“โคบี” วันแมนโชว์ เหตุหลัก “เลเกอร์ส” บู่

เอเยนซี- โคบี ไบรอันต์ ทำอย่างน้อย 30 แต้ม เป็นเกมที่ 7 ติดต่อกัน ค่าเฉลี่ยทำคะแนนมากสุดของลีกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (29.5 แต้ม) ทว่า แอลเอ เลเกอร์ส หนึ่งในทีมเต็งแชมป์ฤดูกาล 2012/13 กลับมีผลงานชนะแค่ 12 แพ้ 14 เกม ทั้งที่ทีมอุดมไปด้วยซูเปอร์สตาร์อย่าง ดไวท์ ฮาวเวิร์ด, เพา กาซอล, เมตตา เวิลด์พีช และ สตีฟ แนช ซึ่ง “บลีชเชอร์รีพอร์ต” (Bleacherreport) เว็บไซต์จอมซอกแซกแดนมะกัน รวบรวมเหตุผลที่ เลเกอร์ส บ้อท่า หนึ่งในนั้นเนื่องจาก “โคบี วันแมนโชว์” มากเกินไป

1.“โคบี” เล่นคนเดียวบ่อยเกิน
โดยตำแหน่ง “ชู้ตติ้งการ์ด” พ่วงด้วยบทบาทแม่ทัพ เป็นธรรมดาที่ โคบี ย่อมต้องชู้ตบอลบ่อยครั้ง แต่มีสถิติที่น่าสนใจ คือ ยามใดที่ซูเปอร์สตาร์วัย 33 ปี แอสซิสต์มากกว่า 5 ครั้ง เลเกอร์ส มักได้รับชัยชนะ แต่เมื่อใดที่ โคบี ทำหลัก 30 แต้ม อย่างเช่นฤดูกาลนี้ ทีมชนะแค่ 4 แพ้ถึง 12 เกม อีกทั้งมีการตั้งข้อสังเกตว่าการมาของ แนช กับ ฮาวเวิร์ด น่าจะส่งประโยชน์กับทีมมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน ในเมื่อทุกอย่างยังอยู่ในมือ โคบี เพียงคนเดียว

2.“ซูเปอร์แมน” ชู้ตลูกโทษห่วย
การยิงฟรีโทรล์ของ ฮาวเวิร์ด อยู่ที่เพียง 50.6 เปอร์เซ็นต์ แย่กว่าสมัยอยู่กับ ออร์แลนโด แมจิก จึงไม่น่าแปลกใจที่เซ็นเตอร์วัย 27 ปี กลายเป็นเหยื่อของกลยุทธ์ “แฮ็ก อะ ฮาวเวิร์ด” เป็นเหตุให้ ไมค์ ดิ แอนโทนี หัวหน้าโค้ช ไม่สามารถส่ง “ซูเปอร์แมน” ลงเล่นเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งหากผู้เล่น “ออล-สตาร์” 6 สมัย ไม่ยกระดับการยิงลูกโทษขึ้นมา นี่คงเป็นจุดบอดของเลเกอร์ส และจะเป็นปัญหาในระยะยาวต่อไป

3.เลเกอร์สใจแข็งไม่เทรด “กาซอล”
กาซอล สลัดอาการบาดเจ็บคืนสนามได้แล้ว ทำเฉลี่ยแค่ 12.4 แต้ม 8.8 รีบาวนด์ 3.6 แอสซิสต์ ชู้ตฟิลด์โกลแค่ 41.4 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าซีซันก่อนที่ทำ 17.4 แต้ม 10.4 รีบาวนด์ 3.7 แอสซิสต์ จึงเป็นกระแสโดนเทรด กอปรกับอาการใจมดจากเพลย์ออฟฤดูกาลก่อน อย่างไรก็ดี ท้ายที่สุด มิทช์ คัพแช็ค เลือกไม่ยอมเทรดพาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด ทีมชาติสเปน รอให้ แนช คัมแบ็กมาเข้าคู่ประสานกันก่อน ซึ่งนี่อาจเป็นการตัดสินใจที่ไม่เด็ดขาดอีกครั้งสำหรับผู้จัดการทั่วไปเลเกอร์ส

4.ตัวสำรองพึ่งไม่ได้-เสียบอลบ่อย
แม้ผู้เล่นอย่าง โจดี มีกส์ และ แอนทอว์น จาไมสัน พัฒนาฝีมือขึ้นมา ทว่า ตัวสำรองของ เลเกอร์ส ช่วยทีมไม่ได้มากอย่างที่ควรจะเป็น ตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ ไมค์ ดิ แอนโทนี ต้องยึดตัวหลักลงสนามหลายนาที และคงทำให้หลายคนพอเข้าใจสาเหตุที่ โคบี ต้องเล่นคนเดียวบ่อยครั้ง ก็ในเมื่อสำรองแทบไม่มีบทบาทอะไรเลย ส่วนเรื่อง “เทิร์นโอเวอร์” เลเกอร์ส เป็นทีมอันดับ 2 เสียบอลเฉลี่ย 15.6 ครั้งต่อเกม โดย โคบี เสียเทิร์นโอเวอร์มากที่สุด 3.8 ครั้งต่อเกม มากสุดร่วมอันดับ 2 ของลีก ยิ่งเป็นการทำร้ายทีมตัวเองอย่างชัดเจน

5.เกมรับรั่ว
การมีทั้ง โคบี, ฮาวเวิร์ด และ มร.เวิลด์พีช ซึ่งโดดเด่นเรื่องเกมรับ แต่เหตุไฉน เลเกอร์ส ถึงเสียเฉลี่ย 99.3 แต้มต่อเกม แย่เป็นอันดับ 10 ของลีก นี่อาจเป็นจุดอ่อนของ “รัน แอนด์ กัน” แผน ซึ่งโค้ช “ไมค์ ดี” พยายามนำมาปรับใช้กับทีมเพื่อเล่นให้เร็ว ในทางตรงกันข้ามมันกลับมีผลเสีย นอกจากความผิดพลาดเสียบอลง่ายขึ้น ยังทำให้ฝ่ายตรงข้ามมีเวลาดึงเกมเพื่อกลับมาใช้ทุกวินาทีอย่างคุ้มค่า ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับทีมคนแก่ ที่ต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา โดยเฉพาะยามเล่นเกมรับ