ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ศูนย์หน้าชาวเม็กซิกันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สวมบทซูเปอร์ซับ หลังพังประตูชัยในช่วง 15 นาทีสุดท้าย ช่วยให้ทีมบุกมาเอาชนะ เชลซี ซึ่งเหลือผู้เล่นเพียง 9 คน จากการถูกไล่ออกของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช และ เฟอร์นานโด ตอร์เรส 3-2 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2555
เชลซี 2-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
แมนฯ ยูไนเต็ด รอคอยชัยชนะเกมแรกในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ นับตั้งแต่ปี 2002 เกมนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม ขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม หวังเก็บ 3 คะแนน เพื่อทำแต้มเข้าใกล้ เชลซี นำโดย เวย์น รูนีย์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี เป็นคู่หัวหอก ขณะที่ โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ ผกุนซือ "สิงห์บลูส์" วาง เฟอร์นานโด ตอร์เรส เป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี ออสการ์ , เอเดน ฮาซาร์ด และ ฆวน มาตา เป็นตัวสนับสนุน
เสียงนกหวีดดังขึ้นเพียง 2 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายทักทายก่อน เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ได้โอกาสยิงจากนอกกรอบโทษ แต่เข้าซอง ปีเตอร์ เช็ก ต่อมานาทีที่ 3 สาวก "เรด อาร์มี" เฮก่อน เมื่อ
เวย์น รูนีย์ เปิดบอลเรียดจากกราบขวามาให้ "อาร์วีพี" ซัดชนเสา บอลเด้งมาโดน ดาวิด ลุยซ์ ตุงตาข่าย หลังตกเป็นรอง เชลซี ยังคงเน้นความแน่นอนในการเข้าทำ แต่ยังไม่มีจังหวะปิดสกอร์ จนกระทั่งนาทีที่ 12 "ปิศาจแดง" ทิ้งห่างเป็น 2-0 เมื่อ อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดบอลเรียดจากฝั่งขวามาให้ ศูนย์หน้าค่าตัว 24 ล้านปอนด์ ล้มตัวยิงผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก ไม่มีเหลือ
นาทีที่ 24 "สิงโตน้ำเงินคราม" พลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดาย เมื่อ ดาวิด ลุยซ์ ยิงฟรีคิกนอกกรอบโทษเยื้องมาทางด้านซ้ายด้วยการแปเต็มแรง ทว่า ดาบิด เด เคอา เซฟไว้ได้ด้วยเท้า จากนั้นอีก 1 นาที เอเดน ฮาซาร์ด พริ้วหนี ไมเคิล คาร์ริค ก่อนซัดไกลบริเวณหัวกะโหลด้านซ้ายไม่ตรงกรอบ ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แชมป์ลีกสูงสุด 19 สมัย ตั้งรับอย่างเหนียวแน่น ทำให้ ลูกทีมของ โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ ไม่มีลุ้นตีไข่แตก จนกระทั่งนาทีที่ 34 ฆวน มาตา เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวามาให้ แกรี เคฮิลล์ โขกเต็มศีรษะ แต่ เด เคอา ปฏิเสธประตูดังกล่าว
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กดดันอย่างหนัก นาทีที่ 41 ฆวน มาตา บรรจงเปิดบอลโค้งมาทางเสาสองให้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส โขกติดเซฟ ดาบิด เด เคอา อย่างไรก็ตาม ก่อนหมดเวลา 2 นาที สาวก "เดอะ บลูส์" เริ่มมีความหวัง เมื่อ มาตา ปั่นฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลกเยื้องมาทางด้านขวาเสียบเสาไกลอย่างสุดสวย ถัดมาอีก 1 นาที "เอล นีโญ" ไหลบอลให้ อดีตนักเตะ บาเลนเซีย หลุดเข้าไปทางกรอบโทษก้านขวา แต่ยิงไม่ผ่าน ดาบิด เด เคอา ครบ 45 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงนำอยู่ 2-1
ครึ่งหลัง อาคันตุกะจากเมืองแมนเชสเตอร์ เน้นการตั้งรับ แต่ต้องมาถูกตีเสมอในนาทีที่ 52 เมื่อ ฆวน มาตา เปิดบอลจากกราบขวาล้นมาถึง ออสการ์ ทางเสาสอง ก่อน มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวบราซิล จะตวัดกลับมาหน้าประตูให้ รามิเรส โขกกดลงพื้นผ่านมือ ดาบิด เด เคอา ไม่มีเหลือ จากนั้น ยักษ์ใหญ่จากกรุงลอนดอน ยังคงเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง แต่กลับต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เมื่อ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ทำฟาวล์ แอชลีย์ ยัง ในจังหวะหลุดเดี่ยว ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนาม
ต่อมานาทีที่ 64 เวย์น รูนีย์ ลองปั่นฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลกเยื้องมาทางด้านซ้าย บอลข้ามคานชนิดมีลุ้น นาทีที่ 68 สถานการณ์ของ เจ้าถิ่น กลับย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ถูกใบเหลืองที่ 2 ข้อหาเจตนาพุ่งล้ม หลังถูกปะทะโดย จอห์นนี อีแวนส์ ทำให้เหลือผู้เล่นเพียง 9 คนเท่านั้น
นาทีที่ 75 กองเชียร์ "เรด เดวิลส์" เฮลั่นสนาม เมื่อ ไมเคิล คาร์ริค แทงบอลให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ลั่นไกบริเวณหัวกะโหลกด้านขวา บอลติดมือ ปีเตอร์ เช็ก แล้วค่อยๆ ไหลไปชนเสา ก่อนที่แนวรับ "สิงบลูส์" จะช่วยกันสกัดมาเข้าทาง ราฟาเอล ยิงสวนจากกรอบโทษด้านขวา บอลโดน ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ตุงตาข่าย
ช่วง 10 นาทีสุดท้าย จ่าฝูงของ พรีเมียร์ชิป เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า ขณะที่ ทีมเยือน เน้นการครองบอลเพื่อปิดเกม จึงไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะถึงรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ด้วยสกอร์ 3-2 ทำคะแนนไล่จี้ขึ้นมาเหลือเพียง 1 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , แอชลีย์ โคล , ดาวิด ลุยซ์ , แกรี เคฮิลล์ , รามิเรส , ฆวน มาตา , จอน โอบี มิเกล , เอเดน ฮาซาร์ด , ออสการ์ , เฟอร์นานโด ตอร์เรส
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา , ราฟาเอล , ปาทริซ เอฟรา , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , จอห์นนี อีแวนส์ , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ไมเคิล คาร์ริค , แอชลีย์ ยัง , ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ , เวย์น รูนีย์ , โรบิน ฟาน เพอร์ซี
ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2555
เชลซี 2-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
แมนฯ ยูไนเต็ด รอคอยชัยชนะเกมแรกในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ นับตั้งแต่ปี 2002 เกมนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม ขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม หวังเก็บ 3 คะแนน เพื่อทำแต้มเข้าใกล้ เชลซี นำโดย เวย์น รูนีย์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี เป็นคู่หัวหอก ขณะที่ โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ ผกุนซือ "สิงห์บลูส์" วาง เฟอร์นานโด ตอร์เรส เป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี ออสการ์ , เอเดน ฮาซาร์ด และ ฆวน มาตา เป็นตัวสนับสนุน
เสียงนกหวีดดังขึ้นเพียง 2 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายทักทายก่อน เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ได้โอกาสยิงจากนอกกรอบโทษ แต่เข้าซอง ปีเตอร์ เช็ก ต่อมานาทีที่ 3 สาวก "เรด อาร์มี" เฮก่อน เมื่อ
เวย์น รูนีย์ เปิดบอลเรียดจากกราบขวามาให้ "อาร์วีพี" ซัดชนเสา บอลเด้งมาโดน ดาวิด ลุยซ์ ตุงตาข่าย หลังตกเป็นรอง เชลซี ยังคงเน้นความแน่นอนในการเข้าทำ แต่ยังไม่มีจังหวะปิดสกอร์ จนกระทั่งนาทีที่ 12 "ปิศาจแดง" ทิ้งห่างเป็น 2-0 เมื่อ อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดบอลเรียดจากฝั่งขวามาให้ ศูนย์หน้าค่าตัว 24 ล้านปอนด์ ล้มตัวยิงผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก ไม่มีเหลือ
นาทีที่ 24 "สิงโตน้ำเงินคราม" พลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดาย เมื่อ ดาวิด ลุยซ์ ยิงฟรีคิกนอกกรอบโทษเยื้องมาทางด้านซ้ายด้วยการแปเต็มแรง ทว่า ดาบิด เด เคอา เซฟไว้ได้ด้วยเท้า จากนั้นอีก 1 นาที เอเดน ฮาซาร์ด พริ้วหนี ไมเคิล คาร์ริค ก่อนซัดไกลบริเวณหัวกะโหลด้านซ้ายไม่ตรงกรอบ ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แชมป์ลีกสูงสุด 19 สมัย ตั้งรับอย่างเหนียวแน่น ทำให้ ลูกทีมของ โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ ไม่มีลุ้นตีไข่แตก จนกระทั่งนาทีที่ 34 ฆวน มาตา เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวามาให้ แกรี เคฮิลล์ โขกเต็มศีรษะ แต่ เด เคอา ปฏิเสธประตูดังกล่าว
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กดดันอย่างหนัก นาทีที่ 41 ฆวน มาตา บรรจงเปิดบอลโค้งมาทางเสาสองให้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส โขกติดเซฟ ดาบิด เด เคอา อย่างไรก็ตาม ก่อนหมดเวลา 2 นาที สาวก "เดอะ บลูส์" เริ่มมีความหวัง เมื่อ มาตา ปั่นฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลกเยื้องมาทางด้านขวาเสียบเสาไกลอย่างสุดสวย ถัดมาอีก 1 นาที "เอล นีโญ" ไหลบอลให้ อดีตนักเตะ บาเลนเซีย หลุดเข้าไปทางกรอบโทษก้านขวา แต่ยิงไม่ผ่าน ดาบิด เด เคอา ครบ 45 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงนำอยู่ 2-1
ครึ่งหลัง อาคันตุกะจากเมืองแมนเชสเตอร์ เน้นการตั้งรับ แต่ต้องมาถูกตีเสมอในนาทีที่ 52 เมื่อ ฆวน มาตา เปิดบอลจากกราบขวาล้นมาถึง ออสการ์ ทางเสาสอง ก่อน มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวบราซิล จะตวัดกลับมาหน้าประตูให้ รามิเรส โขกกดลงพื้นผ่านมือ ดาบิด เด เคอา ไม่มีเหลือ จากนั้น ยักษ์ใหญ่จากกรุงลอนดอน ยังคงเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง แต่กลับต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เมื่อ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ทำฟาวล์ แอชลีย์ ยัง ในจังหวะหลุดเดี่ยว ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนาม
ต่อมานาทีที่ 64 เวย์น รูนีย์ ลองปั่นฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลกเยื้องมาทางด้านซ้าย บอลข้ามคานชนิดมีลุ้น นาทีที่ 68 สถานการณ์ของ เจ้าถิ่น กลับย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ถูกใบเหลืองที่ 2 ข้อหาเจตนาพุ่งล้ม หลังถูกปะทะโดย จอห์นนี อีแวนส์ ทำให้เหลือผู้เล่นเพียง 9 คนเท่านั้น
นาทีที่ 75 กองเชียร์ "เรด เดวิลส์" เฮลั่นสนาม เมื่อ ไมเคิล คาร์ริค แทงบอลให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ลั่นไกบริเวณหัวกะโหลกด้านขวา บอลติดมือ ปีเตอร์ เช็ก แล้วค่อยๆ ไหลไปชนเสา ก่อนที่แนวรับ "สิงบลูส์" จะช่วยกันสกัดมาเข้าทาง ราฟาเอล ยิงสวนจากกรอบโทษด้านขวา บอลโดน ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ตุงตาข่าย
ช่วง 10 นาทีสุดท้าย จ่าฝูงของ พรีเมียร์ชิป เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า ขณะที่ ทีมเยือน เน้นการครองบอลเพื่อปิดเกม จึงไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะถึงรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ด้วยสกอร์ 3-2 ทำคะแนนไล่จี้ขึ้นมาเหลือเพียง 1 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , แอชลีย์ โคล , ดาวิด ลุยซ์ , แกรี เคฮิลล์ , รามิเรส , ฆวน มาตา , จอน โอบี มิเกล , เอเดน ฮาซาร์ด , ออสการ์ , เฟอร์นานโด ตอร์เรส
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา , ราฟาเอล , ปาทริซ เอฟรา , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , จอห์นนี อีแวนส์ , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ไมเคิล คาร์ริค , แอชลีย์ ยัง , ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ , เวย์น รูนีย์ , โรบิน ฟาน เพอร์ซี
