นผู้นำ และก็ไม่เห็นแก่ตัวเลย อันที่จริงเราอยากจ่ายให้ ทอม เป็นควอเตอร์แบ็กที่มีรายได้สูงสุด แต่ผมคิดว่าเราต้องสร้างทีมด้วย คงจ่ายเงินให้ผู้เล่นคนสำคัญกินแคปสัก 18-20 เปอร์เซ็นต์ ก็เพียงพอ ผมคิดว่านี่เป็นการทำงานร่วมกันได้ดี ที่สำคัญผมอยากเห็น ทอม ปิดฉากอาชีพที่นี่ในฐานะแพทริออตส์" เจ้าของแพทส์แมน ทิ้งท้าย
สำหรับ มอนทานา คว้าแชมป์ 3 สมัยให้ โฟร์ตีไนเนอร์ส เล่นที่ซานฟรานซิสโก ระหว่างปี 1979-92 ก่อนย้ายไปเลิกกับ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ ปี 1993-94 ส่วน สมิธ วิ่งให้ ดัลลัส คาวบอยส์ ปี 1990-2002 พาแฟรนไชส์เป็นแชมป์ 3 สมัย ก่อนไปจบเห่ที่ อริโซนา คาร์ดินัลส์ ด้าน ฟาร์ฟ เป็นแชมป์ 1 สมัยกับ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ก่อนโยกไปนำทัพทั้ง นิวยอ์ก เจ็ตส์ (ปี 2008) และมินเนโซตา ไวกิงส์ (ปี 2009-10) ขณะที่ เพย์ตัน แมนนิง เล่นกับ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ตั้งแต่เข้าลีกคนแรกของปี 1998 มาจนถึงปี 2011 ก่อนนำทัพ เดนเวอร์ บรองโกส์ ถึงทุกวันนี้