นาย สุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ยืนยันเตรียมดำเนินการเจรจากับสหพันธ์เทนนิสอาชีพชาย หรือ เอทีพี เพื่อต่อสัญญาจัดการแข่งขันเทนนิสรายการ ไทยแลนด์ โอเพน ต่อไปอย่างแน่นอน แต่หากสุดท้ายไม่ต่อสัญญาก็จะยกให้บริษัทรายอื่นเข้ามารับช่วงต่อ
ศึกเทนนิสเอทีพี ทัวร์ รายการไทยแลนด์ โอเพน ที่ดำเนินการจัดการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 2547 ในช่วงของฤดูกาล เอเชียนสวิง กันยายน- ตุลาคม มาวันนี้ไทยดำเนินการจัดมาแล้วครบ 10 ปี ซึ่งสัญญาการจัดการแข่งขันกำลังจะหมดลงภายในปีหน้า และเวลานี้ก็ยังไม่ได้จัดการต่อสัญญาใหม่ออกไปแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดการแข่งขัน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานทัวร์นาเมนต์ เผยว่าจะมีการต่อสัญญาการจัด ไทยแลนด์ โอเพน กับทางเอทีพี ต่อไปแน่นอน เนื่องจากเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่น่าภาคภูมิใจของชาวไทยทุกคน แต่ทั้งนี้ หากไม่มีการต่อสัญญาก็จะมอบหมายให้บริษัทหรือออร์แกไนซ์ รายอื่น รับหน้าที่จัดการแข่งขันต่อ เพื่อให้รายการนี้อยู่กับประเทศไทยต่อไป
ส่วนข้อซักถามสำคัญถึงทัวร์นาเมนต์ในปีหน้าว่าจะมีการดึงนักหวดระดับท็อปโฟร์ มาแข่งขันที่เมืองไทยอีกหรือไม่ หลังปีนี้ไม่มีนักหวดรายใดในกลุ่มท็อปโฟร์ บินมาแข่งแม้แต่คนเดียว นายใหญ่วงการลูกสักหลาดไทย เผยว่า "ก็ต้องรอลุ้นกันว่าปีหน้าจะเป็นใคร อย่างปีนี้มีความตั้งใจเชิญ แอนดี เมอร์เรย์ กลับมาอีกครั้ง แต่หลังจากเขาคว้าเหรียญทองโอลิมปิกและแกรนด์สแลม ยูเอส โอเพน มาก่อนหน้า ทำให้เขาเลือกที่จะพักผ่อนเพื่อฟึ้นฟูสภาพร่างกาย อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อมั่นว่าหากปีหน้าไม่มีท็อปโฟร์บินมาแข่ง แต่ก็เชื่อว่านักเทนนิสรุ่นใหม่ในยุคนี้ จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาสร้างสีสันให้กับประเทศไทยได้ไม่แพ้นักหวดท็อปโฟร์อย่างแน่นอน"
สุดท้าย "บิ๊กสุวัจน์" ยังกล่าวชื่นชมผลงานของนักเทนนิสชายไทยที่สามารถทำผลงานเข้ารอบตัดเชือกประเภทคู่ได้ทั้งหมด อาทิ ดนัย อุดมโชค หรือ สนฉัตร-สรรค์ชัย รติวัฒน์ โดยกล่าวว่า "การแข่งขันครั้งนี้ผมรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ทั้ง ดนัย และ สนฉัตร-สรรค์ชัย เข้ารอบรองชนะเลิศได้ และแน่นอนว่าจะต้องมีนักเทนนิสไทยเข้ารอบชิงอย่างน้อยหนึ่งคู่ ซึ่งผมอยากจะขอเชิญชวนให้แฟนเทนนิสทุกคนเดินทางมาเชียร์ถึงข้างสนามเพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาต่อไป"
