ล้วงกระเป๋า “รอรีย์” อำลา “ไทเทิลลิสต์”

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กลายเป็นเรื่อน่างปิติยินดีอย่างยิ่งสำหรับโทรฟีแชมป์กอล์ฟ "ดีพี เวิลด์ แชมเปียนชิพ" ควบด้วยตำแหน่งผู้ชนะ "เรซ ทู ดูไบ" ช่วงปลายสัปดาห์ก่อนของ รอรีย์ แม็คอิลรอย โปรหมายเลข 1 ของโลก ทว่ามุมกลับกันน่าใจหายไม่น้อยเมื่อทัวร์นาเมนต์นี้คือการร่วมงานกันครั้งสุดท้ายระหว่างก้านเหล็กไอร์แลนด์เหนือ กับ "ไทเทิลลิสต์" สปอนเซอร์ที่หนุนหลังกันมานานถึง 5 ปี

“ไทเทิลลิสต์” และ “ฟุตจอย” ผลิตภัณฑ์กีฬากอล์ฟเซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์ให้กับ รอรีย์ เมื่อปี 2007 ตั้งแต่สมัยโปรวัย 23 เทิร์นโปรเล่นอาชีพ ก่อนจะหมดสัญญาหลังจบปฏิทินทัวร์ปี 2012 และได้มีการยื่นยันเป็นทางการว่าทั้งผู้บริหารและ แม็คอิลรอย จะไม่จรดปากกาต่อสัญญาฉบับใหม่ต่อไปแน่นอนแล้ว นั่นเท่ากับว่า "ดีพี เวิลด์ แชมเปียนชิพ" จะเป็นแชมป์รายการสุดท้ายภายใต้อุปกรณ์แข็งของ “ไทเทิลลิส” ซึ่งเรียกได้ว่าจบลงแบบแฮปปีเอนด์ดิง

โอกาสนี้ “ยูโรเปียนทัวร์ ดอท คอม” เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของยูโรเปียน ทัวร์ ได้ขอเปิดถุงกอล์ฟแห่งความสำเร็จตามธรรมเนียมแชมป์ของ รอรีย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฟอร์มสุดยอดในวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่เจ้าตัวทำ 5 เบอร์ดีรวดใน 5 หลุมสุดท้าย แซงหน้า จัสติน โรส นักกอล์ฟอังกฤษเป็นแชมป์ด้วยสกอร์รวม 23 อันเดอร์พาร์ 265 ปิดฉากการทัวณ์อย่างยิ่งใหญ่

ทั่วไปๆ ตามกฎสากลระบุว่า นักกอล์ฟสามารถมีไม้ได้ไม่เกิน 14 ไม้ในถุงกอล์ฟขณะที่ออกทัวร์ ซึ่งรอรีย์ เลือกที่จะแพ็คลงไปเต็มโควต้า 14 ไม้ลงในถุงกอล์ฟใบยักษ์ที่มีแคดดีคู่ใจแบกตามตลอดการตี 18 หลุมทั้ง 4 วัน ณ สนาม จูเมราห์ กอล์ฟ อีสเตทส์ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

โดยทั้ง 14 ไม้แห่งความสำเร็จของ แม็คอิลรอย ประกอบด้วย หัวไม้แฟร์แวย์ 1 ไทเทิลลิสต์ 913 เอฟ-ดี 13.5 องศา (913 F-D - 13.5° ), หัวไม้แฟร์เวย์ 2 ไทเทิลลิส์ 913 เอฟ-ดี 18 องศา (Titleist 913 F-D - 18°), เหล็กเบอร์ 3-9 ไทเทิลลิสต์ 712 เอ็มบี (Titleist, 712 MB ), พิชชิงเวดจ์ โวกีย์ เอสเอ็ม4 (Titleist, Vokey SM4 ), แซนด์ เวดจ์ โวกีย์ เอสเอ็ม4 - 54 องศา (Titleist, Vokey SM4 - 54° ), ลอบเวดจ์ โวกีย์ เอสเอ็ม4 - 60 องศา (Titleist, Vokey SM4 - 60° ), ไดรฟ์เวอร์ ไทเทิลลิสต์ 913 ดี3 - 8.5 องศา (Titleist, 913 D3 - 8.5°) และพัตเตอร์คู่ใจ ไทเทิลลิสต์ เอสซี จีเอสเอส (Titleist, SC GSS) บวกกับลูกกอล์ฟไทเทิลลิสต์รุ่นโปร 1 อีก 9 ลูก และรองเท้ากอล์ฟฟุตจอยอีก 1 คู่

ทั้งนี้ แม็คอิลรอย ชี้ว่าทำเบอร์ดีในหลุม 17 พาร์ 3ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์กดดันมีสกอร์รวมตามกลังอยู่ 1 สโตรก คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่สามารถตนเองพลิกสถานการณ์กลับมาชนะ จัสติน โรส ในช่วง 5 หลุมสุดท้ายได้ ซึ่งเขามี 2 ทางเลือกคือเสี่ยงตีบุกเพื่อลุ้นทำ “โฮลด์อินวัน” และขึ้นเป็นผู้นำทันทีก่อนเล่นหลุมสุดท้าย หรือตีประคองให้ขึ้นกรีนและตามพัตต์เบอร์ดีเพื่อเสมอ

โดยเขาเลือกหยิบเหล็ก 5 ขึ้นมาแบบไม่ลังเลก่อนตีฝ่าน้ำระยะกว่า 200 หลา ขึ้นกรีนไห่างจากธงพร้อมตามพัตต์เบอร์ดีง่ายๆ ก่อนจะเล่นหลุมสุดท้ายเก็บอีก 1 เบอร์ดีเข้าป้ายเป็นแชมป์ ทำเอา โรส ที่ตีจบไปก่อนและนั่งลุ้นอยู่ในคลับเฮาส์ต้องอกหักไปตามๆ กัน

"สถานการณ์มันไม่ง่ายเลยที่จะให้ลงตรงจุดที่ต้องการทั้งที่มีบังเกอร์เกะกะอยู่รอบๆ และถ้าผมเสี่ยงอาจตีไปตกน้ำหรือหลุมทรายได้ แต่ผมเลือกถูกและเล่นได้ดีทั้ง 2 ช๊อต ก่อนพลิกขึ้นมาเป็นผู้นำได้ในช่วงสุดท้าย" แม็คอิลรอย กล่าว

จากนี้ในปี 2013 เจ้าของแชมป์ “เรซ ทู ดูไบ” จะออกสตาร์ททัวร์นาเมนต์แรกที่ศึก "อาบูดาบี เอชเอสบีซี กอล์ฟ แชมเปียนชิพ" ณ สนามอาบูดาบี กลอ์ฟ คลับ ในกรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ช่วงระหว่างวันที่ 17-20 มกราคม 2555 ซึ่งเจ้าตัวประกาศชัดของป้องกันแชมป์ให้ได้และหวังจะคว้าแชมป์เมเจอร์อย่าง “เดอะ มาสเตอร์” และ “ดิ โอเพน” ซึ่งเป็น 2 รายการที่ยังไม่เคยสัมผัสมาก่อนให้ได้

อย่างไรก็ตามความน่าสนใจยังอยู่ที่ รอรีย์ จะลงแข่งภายใต้ชื่อสปอนเซอร์รายไหน ในเมื่อมี “ไนกี” แบรนด์ดังจากเมืองลุงแซมตามจีบอยู่ไม่ห่าง และที่สำคัญเขาจะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นเดิมๆ เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากผลงานแชมป์ 10 รายการในยูโรเปียน ทัวร์ ที่เคยสร้างชื่อมากับ “ไทเทิลลิสต์” ได้หรือไม่มากกว่า

เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล