คอลัมน์ “The Golf Touch” โดย “วันปีย์ สัจจมาร์ค”
โดยปกติแล้วคนไทยเองก็ชอบเล่นแมทช์เพลย์พอสมควร หลายๆ ครั้งก็ไม่ได้เล่นเพียงแค่ตัวต่อตัว แต่อาจจะมีเล่นเป็นทีมด้วย ใครที่ยังไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งแมทช์เพลย์กับเพื่อนๆ บางครั้งคุณอาจจะไม่ได้แพ้ในสนามกอล์ฟเสมอไปนะ หลายครั้งแพ้ตั้งแต่ก่อนลงสนามด้วยซ้ำ ผมหมายถึงแพ้เพราะการจับคู่หรือจัดทีมได้ไม่แกร่งพอ สัปดาห์นี้มีการแข่งขันประเภททีมซึ่งเป็นรายการที่ดังที่สุดของโลกก็คือ "ไรเดอร์ คัพ" สุดยอดทีมอย่างอเมริกาต้อนรับ 12 ผู้เล่นของฝั่งยุโรป ดูจากผู้เล่นแล้วปีนี้บอกได้เลยว่ามันส์มากๆ แน่นอน แต่นอกจากดูเอามันส์แล้ว เราอาจจะได้ความรู้จากการประกบคู่ของทั้งสองทีม
โดยทั่วไปแล้วแนวทางการประกบคู่มีอยู่ 4 แนวด้วยกัน แนวที่หนึ่ง "ผู้เล่นถูกคอหรือเข้าขากันแบบรู้ตัว" ดังนั้นเขาขอคู่กัน! แนวที่สอง "ผู้เล่นที่มีเกมส์เสริมกัน" เช่นเอาคนตีไกลมากอย่าง ดัสติน จอห์นสัน มาจับคู่กับ แมท คูชาร์ แนวที่สาม "คนที่มีเกมเหมือนกัน" โดยมากจะหมายถึง "ระยะ" เป็นหลัก เพื่อให้ขึ้นกรีนระยะคุ้นเคยทั่งคู่ เราจะเห็นการประกบคู่ลักษณะนี้ในการแข่งแบบโฟซั่มส์ค่อนข้างบ่อย และสุดท้ายก็คือ "ประสบการณ์" เอาคนประสบการณ์น้อยมาจับคู่กับคนประสบการณ์เยอะ เพื่อสมดุลย์ที่ดีในการเล่น
ถ้าจะให้บอกว่าทั้ง 4 แนวนี้แนวไหนดีที่สุด คงตอบไม่ได้หรอกครับ! เพราะว่าขึ้นอยู่กับสถานที่และสถานการณ์ รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ อีกมาก จุดนี้คือหน้าที่และบทบาทความสำคัญของกัปตันทีม ผู้มีอำนาจตัดสินว่าใครคู่กับใครอย่างไรบ้าง เช่นปีนี้ผู้เล่นอเมริกาที่ติดทีมโดยอัตโนมัติเป็นพวกที่มีระยะดีผสมกับนักกอล์ฟหน้าใหม่พอสมควร รวมไปถึงความเห็นของ เดวิด เลิฟ เดอะ เธิร์ด ที่คิดว่าในศึกแต่ละครั้งที่ผ่านมา ทีมอเมริกาแพ้บนผิวกรีน! ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ทีมยุโรปมักจะพัตต์ดีกว่าเสมอใน ไรเดอร์ คัพ ถ้าให้ผมเดาใจกัปตัน เลิฟ ก็น่าจะมาแนว "ประสบการณ์" และ "เกมเสริมกัน" เป็นหลัก เพราะดูจากตัวเลือก 4 คนที่เลือกเข้ามาคือ จิม ฟิวริค, สตีฟ สตริคเกอร์ สองคนนี้มากประสบการณ์รวมทั้งเป็นนักพัตต์มือดีและเล่นเกมสม่ำเสมอ ทางด้าน แบรนด์ สนีเดเกอร์ สุดยอดนักพัตต์แนวหน้าของทัวร์ และยังมีพ่วงปืนใหญ่ขาบู๊อย่าง ดัสติน จอห์นสัน มาอีกหนึ่งคน น่าจะเพื่อเสริมมือสม่ำเสมอแต่ไม่ดุเช่น แซค จอห์นสัน หรือ เจสัน ดัฟเนอร์
ดังนั้นสัปดาห์นี้นอกเหนือไปจากการดูแบบเอามันส์แล้ว เราน่าจะได้บทเรียนจากวิธีประกบคู่ที่มีประสิทธิภาพมาประยุกต์ใช้กับก๊วนศักดิ์ศรี 20 บาทของเราด้วย!
โดยปกติแล้วคนไทยเองก็ชอบเล่นแมทช์เพลย์พอสมควร หลายๆ ครั้งก็ไม่ได้เล่นเพียงแค่ตัวต่อตัว แต่อาจจะมีเล่นเป็นทีมด้วย ใครที่ยังไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งแมทช์เพลย์กับเพื่อนๆ บางครั้งคุณอาจจะไม่ได้แพ้ในสนามกอล์ฟเสมอไปนะ หลายครั้งแพ้ตั้งแต่ก่อนลงสนามด้วยซ้ำ ผมหมายถึงแพ้เพราะการจับคู่หรือจัดทีมได้ไม่แกร่งพอ สัปดาห์นี้มีการแข่งขันประเภททีมซึ่งเป็นรายการที่ดังที่สุดของโลกก็คือ "ไรเดอร์ คัพ" สุดยอดทีมอย่างอเมริกาต้อนรับ 12 ผู้เล่นของฝั่งยุโรป ดูจากผู้เล่นแล้วปีนี้บอกได้เลยว่ามันส์มากๆ แน่นอน แต่นอกจากดูเอามันส์แล้ว เราอาจจะได้ความรู้จากการประกบคู่ของทั้งสองทีม
โดยทั่วไปแล้วแนวทางการประกบคู่มีอยู่ 4 แนวด้วยกัน แนวที่หนึ่ง "ผู้เล่นถูกคอหรือเข้าขากันแบบรู้ตัว" ดังนั้นเขาขอคู่กัน! แนวที่สอง "ผู้เล่นที่มีเกมส์เสริมกัน" เช่นเอาคนตีไกลมากอย่าง ดัสติน จอห์นสัน มาจับคู่กับ แมท คูชาร์ แนวที่สาม "คนที่มีเกมเหมือนกัน" โดยมากจะหมายถึง "ระยะ" เป็นหลัก เพื่อให้ขึ้นกรีนระยะคุ้นเคยทั่งคู่ เราจะเห็นการประกบคู่ลักษณะนี้ในการแข่งแบบโฟซั่มส์ค่อนข้างบ่อย และสุดท้ายก็คือ "ประสบการณ์" เอาคนประสบการณ์น้อยมาจับคู่กับคนประสบการณ์เยอะ เพื่อสมดุลย์ที่ดีในการเล่น
ถ้าจะให้บอกว่าทั้ง 4 แนวนี้แนวไหนดีที่สุด คงตอบไม่ได้หรอกครับ! เพราะว่าขึ้นอยู่กับสถานที่และสถานการณ์ รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ อีกมาก จุดนี้คือหน้าที่และบทบาทความสำคัญของกัปตันทีม ผู้มีอำนาจตัดสินว่าใครคู่กับใครอย่างไรบ้าง เช่นปีนี้ผู้เล่นอเมริกาที่ติดทีมโดยอัตโนมัติเป็นพวกที่มีระยะดีผสมกับนักกอล์ฟหน้าใหม่พอสมควร รวมไปถึงความเห็นของ เดวิด เลิฟ เดอะ เธิร์ด ที่คิดว่าในศึกแต่ละครั้งที่ผ่านมา ทีมอเมริกาแพ้บนผิวกรีน! ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ทีมยุโรปมักจะพัตต์ดีกว่าเสมอใน ไรเดอร์ คัพ ถ้าให้ผมเดาใจกัปตัน เลิฟ ก็น่าจะมาแนว "ประสบการณ์" และ "เกมเสริมกัน" เป็นหลัก เพราะดูจากตัวเลือก 4 คนที่เลือกเข้ามาคือ จิม ฟิวริค, สตีฟ สตริคเกอร์ สองคนนี้มากประสบการณ์รวมทั้งเป็นนักพัตต์มือดีและเล่นเกมสม่ำเสมอ ทางด้าน แบรนด์ สนีเดเกอร์ สุดยอดนักพัตต์แนวหน้าของทัวร์ และยังมีพ่วงปืนใหญ่ขาบู๊อย่าง ดัสติน จอห์นสัน มาอีกหนึ่งคน น่าจะเพื่อเสริมมือสม่ำเสมอแต่ไม่ดุเช่น แซค จอห์นสัน หรือ เจสัน ดัฟเนอร์
ดังนั้นสัปดาห์นี้นอกเหนือไปจากการดูแบบเอามันส์แล้ว เราน่าจะได้บทเรียนจากวิธีประกบคู่ที่มีประสิทธิภาพมาประยุกต์ใช้กับก๊วนศักดิ์ศรี 20 บาทของเราด้วย!