เอเยนซี - ก่อนหน้านี้มีบุคลากรคนดังวงการลูกหนังโลกหลายรายตัดสินใจมาหากินยังประเทศไทย อาทิเช่น ร็อบบี ฟาวเลอร์, ไบรอัน ร็อบสัน หรือว่า ปีเตอร์ รีด ล่าสุดเป็น สเวน-โกรัน อีริคส์สัน อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ อาสานั่งแท่นผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน ในศึกฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตาม “เอเอฟพี” (AFP) สำนักข่าวดังออกมาชี้ให้เห็นดั่งบรรทัดต่อจากนี้ว่า “บิ๊กเนม” อาจช่วยปลุกกระแสชั่วข้ามคืน แต่จะเป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับการแวดวงฟุตบอลไทยอย่างยั่งยืนหรือไม่
โดย ร็อบบี ฟาวเลอร์ หรือ “เดอะก็อด” (พระเจ้า) ของเหล่าสาวกลิเวอร์พูล สร้างความฮือฮาถูกดึงมาล่าตาข่ายให้ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ก่อนถูกผลักดันขึ้นรับหน้าที่กุนซือ ทว่าอดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษไม่สามารถใช้คาถาใดเสกความสำเร็จให้กับ “กิเลนผยอง” ทำให้ต้องระเห็จจากต้นสังกัดเพียงแค่ 6 เดือน หลังเซ็นสัญญา ซึ่งแข้งวัย 37 ปี เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ประธานสโมสรและซีอีโอ ของเมืองทองฯ ยูไนเต็ด รู้ดีว่าทำไมผมถึงต้องยุติบทบาทและมันก็แน่นอนว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลได้”
ขณะที่ ไบรอัน ร็อบสัน ยุติหน้าที่การเข้ามาคุมทีมชาติไทยเมื่อปี 2011 หลังทำงานได้ 2 ปี ซึ่งอดีตมิดฟิลด์กัปตันทีมชาติอังกฤษ ซึ่งบุคลิกเป็นคนตรงไปตรงมา เคยเผยแบบลับๆ กับนักข่าวทำนองทุกวันนี้ฟุตบอลกับธุรกิจแยกกันไม่ออก และก็มีนักธุรกิจรายหนึ่งที่โกยกำไรมหาศาลจากการเข้าไปคร่ำวอดในวงการฟุตบอลอังกฤษ
ส่วน เซส เรห์มาน ปราการหลังร่างยักษ์ลูกครึ่งปากีสถาน-อังกฤษ เคยเล่นให้ ฟูแลม ทีมกลางตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นกระแสกับ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ได้ไม่นานก็ต้องย้ายไปเล่นในลีกฮ่องกงกับ กิทชี เอฟซี ซึ่งการมาของ สเวน-โกรัน อีริคส์สัน ทำให้หลายคนต้องฉุกคิดว่าแท้ที่จริงแล้ว กุนซือชาวสวีดิชมาเพื่อรับสัญญา 2 เดือน ค่าจ้างราว 100,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.1 ล้านบาท) หรือเพื่อช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทยกันแน่ แม้เจ้าตัวเคยเผยว่า “มันคือความท้ายทายครั้งใหญ่ ประเทศไทยฟุตบอลกำลังจะพัฒนาขึ้นและได้รับความสนใจขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนพวกเขาต้องการให้ผมเข้าไปมีส่วนช่วยพัฒนาทีมชาติและสโมสร”
ด้าน วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือคนปัจจุบันของทีมชาติไทย กล่าวถึงเพื่อนร่วมอาชีพว่า “นี่ถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประเทศไทย ที่นี่ต้องการโค้ชฝีมือดีอย่าง สเวน ซึ่งเป็นคนที่มากด้วยประสบการณ์ คนไทยสามารถเรียนรู้อะไรมากมายจากเขาได้แน่นอน”
อย่างไรก็ตาม การมาของ อีริคส์สัน ไม่ประจวบเหมาะนักหากคิดเข้ามาพัฒนาวงการฟุตบอลไทย เพราะนี่เป็นช่วงเวลาที่มีเรื่องยุ่งเหยิงมากมาย เกิดขึ้น เมื่อมีการสอบสวนการฉ้อโกงซึ่งส่งผลลบต่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ภายใต้การนำของ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฯ ผู้ถูกครหาในเรื่องทุจริตต่างๆ นานา
ทว่าเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ควรที่จะมาหยุดการเข้ามาของผู้เล่นต่างชาติที่บรรดาเอเยนต์พยายามหามาเสนอจากลีกระดับล่างของยุโรป เอเชีย แลแอฟริกัน เสียทีเดียว เพราะอย่างน้อยก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า นอกจากการปลุกกระแสฟุตบอลลีกแดนสยามให้ขึ้นไปติดลมบน บรรดาแข้งเหล่านี้นำมาซึ่งความแข็งแกร่ง ศักยภาพที่สามารถยกระดับฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกได้ ทั้งยังเป็นการผลักดันให้ดาวรุ่งของไทยต้องดิ้นรนต่อสู้ มีความกระตือรือร้นในการแย่งตำแหน่ง ซึ่งมันจะนำมาซึ่งการพัฒนากันต่อไป