เอเยนซี - ศึก พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2012-13 โม่แข้งผ่านพ้นไป 12 นัดยังไม่มีกุนซือรายใดชะตาขาดถูกตะเพิดตกเก้าอี้แม้แต่คนเดียว ทว่าตอนนี้อยู่ระหว่างกลางเดือนพฤศจิกายนที่ถือเป็นช่วงแห่งการ "พิพากษา" เพราะหากชะล่าใจปล่อยให้ล่วงเลยถึงเทศกาลคริสต์มาสหรือลามไปถึงโปรแกรมโหด "บ็อกซิง เดย์" อาจจะสายเกินแก้สำหรับบรรดาทีมโซนท้ายตารางทั้งหลาย ซึ่งตอนนี้ มาร์ค ฮิวจ์ส นายใหญ่ ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส คือเต็งจ๋า เพราะคือสโมสรเดียวจาก 4 ดิวิชัน ที่ยังสะกดคำว่า "ชนะ" ไม่เป็น
ถือเป็นเดือนที่ทุกทีมโซนท้ายตารางต้องเร่งเครื่องกันเต็มสูบเพื่อให้หายใจหายคอคล่องขึ้น เซาแธมป์ตัน เริ่มมีรอยยิ้มจากกุนซือ ไนเจล แอดกินส์ หลังวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมาบุกชนะ ควีนส์ ปาร์ค 3-1 เช่นเดียวกับ เรดดิง ที่เปิดบ้านชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 ตามด้วย ซันเดอร์แลนด์ ที่ออกนอกบ้านไปชนะ ฟูแลม 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 พ.ย.แถมยังมีเกมตกค้างในมืออีก 1 นัด ดังนั้นภาพจึงเริ่มชัดเจนขึ้นแล้วว่า "ทหารเสือราชินี" จมบ๊วยมีเพียง 4 แต้มจาก 12 นัดขยับไล่ขึ้นไปคือ "นักบุญ" 8 แต้มและ แอสตัน วิลลา 9 แต้ม
ตอนนี้กุนซือทั้ง 20 สโมสรยังเป็นหน้าเดิมนับตั้งแต่ออกสตาร์ทเมื่อเดือนสิงหาคม หากยังเป็นเช่นนี้จนถึงวันที่ 1 ธันวาคมจะถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ พรีเมียร์ ลีก ทว่ายังเหลือเวลาอีก 2 อาทิตย์กว่าจะถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งสถิติไม่เคยโกหกใครที่ผ่านมามี 21 รายต้องเปลี่ยนงานภายในช่วงเวลานี้นับตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมา
กุนซือส่วนใหญ่มักจะอ้างว่าขอเวลาพิสูจน์ตัวเอง 10 นัดจากนั้นค่อนให้บอร์ดบริหารและแฟนบอลพิจารณาผลงาน ซึ่งก็เริ่มขึ้นแล้วแฟนบอล "คิวพีอาร์" ชูป้ายขับไล่และด่าทอ ฮิวจ์ส ระหว่างเกมที่แพ้ เซาแธมป์ตัน ข้อความระบุต้องการได้ตัว แฮร์รี เรดแน็ปป์ อดีตนายใหญ่ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ เข้ามากอบกู้สถานการณ์เป็นการด่วน
ข้อมูลที่ สมาคมผู้จัดการลีกอาชีพ หรือ แอลเอ็มเอ (League Managers Association) ระบุเอาไว้ว่าการเลิกจ้างช่วงเดือนพฤศจิกายนพิจารณาเฉพาะ 3 ทีมท้ายตารางมี 3 ทีมที่อยู่รอดหลังจบนัดที่ 38 ไม่มากนักก็คือ วีแกน แอธเเลติก ปี 2007, ปอร์ทสมัธ ปี 2006 และ โคเวนทรี ซิตี ปี 1997 ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงช่วงนี้ก็ไม่สามารถการันตีอะไรได้เสมอไป ฤดูกาลที่แล้ว สตีฟ บรูซ ที่ถือว่ามีโปรไฟล์พอสมควรกับการคุม ซันเดอร์แลนด์ โดยตอนนั้นรั้งอันดับ 16 เป็น มาร์ติน โอนีลล์ เข้ามาแทน ซึ่งก็พาทีมรอดตกชั้นได้สำเร็จแถมจบอันดับ 13 ของตารางถือว่าทีมตัดสินใจได้ถูกต้อง
ไม่ใช่เฉพาะสโมสรเล็กๆ เท่านั้น ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ยักษ์ใหญ่ประจำกรุงลอนดอนหนึ่งในทีมระดับหัวแถวก็เคยใช้เดือนพฤศจิกายนเชือดกุนซือ 3 รายช่วง 18 ปีที่ผ่านมาคือ ออสซี อาร์ดิเลส, เจอร์รี ฟรานซิส และ ฌาคส์ ซองตินี นอกจากนี้ รอย ฮ็อดจ์สัน (แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส) รอย อีแวนส์ (ลิเวอร์พูล) และ เดวิด พลีท (เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์) ก็เคยเผชิญกับช่วงทมิฬนี้มาแล้วทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตามสถิติยังระบุอีกว่าเดือนธันวาคมถือว่ามีการเลิกจ้างมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของ พรีเมียร์ ลีก ถึง 14 รายดังนั้นบรรดากุนซือสโมสรท้ายตารางคงยากจะข่มตาหลับไปอีกหลายสัปดาห์เลยทีเดียวถ้าอันดับในตารางยังไม่กระเตื้องพ้นโซนแดง เพราะว่าประธานของทีมเองก็ย่อมถูกกดดันจากแฟนบอลเช่นกันให้ตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง
ถือเป็นสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสำหรับ โทนี เฟอร์นานเดซ ประธาน ควีนส์ ปาร์ค กับการจะไล่กุนซือสักคนและมองหาแนวทางใหม่ เพราะปกติเดือนพฤศจิกายนมักจะมีการประชุมบอรืดบริหารเพื่อกำหนดแนวทางการทำทีมและงบประมาณเสริมทัพช่วงเดือนมกราคมที่ตลาดซื้อ-ขายนักเตะรอบสองจะเปิดทำการ เงินชดเชยสำหรับการไล่ ฮิวจ์ส ที่ยืนยันไม่ลาออกเด็ดขาอยู่ที่ 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 500 ล้านบาท) จะต้องถูกนำเข้ามาพิจารณาด้วยว่าคุ้มหรือไม่
ถือว่าชะตาของ ฮิวจ์ส ใกล้ขาดเต็มที เพราะโปรแกรมถัดไปจะต้องไปเยือน 2 นัดคือพบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายนนี้น่าจะรอดยากเพราะ "ผีแดง" ไม่ต้องการแพ้รวดหลังเพิ่งบุกไปถูก นอริช ซิตี เชือด 0-1 ตามด้วย ซันเดอร์แลนด์ วันอังคารที่ 27 พ.ย. ก็ต้องจับตาดูว่าอดีตนายใหญ่ทีมชาติเวลส์, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, แมนเชสเตอร์ ซิตี และ ฟูแลม จะรอดเดือนนี้ไปได้หรือไม่ จับพลัดจับผลูอาจจะมีพลิกล็อกกุนซือรายอื่นปาดหน้าถูกเด้งไปก่อนก็ล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น