ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไม่พอใจฟีฟาที่ไม่อนุมัติใช้สนามหนองจอก เป็นสนามแข่งขันในรอบก่อนรองชนะเลิศ จนถึงรอบชิงชนะเลิศ ทั้งๆ ที่ได้ทำตามข้อตกลงที่ฟีฟาบอกมาทุกอย่าง พร้อมกับยืนยันว่า สนามมีความปลอดภัย พร้อมเปิดใช้อัฒจันทร์ชั้น 4 และ 5 นี้ในการจัดคอนเสิร์ตวันที่ 10 พ.ย.นี้แน่
เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่สนามบางกอก อารีนา ฟุตซอล หนองจอก โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร แถลงข้อเท็จจริงกรณีที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) ประกาศไม่รับรองสนามบางกอก ฟุตซอล อารีนา เป็นสนามแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ต่อหน้าสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจเรื่องนี้คับคั่ง
หลังจากเมื่อช่วงเย็นวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน 2555 ฟีฟา ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ไม่อนุมัติใช้สังเวียนดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่าถึง 1,290 ล้านบาท จัดแข่งได้ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ด้วยเหตุหวั่นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
ล่าสุด ผู้ว่าฯ กทม.ได้กล่าวว่า “ผมยังไมได้รับเอกสารอย่างเป็นทางการจากฟีฟา ว่า ไม่อนุมัติใช้สนามหนองจอกเป็นสนามฟุตซอลชิงแชมป์โลก จึงทำให้เราต้องคาดเดาว่า สาเหตุที่ฟีฟาตัดสินใจไม่เลือกสนามนี้ด้วยเหตุ 1.เรื่องความปลอดภัยของสนาม 2.ความล่าช้าในการสร้างสนาม”
“เรื่องของความล่าช้า ยอมรับว่า เกิดขึ้นได้เพราะ กทม.ได้รับอนุมัติให้ก่อสร้างในช่วงเดือน พ.ย.ปี 54 ขณะนั้นเกิดปัญหาน้ำท่วม อีกทั้งการหาผู้รับเหมาก่อสร้างเป็นไปอย่างยากลำบากในสภาวะเช่นนี้ โดยปกติแล้วการสร้างสนามขนาดพื้นที่ 10 ไร่ ในพื้นที่จำนวน 3 หมื่นตารางเมตร ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 500 วัน โดย กทม.ได้ตั้งเป้าไว้ว่าแล้วเสร็จใน 270 วัน หากนับตั้งแต่วันที่วางศิลาฤกษ์จนถึงเที่ยงคืนวันที่ 6 พ.ย.55 ใช้เวลา 286 วัน”
“การล่าช้าเพียง 16 วัน ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับการสร้างอาคารใหญ่ จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าคุณสร้างบ้านที่ไหนก็ตาม มักจะเกิดปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ตามจุดต่างๆ บ้าง ก็ต้องให้ผู้รับเหมาก่อสร้างทำการแก้ไข ซึ่งเราเองก็ได้มีการแก้ไขตามที่ฟีฟาต้องการแล้ว แต่เพราะเหตุใดฟีฟาถึงไม่ให้เราผ่าน เราสามารถสร้างให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งมีเวลาที่ตรวจสอบแก้ไข เราไม่ได้ล่าช้าแบบไร้เหตุผล หรือล่าช้าเกินกว่าการแข่งขัน มีเพียงห้องรับแขกของฟีฟาที่เราทำไม่เสร็จและดูเขาจะไม่พอใจในเรื่องนี้ แต่หากฟีฟามีน้ำใจซักหน่อยก็คงเข้าใจในเหตุจำเป็นของเราได้
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า “สำหรับเรื่องความปลอดภัยที่เป็นประเด็นใหญ่ในเวลานี้นั้น เรามีหนังสือรับรองจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ตามที่ฟีฟาเรียกร้องมา และเมื่อวันที่ 5 พ.ย.หรือก่อนประกาศห้ามใช้ 1 วัน เราได้จัดทดสอบอพยพคนจำนวน 650 คน ภายในเวลา 3.40 วินาที ดีกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 5.47 วินาที นอกจากนี้ เรายังร่วมมือกับฟีฟาทุกกรณีทั้งการทุบคอนกรีดบนอัฒจันทร์ เพื่อเปิดทางเดิน หรือเรื่องของพื้นสนาม ซึ่งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฟีฟาก็ไม่ได้ดูข้องใจเรื่องความปลอดภัยแต่อย่างใด”
การแถลงของฟีฟาทำให้เราประหลาดใจมาก เพราะส่วนที่ร้องขอเราทำไปหมดแล้ว เวลานี้ผมรู้สึกเหมือนนักมวยที่ยังไม่ได้ขึ้นเวทีแล้วโดนหมัดที่ไม่รู้มาจากไหนตรงเข้าหน้า แต่ผมยังไม่น็อกครับ ผมน็อกยาก” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
นอกจากนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยังยืนยันว่า กทม.จะแสดงมาตรฐานความปลอดภัยของสนามบางกอก ฟุตซอล อารีนา ให้ ฟีฟา ได้เห็นด้วยการจัดคอนเสิร์ต พร้อมกับเกมกระชับมิตรของทีมฟุตซอลดารา ในวันเสาร์ที่ 10 พ.ย.นี้ พร้อมกับเปิดอัฒจันทร์ชั้น 4 และ 5 ที่เคยถูกสั่งห้ามใช้อีกด้วย
“เราจะแสดงความยิ่งใหญ่ของสนามแข่งขันที่อยู่ในระดับ 1 ใน 5 ของเอเชีย ให้ทุกคนได้เห็น คอนเสิร์ต วันที่ 10 พ.ย.นี้ จะมีคนเข้ามาชมไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ตอนนี้ผมภูมิใจที่ กทม.มีสนามให้ชาวเมืองหลวง เราไม่ได้สร้างให้กับฟีฟา แต่เราสร้างให้พี่น้องชาว กทม.ส่วนที่เหลือนั้นเราจะดำเนินการก่อสร้างให้เสร็จสิ้นตามกำหนดการเดิม คือ เดือน เม.ย.ปี 2013”