“ของขวัญอันตราย” แด่จ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก

เอเยนซี - ศึก พรีเมียร์ ลีก กำลังจะเริ่มโม่แข้งโปรแกรมโหดที่ไม่ได้หวานชื่นเหมือนชื่อคือช่วง “แกะกล่องของขวัญ” หรือที่เรียกกันว่า “บ็อกซิง เดย์” ตั้งแต่วันพุธที่ 26 ธันวาคมนี้ทั้งหมด 9 คู่โดยเฉลี่ยแต่ละทีมจะต้องเตะ 3 นัดรอบ 8 วันถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของฤดูกาลอย่างแท้จริงและน้อยทีมนักที่จะสามารถเก็บ 9 แต้มเต็ม เนื่องจากกุนซือต้องบริหารโรเตชันนัก สถานการณ์จึงสามารถพลิกผันได้ทุกวินาทีไม่ว่าจะลุ้นแชมป์หรือว่าหนีตาย

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือชาวสกอตต์ มีอันต้องกลืนน้ำลายดังเอือก เพราะเผยอย่างมั่นใจว่าถ้าผ่านพ้นช่วงนี้ไปแล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังนำเป็นจ่าฝูงพร้อมช่วงห่าง 6 แต้มจะเข้าป้ายแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 แต่ล่าสุดบุกไปเสมอ สวอนซี ซิตี 1-1 กลับจากถิ่น ลิเบอร์ตี สเตเดียม เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมาพร้อมถูก “แชมป์เก่า” แมนเชสเตอร์ ซิตี จี้เหลือ 4 แต้มหลังโม่แข้งไปแล้ว 18 นัด โดยจากนี้ “ผีแดง” จะเฝ้าถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 2 นัดพบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด วันที่ 26 ธันวาคมและ เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน วันที่ 29 ธ.ค.ส่งท้ายปี 2012 ก่อนเริ่มศักราชปี 2013 ไปเยือน วีแกน แอธเลติก วันที่ 1 มกราคม

แมนฯยู ขึ้นชื่อว่ามีขุมกำลังสำรองที่เหนือกว่าบรรดาคู่แข่งลุ้นแชมป์ ทว่าเกมล่าสุด ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ, ไรอัน กิ๊กส์ และ พอล สโคลส์ ที่ส่งลงมาคายพิษสงไม่ออกไม่สามารถบันดาล 3 แต้มเหนือ สวอนซี ดังนั้นการรับมือ นิวคาสเซิล อันดับ 14 แม้สถิติจะข่ม โดยทีมเยือนไม่ชนะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นับตั้งแต่ปี 1972 สมัยเป็น ดิวิชัน 1 เดิม แต่เจ้าถิ่นลุ้นหนักแน่นอน โดยก่อนเกม เซอร์ อเล็กซ์ นายใหญ่ “ผีแดง” เผยว่า “ไม่ต้องสงสัยเลย ผมจะไม่ใช้ 11 ตัวผู้เล่นเหมือนกันทุกเกม โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงทีมอย่างแน่นอน”

ถือว่าผิดธรรมชาติของ แมนฯยู ที่ขึ้นนำแต่หัววันแบบนี้ เพราะปกติจะเป็นพวกชอบไล่ล่าและมักแซงเข้าป้าย อีกทั้งฤดูกาลนี้มีข้อสังเกตหลายอย่างโดยเฉพาะเกมรับที่เสียถึง 25 ประตูมากกว่าทีมอันดับ 2-9 ของตาราง ณ เวลานี้ โดยทีมเดียวที่นั่งหัวตารางช่วงคริสต์มาสและเสียมากกว่าคือ นอริช ซิตี 34 ประตูเมื่อฤดูกาล 1992-93 แม้ว่า “ผีแดง” จะได้ เนมานยา วิดิช เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมกลับมาในเกมกับ สวอนซี ยืนคู่กับ จอนนี อีแวนส์ แต่ดูแล้วยังอุ่นใจไม่ได้ต้องใช้เวลาในการจับจังหวะกับเพื่อนร่วมทีม

20 ฤดูกาลที่ผ่านมานับตั้งแต่สถาปนา พรีเมียร์ ลีก สโมสรที่นั่งจ่าฝูงวันที่ 25 ธันวาคมคว้าแชมป์ 9 ครั้ง โดย นอริช ซิตี, แอสตัน วิลลา, ลีดส์ ยูไนเต็ด, อาร์เซนอล, นิวคาสเซิล, ลิเวอร์พูล และ แมนฯยู ล้วนเคยวืดยกถ้วยหัวมงกุฎมาแล้วหลังได้ฉลองคริสต์มาสบนหัวตาราง ถือเป็นสถิติที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงอย่างยิ่ง

โดย วิดิช ที่ออกสตาร์ทเกมแรกรอบ 3 เดือนต้องออกมาเตือนว่า “ตอนนี้เรามี 3 เกมที่ต้องลงเล่นช่วง 7 วันนับจากนี้ โดยแข้งหลายคนเพิ่งกลับจากอาการบาดเจ็บด้วยจึงถือเป็นช่วงที่สำคัญอย่างยิ่งของฤดูกาล” โดยสภาพความพร้อมของ แมนฯยู ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่ได้พักในเกมกับ สวอนซี อาจจะได้กลับมาลงสนาม ส่วน ชินจิ คากาวะ กองกลางทีมชาติญี่ปุ่นกลับมาซ้อมได้แล้ว แต่ ราฟาเอล ดา ซิลวา (แบ็กขวา) หลุยส์ นานี (ปีก) และ อันแดร์สัน (กองกลาง) ยังไม่พร้อมทั้งหมด

งานนี้ แมนฯยู ต้องระวังหลัง เพราะ แมนฯซิตี แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติทีมลุ้นแชมป์คือเกือบแพ้แต่เสมอและเกือบเสมอแต่ชนะได้อย่างเกมล่าสุดยิงทดเจ็บเปิด เอติฮัด สเตเดียม เฉือน เรดดิง 1-0 โดยจะไปเยือน 2 นัดพบ ซันเดอร์แลนด์ วันที่ 26 ธันวาคมและพบ นอริช วันที่ 29 ธ.ค.ก่อนเฝ้าบ้านรับ สโต๊ค วันที่ 1 มกราคมถือว่าโอกาสเก็บ 9 แต้มเต็มสูงมาก ขณะที่ก็จะประมาท เชลซี ไม่ได้ถ้าเก็บเกมตกค้างในมือจะตาม แมนฯยู แค่ 8 แต้มโดยจะเยือน 2 นัดก่อนพบ นอริช วันที่ 26 ธ.ค.พบ เอฟเวอร์ตัน วันที่ 30 ธ.ค.และเฝ้าบ้านพบ ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส วันที่ 2 มกราคม

เหลือบมองอีกฟากของตารางการหนีตกชั้นก็ถือว่าเข้มข้นไม่แพ้กัน เพราะที่ผ่านมามีไม่กี่ทีมที่รั้งบ๊วยช่วงคริสต์มาสและสามารถอยู่รอดบนเวที พรีเมียร์ ลีก เมื่อสิ้นสุดนัดที่ 38 ควีนส์ ภายใต้การคุมทัพของ แฮร์รี เรดแน็ปป์ ค้นชัยชนะนัดแรกเของฤดูกาลจอแล้วจนถีบตัวเองรั้งอันดับ 19 จะประเดิมเปิด ลอฟตัส โรด รับการมาเยือนของ เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน อันดับ 7 และที่ เรดดิง อันดับ 20 จะเปิด มาเดจสกี สเตเดียม พบ สวอนซี ซิตี อันดับ 11 โดย 2 ทีมนี้ต้องเร่งตัวเองเต็มสูบ เพราะห่างจากอันดับ 18 อยู่ที่ 5 และ 6 แต้มตามลำดับหากชะล่าใจอาจจะสายเกินแก้ต้องถอยไปตั้งตัวใหม่บนเวที แชมเปียนชิป

ขณะที่ วีแกน แอธเเลติก เล่นไปเล่นมารูดรั้งอันดับ 18 ส่อแววเข้าอีหรอบเดิมต้องลุ้นหนีตาย แต่ว่า 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา โรแบร์โต มาร์ติเนซ ก็สามารถพา “เดอะ ลาติคส์” อยู่รอดปลอดภัยมาได้แบบเส้นยาแดงฝ่าแปด เกมนี้ต้องออกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ถือว่าไม่ง่าย โดยที่เหลืออีก 5 ทีมแม้จะอยู่เหนือโซนแดงแต่ถือว่าน่าเป็นห่วงทั้งสิ้นไล่ตั้งแต่ที่ 13 ลงมาคือ ฟูแลม, นิวคาสเซิล, ซันเดอร์แลนด์, วิลลา และ เซาแธมป์ตัน