คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
พร้อมๆกับที่ ประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในอีกซีกโลกหนึ่ง เกมการแข่งขันฟุตบอลในร่มเกมแรกได้ถือกำเนิดขึ้นที่ประเทศ อูรูกวัย ในปี 1932 โดยชื่อของกีฬาชนิดนี้ เขาบอกว่า มาจากภาษาโปรตูเกา “ ฟุตบอล เดอ ซาลาอ็อง ” ( futebol de salao ) คือฟุตบอลที่เล่นในร่ม หรือในห้องโถง แล้วก็นำคำมารวมให้สั้นเป็น ฟุตเซา ( futsal ) แต่หลายคนทั่วโลก รวมทั้งพี่ไทยดันออกเสียงว่า ฟุตซอล
เรื่องการออกเสียงผิดเพี้ยนนั้น เป็นประจำอยู่แล้วสำหรับคนทำงานในวงการต่างๆที่ไม่รู้ ไม่พิถีพิถัน คิดว่ามีชาติภาษาเดียวในโลก แถมยังตะแบง สอนเท่าไรก็ไม่รู้จักจำ อ้างไม่ใช่ภาษาบรรพบุรุษ สวนหมัดใส่หาว่ากระแดะซะอีก ไม่เช่นนั้น คำว่า “ เอเร่อร์ ” ( error ) ที่แปลว่า ข้อผิดพลาด ซึ่งวงการเทนนิสเอาไปใช้บ่อยๆว่า “ unforced error ” หมายถึง ความผิดพลาดที่ไม่ได้ถูกกดดัน คือดันตีเสียเอง ก็มักจะออกเสียงกันผิดๆว่า “ เออเร่อ ” กลายเป็นของผิดที่ใช้กันทั่วไป จนผู้สร้างหนังไทยเองยังนำไปตั้งชื่อเรื่องที่ออกฉายเมื่อต้นปีที่ผ่านมาว่า “ ATM เออรัก เออเร่อ ”
การแข่งขันฟุตเซา ชิงแช้มป์โลก ครั้งแรก เกิดขึ้นในปี 1989 โดย เนเธ่อแลนด์ส ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน และกรุยทางไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ไปพลาดท่าแพ้ บราซิว 1-2 ได้แค่รองแช้มป์
หนต่อมา มาเล่นกันที่ทวีปเอเชีย โดย ฮ่องกง ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพในปี 1992 คราวนี้เริ่มเข้าระบบให้ 4 ปีมีครั้ง และจัดปีเดียวกับ โอลิมปิค เกมส์ บราซิว ก็ยังคงครองความเป็นจ้าวในกีฬาชนิดนี้ ไม่ว่าจะกลางแจ้ง หรือ ในร่ม โดยในนัดชิงชนะเลิศ ถล่ม อเมริกา ไป 4-1
ในปี 1996 สเปน จัด ฟุตเซา ชิงแช้มป์โลก ครั้งที่ 3 แถวสิ้นปี เจ้าภาพเข้าถึงรอบชิงเหมือนกัน แต่ก็ไปเสร็จ บราซิว อีกเช่นเคย อย่างไรก็ตาม สเปน แสดงให้เห็นว่า ฝีเท้าของพวกเขานั้นอยู่แถวหน้าของโลกจริงๆ และเป็นทีมเดียวที่มีศักยภาพอาจสยบ นักเตะแซมบ้า ที่ผูกขาดครองบัลลังก์โลกมานาน โดยในอีก 4 ปีต่อมา คู่นี้ชิงกันอีกหนที่ กัวเตมาลา คราวนี้ สเปน เฉือนชนะไป 4-3
เข้าสู่ยุคมิลเลเนี่ยมที่ 3 ฟุตเซา ชิงแช้มป์โลก กลับมาที่ทวีปเอเชียอีกครั้ง ไชนีส ไทเป เป็นเจ้าภาพ สเปน ยังยิ่งใหญ่เหนือชั้น เขี่ย บราซิว ร่วงตกรอบรองชนะเลิศ ด้วยการดวลจุดโทษ หลังจากเสมอกันในเวลาปกติ และตนเองก็คว้าแช้มป์หนที่ 2 ติดกันด้วยการเอาชนะ อิตาลี 2-1
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว บราซิว ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพเอง และกลับมาทวงตำแหน่งแช้มป์โลกได้สำเร็จ ด้วยการดวลจุดโทษชนะ สเปน คู่ปรับจ้าวประจำ หลังจากเสมอในเวลาปกติ รวมความแล้ว ฟุตเซา ชิงแช้มป์โลก ผ่านไป 6 ครั้ง บราซิว คว้าแช้มป์ 4 ส่วน สเปน เก็บได้ 2
ผมเองก็ไม่ทราบว่า คณะกรรมการบริหาร สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดที่ดูแล ฟุตเซา ด้วยนั้น จะชอบประเทศทางเอเชียหรืออย่างไร รายการชิงแช้มป์โลก ครั้งที่ 7 ในปี 2012 วนเวียนกลับมาในทวีปเอเชียอีกเป็นหนที่ 3 และคราวนี้ ไทย ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ โดยชนะบรรดาชาติต่างๆที่แข่งกันเสนอตัว ทั้ง จีน อิหร่าน อาเซอร์ไบจาน สาธารณรัฐเช็ก ศรีลังกา และ กัวเตมาลา
Thailand 2012 ฟุตเซา ชิงแช้มป์โลก ครั้งที่ 7 จะมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันเพิ่มเป็น 24 ทีม จากที่เคยมีเพียง 16 ทีมตั้งแต่ครั้งแรก แล้วเพิ่งมาเพิ่มเป็น 20 ทีมเมื่อหนที่แล้วนี่เอง โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่มๆละ 4 ทีม นำ 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่ม รวมกับ อันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีม เข้ารอบน็อคเอ๊าท์ 16 ทีม
ทีมไทย ในฐานะประเทศเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับที่ 11 ของโลกได้อยู่ในกลุ่ม A ร่วมกับ ก๊อสตาริกา อันดับ 21 อูคราอิน อันดับ 8 และ ปารากวัย อันดับ 9 โอกาสเข้ารอบ 16 ทีมนั้นคงมีไม่น้อย และไม่ว่าสนามหนองจอกเสร็จ ไม่เสร็จ ยังไงแฟนๆก็ช่วยกันเชียร์กันด้วยระหว่างวันที่ 1-18 พฤศจิกายนนี้ครับ
พร้อมๆกับที่ ประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในอีกซีกโลกหนึ่ง เกมการแข่งขันฟุตบอลในร่มเกมแรกได้ถือกำเนิดขึ้นที่ประเทศ อูรูกวัย ในปี 1932 โดยชื่อของกีฬาชนิดนี้ เขาบอกว่า มาจากภาษาโปรตูเกา “ ฟุตบอล เดอ ซาลาอ็อง ” ( futebol de salao ) คือฟุตบอลที่เล่นในร่ม หรือในห้องโถง แล้วก็นำคำมารวมให้สั้นเป็น ฟุตเซา ( futsal ) แต่หลายคนทั่วโลก รวมทั้งพี่ไทยดันออกเสียงว่า ฟุตซอล
เรื่องการออกเสียงผิดเพี้ยนนั้น เป็นประจำอยู่แล้วสำหรับคนทำงานในวงการต่างๆที่ไม่รู้ ไม่พิถีพิถัน คิดว่ามีชาติภาษาเดียวในโลก แถมยังตะแบง สอนเท่าไรก็ไม่รู้จักจำ อ้างไม่ใช่ภาษาบรรพบุรุษ สวนหมัดใส่หาว่ากระแดะซะอีก ไม่เช่นนั้น คำว่า “ เอเร่อร์ ” ( error ) ที่แปลว่า ข้อผิดพลาด ซึ่งวงการเทนนิสเอาไปใช้บ่อยๆว่า “ unforced error ” หมายถึง ความผิดพลาดที่ไม่ได้ถูกกดดัน คือดันตีเสียเอง ก็มักจะออกเสียงกันผิดๆว่า “ เออเร่อ ” กลายเป็นของผิดที่ใช้กันทั่วไป จนผู้สร้างหนังไทยเองยังนำไปตั้งชื่อเรื่องที่ออกฉายเมื่อต้นปีที่ผ่านมาว่า “ ATM เออรัก เออเร่อ ”
การแข่งขันฟุตเซา ชิงแช้มป์โลก ครั้งแรก เกิดขึ้นในปี 1989 โดย เนเธ่อแลนด์ส ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน และกรุยทางไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ไปพลาดท่าแพ้ บราซิว 1-2 ได้แค่รองแช้มป์
หนต่อมา มาเล่นกันที่ทวีปเอเชีย โดย ฮ่องกง ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพในปี 1992 คราวนี้เริ่มเข้าระบบให้ 4 ปีมีครั้ง และจัดปีเดียวกับ โอลิมปิค เกมส์ บราซิว ก็ยังคงครองความเป็นจ้าวในกีฬาชนิดนี้ ไม่ว่าจะกลางแจ้ง หรือ ในร่ม โดยในนัดชิงชนะเลิศ ถล่ม อเมริกา ไป 4-1
ในปี 1996 สเปน จัด ฟุตเซา ชิงแช้มป์โลก ครั้งที่ 3 แถวสิ้นปี เจ้าภาพเข้าถึงรอบชิงเหมือนกัน แต่ก็ไปเสร็จ บราซิว อีกเช่นเคย อย่างไรก็ตาม สเปน แสดงให้เห็นว่า ฝีเท้าของพวกเขานั้นอยู่แถวหน้าของโลกจริงๆ และเป็นทีมเดียวที่มีศักยภาพอาจสยบ นักเตะแซมบ้า ที่ผูกขาดครองบัลลังก์โลกมานาน โดยในอีก 4 ปีต่อมา คู่นี้ชิงกันอีกหนที่ กัวเตมาลา คราวนี้ สเปน เฉือนชนะไป 4-3
เข้าสู่ยุคมิลเลเนี่ยมที่ 3 ฟุตเซา ชิงแช้มป์โลก กลับมาที่ทวีปเอเชียอีกครั้ง ไชนีส ไทเป เป็นเจ้าภาพ สเปน ยังยิ่งใหญ่เหนือชั้น เขี่ย บราซิว ร่วงตกรอบรองชนะเลิศ ด้วยการดวลจุดโทษ หลังจากเสมอกันในเวลาปกติ และตนเองก็คว้าแช้มป์หนที่ 2 ติดกันด้วยการเอาชนะ อิตาลี 2-1
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว บราซิว ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพเอง และกลับมาทวงตำแหน่งแช้มป์โลกได้สำเร็จ ด้วยการดวลจุดโทษชนะ สเปน คู่ปรับจ้าวประจำ หลังจากเสมอในเวลาปกติ รวมความแล้ว ฟุตเซา ชิงแช้มป์โลก ผ่านไป 6 ครั้ง บราซิว คว้าแช้มป์ 4 ส่วน สเปน เก็บได้ 2
ผมเองก็ไม่ทราบว่า คณะกรรมการบริหาร สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดที่ดูแล ฟุตเซา ด้วยนั้น จะชอบประเทศทางเอเชียหรืออย่างไร รายการชิงแช้มป์โลก ครั้งที่ 7 ในปี 2012 วนเวียนกลับมาในทวีปเอเชียอีกเป็นหนที่ 3 และคราวนี้ ไทย ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ โดยชนะบรรดาชาติต่างๆที่แข่งกันเสนอตัว ทั้ง จีน อิหร่าน อาเซอร์ไบจาน สาธารณรัฐเช็ก ศรีลังกา และ กัวเตมาลา
Thailand 2012 ฟุตเซา ชิงแช้มป์โลก ครั้งที่ 7 จะมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันเพิ่มเป็น 24 ทีม จากที่เคยมีเพียง 16 ทีมตั้งแต่ครั้งแรก แล้วเพิ่งมาเพิ่มเป็น 20 ทีมเมื่อหนที่แล้วนี่เอง โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่มๆละ 4 ทีม นำ 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่ม รวมกับ อันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีม เข้ารอบน็อคเอ๊าท์ 16 ทีม
ทีมไทย ในฐานะประเทศเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับที่ 11 ของโลกได้อยู่ในกลุ่ม A ร่วมกับ ก๊อสตาริกา อันดับ 21 อูคราอิน อันดับ 8 และ ปารากวัย อันดับ 9 โอกาสเข้ารอบ 16 ทีมนั้นคงมีไม่น้อย และไม่ว่าสนามหนองจอกเสร็จ ไม่เสร็จ ยังไงแฟนๆก็ช่วยกันเชียร์กันด้วยระหว่างวันที่ 1-18 พฤศจิกายนนี้ครับ