สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยืนยัน ฯพณฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมอบถ้วยให้กับทีมแชมป์ "ไทยคมเอฟเอคัพ 2012" ด้วยตนเอง พร้อมจัดผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นลงทำหน้าที่เพื่อความเป็นกลาง โดยทั้งบุรีรัมย์ และ อาร์มี่ มั่นใจว่ากำชัยเหนือคู่ต่อสู้ได้อย่างแน่นอน
เมื่อเวลา 14.00น. การแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอลถ้วยมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า กับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา โดย ทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน และ อภิเชษฐ พุฒตาล เป็นตัวแทน “ปราสาทสายฟ้า” ส่วน พนิพล เกิดแย้ม และ ดาเนียล บลังโก้ มาในฝั่ง “สุภาพบุรุษวงจักร”
โดยนาย องอาจ กล่าวว่า “ เรามีการเตรียมความพร้อมเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดโดยมีเจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 200 คน ส่วนเรื่องบัตรเข้าชมนั้นได้แบ่งให้กับทั้งสองทีมเท่ากันคือ 12,000 ใบ ซึ่งบุรีรัมย์แจ้งยอดผู้ชมมาราว 8,000 คน ขณะที่ อาร์มี่ ยูไนเต็ด แจ้งยอดผู้ชมมา 5,000 คน สำหรับผู้ตัดสินจะเป็นชาวญี่ปุ่นเพื่อความเป็นกลาง ทั้งนี้เรายังได้รับเกียรติจากฯพณฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในการมอบถ้วยให้กับทีมแชมป์อีกด้วย”
มาที่ทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ผู้จัดการทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวถึงการเข้ารอบชิงชนะเลิศของทีมว่า “ปีนี้เรายอมรับว่าผลงานในไทยพรีเมียร์ลีกไม่ดีเลย แต่โชคดีที่เราสามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ได้ถึงสองรายการด้วยกันทั้ง มูลนิธิ ไทยคม เอฟเอฟคัพ และ โตโยต้าลีกคัพ มาได้ เป้าหมายที่สำคัญของเราคือคว้าแชมป์ เพื่อสิทธิ์การได้คัดเลือกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง เชื่อว่าเกมในวันอาทิตย์นี้จะสนุกอย่างแน่นอน เพราะทั้งสองต่างมีเกมรุกที่เป็นหมัดเด็ดด้วยกันทั้งคู่”
ด้าน พนิพล เกิดแย้ม กุนซืออาร์มี่ ยูไนเต็ด กล่าวว่า “เกมนี้เราเป็นรองบุรีรัมย์ทุกด้าน แต่อาร์มี่ก็มีหัวใจที่แข็งแกร่ง ผมยังเชื่อว่าเราจะมีเซอร์ไพรส์เอาชนะบุรีรัมย์ได้หากได้แรงสนับสนุนจากแฟนบอลอย่างล้นหลาม”
สำหรับฟุตบอลถ้วยมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันวันที่ 4 พ.ย.นี้ ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 19.00 น. โดยผู้ชนะจะได้สิทธิ์ไปแข่งขันฟุตบอลถ้วยใหญ่ของเอเชีย “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013” รอบคัดเลือก พร้อมเงินรางวัล 3 ล้านบาท ส่วนรองแชมป์ได้เพียง 5 แสนบาท