ประสาร พันธ์สำลี แข้งห่ามของ ระยอง ยูไนเต็ด ถูกฝ่ายจัดการแข่งขันดิวิชัน 2 แบนตลอดชีวิต กรณีทำร้ายผู้ตัดสินและทำลายภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลไทย หลังเหตุวิวาทในศึกดิวิชัน 2 โซนกรุงเทพและปริมณฑล ระหว่างระยอง ยูไนเต็ด กับ อาร์แบค-บีอีซี เทโรศาสน วิมล กาญจนะ ประธานจัดการแข่งขัน เผยตราบใดที่ตนเองยังเป็นประธานฯจะไม่รับหนังสืออุทธรณ์เด็ดขาด
เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย วิมล กาญจนะ ประธานจัดการแข่งขันฟุตบอลดิวิชัน 2 และ อ.ปัญญา หาญลำยวง ประธานอนุกรรมการพิจารณามารยาท ร่วมประชุมหารือจากใบรายงานผู้ตัดสินและภาพการแข่งขันกรณีนักเตะระยอง ยูไนเต็ด พยายามทำร้ายผู้ตัดสินในเกมดิวิชัน 2 โซนกรุงเทพและปริมณฑล ระหว่างระยอง ยูไนเต็ด กับ อาร์แบค-บีอีซี เทโรศาสน
ผลปรากฏว่าบทลงโทษสำหรับ ระยอง ยูไนเต็ด มีมติแบน ประสาร พันธ์สำลี แบ่งเป็นเจตนาทำร้ายร่างกายผู้ตัดสิน แบน 2 ปี ปรับ 5 หมื่นบาท, ดูหมิ่นผู้ตัดสิน แบน 2 นัด ปรับ 5 พันบาท, แสดงกิริยาไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณะชน แบน 1 นัด ปรับ 5 พันบาท ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวของประสารถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลไทย ทำให้ฝ่ายจัดการแข่งขันฯ มีมิติลงโทษประสารห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลตลอดชีวิต และปรับอีก 6 หมื่นบาท
ขณะที่ อดิเรก มณีเขียว ผู้รักษาประตูระยอง ยูไนเต็ด ที่เจตนาทำร้ายนักเตะอาร์แบคฯถูกตัดสินลงโทษแบน 1 นัด หัก 6 คะแนน(จากโทษใบแดง), เจตนาทำร้ายคู่ต่อสู้ แบน 6 นัด ปรับ 2 หมื่นบาท,พยายามทำร้ายผู้ตัดสิน แบน 2 นัด ปรับ 1 หมื่นบาท
ด้านคู่ระหว่าง พิจิตร เอฟซี กับ พิษณุโลก เอฟซี ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลดิวิชัน 2 โซยภาคเหนือ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายอนุกรรมการพิจารณามารยาทฯมีมติลงโทษนักเตะพิจิตรประกอบไปด้วยสถาพร ศรีอ่อน ,อำนาจ รักประเสริฐ,ซาโก เซย์ดู, วันชัย สุวรรณอินทร์ แบนคนละ 6 นัดปรับคนละ 2 หมื่นบาทนอกจากนั้นยังปรับพิจิตร 5 พันบาทกรณีแฟนบอลขว้างปาสิ่งของลงสนาม
ส่วนนักเตะพิษณุโลกประกอบไปด้วยไพศาล แสงอรุณ,สราวุฒิ อิมอรชร,ศรวุฒิ คำศรี แบนคนละ 6 นัดปรับคนละ 2 หมื่นบาทนอกจากนั้นยังปรับพิษณุโลก 5 พันบาทกรณีแฟนบอลขว้างปาสิ่งของลงสนาม
วิมล กาญจนะ เปิดเผยว่าสโมสรที่ถูกลงโทษมีสิทธิ์อุทธรณ์ทว่าตราบใดที่ตนเองยังเป็นประธานจัดการแข่งขันดิวิชัน 2 จะไม่รับหนังสืออุทธรณ์เด็ดขาด “การกระทำของนักเตะระยอง ยูไนเต็ดเป็นการกระทำที่ร้ายแรงเพราะภาพที่ออกมาสู่สาธารณะชนเป็นภาพที่ทำลายภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลไทย แม้จะมีสิทธิ์อุทธรณ์แต่ผมยืนยันว่าบทลงโทษนี้เป็นบทลงโทษที่เด็ดขาดและจะไม่นำเรื่องนี้มาพิจารณาใหม่”
“การกระทำครั้งนี้เป็นความผิดส่วนบุคคลดังนั้นสโมสรระยอง ยูไนเต็ดไม่มีความผิดถึงขนาดต้องถูกโทษแบนห้ามเตะในสนาม อย่างไรก็ตามอยากฝากทุกสโมสรให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อภาพที่ดีของวงการฟุตบอลไทย”
คลิปโดย thaileague online
