ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - สุดสัปดาห์ที่กำลังมาถึงนี้ลากยาวไปถึงปลายอาทิตย์หน้าถือเป็นไฮไลท์สำคัญของโปรแกรมกอล์ฟซีซัน 2012 อย่างแท้จริง เริ่มด้วย “เฟดเอ็กซ์ คัพ ซีรีส์” ที่กร่ำศึกหนักเพลย์ออฟมายาวนาน 3 รายการก่อนมาถึงสนามสุดท้าย “ทัวร์ แชมเปียนชิพ” เพื่อหาสุดยอดก้านเหล็กที่คว้าแชมป์รับทรัพย์มูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 320 ล้านบาท) ก่อนไปจะไปสู้กันต่อในเกมแห่งศักดิ์ศรีกับกอล์ฟ ประเภททีม “ไรเดอร์ คัพ” ครั้งที่ 39
“เฟดเอ็กซ์ คัพ” และ “ไรเดอร์ คัพ” เป็น2 ศึกใหญ่ที่มีความสำคัญและน่าสนใจใกล้เคียงกันหากวัดจากฐานผู้ชม ทว่าด้านมูลค่าของเงินรางวัลและคุณค่าทางจิตใจกลับห่างไกลกันคนละทิศทาง
ทัวร์นาเมนต์ชิง “บิ๊กโบนัส” ที่สนาม อีสเลค กอล์ฟ คลับ ในเมืองแอตแลนตา ช่วงสุดสัปดาห์นี้ คัดเอายอด 30 ก้านเหล็กจาก 125 ราย ในศึก พีจีเอ ทัวร์ ที่มีคะแนนสะสมเฟดเอ็กซ์ คัพ ดีที่สุดมาร่วมชิงเงินรางวัลมูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเจ้าของแชมป์ “ทัวร์ แชมเปียนชิพ” ยังมีโอกาสลุ้นรับเงินรางวัลพิเศษอีกหนึ่งต่อหากสามารถเป็นผู้นำในตารางคะแนนสะสมของปีด้วย
ขณะที่ช่วงสัปดาห์ถัดไปในวันที่ 27-30 ก.ย. เป็นคิวของการแข่งขันกอล์ฟประเภททีมที่มีเสน่ห์มากที่สุดในโลกระหว่างทีมสหรัฐฯ และทีมยุโรป “ไรเดอร์ คัพ” ที่สนาม เมดินาห์ กอล์ฟ คลับ ซึ่งไม่มีเงินรางวัลล่อใจ หากแต่เต็มไปด้วยศักดิ์ศรีที่ค้ำคอของผู้เล่นทั้ง 2 ทวีป นำมาโดย เดวิส เลิฟ เดอะเธิร์ด จากทีมมะกัน และ โฆเซ มาเรีย โอลาซาบัล ของฝั่งยุโรป ที่มีลูกทีมเป็น 24 นักกอล์ฟชั้นยอดถูกคัดเลือกมาจากมือท็อป 35 ของโลก
บรรดาโปรชื่อดังต่างออกมาความเห็นในมุมที่ต่างกันไป บ้างชี้ว่าทั้งสองรายการถือเป็นศึกกอล์ฟที่มีความสำคัญไม่ต่างกัน เพียงแต่ความรู้สึกและรูปแบบการแข่งขันเท่านั้นที่เปลี่ยนไป ส่วนบางรายกลับเลือกความสำคัญกับศึกกอล์ฟไรเดอร์ คัพ ที่ 2 ปีจะเวียนมา 1 ครั้งเป็นพิเศษ
สตีฟ สติกเกอร์ หนึ่งในสมาชิกของทีมไรเดอร์ คัพ เมืองมะกัน ที่กำลังมีลุ้นอยู่ในรายการ เฟดเอ็กซ์ คัพ ซีรีส์ สนามสุดท้าย กล่าวว่า “รายการแรกเป็นเรื่องของเงินล้วนๆ ส่วนอีกทัวร์นาเมนต์เกี่ยวกับเกียรติยศ แต่ทั้งคู่ถือเป็นการแข่งขันแห่งปี คุณอาจเล่นได้ดีและคว้าเงินรางวัลมากมายตอนนี้ แต่ในสัปดาห์หน้าทุกอย่างจะเปลี่ยนไป คุณต้องลงเล่นในนามของประเทศร่วมกับเพื่อนร่วมทีม และอาจต้องมีคู่หูที่รู้ใจจึงจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ แต่ผมคิดว่าหากไปถามผู้เล่นคนอื่นๆ เขาคงต้องการเป็นแชมป์สักรายการเท่านั้นก็คงเพียงพอแล้ว”
สำหรับ “พญาเสือ” ไทเกอร์ วูดส์ ซูเปอร์สตาร์ก้านเหล็กสหรัฐฯ ถือเป็นโปรกอล์ฟอีกรายที่ไม่เคยมองว่าศึกใดสำคัญกว่าโดยลงเล่นเต็มที่กับการแข่งทุกรายการ เพราะเมื่อสมัยปี 2002 ที่ “เฟดเอ็กซ์ คัพ” ยังไม่ถือกำเนิด เจ้าตัวมีคิวแข่งในทัวร์นาเมนต์ เวิลด์กอล์ฟแชมเปียนชิพ รายการ “อเมริกัน เอ็กซ์เพรส” ที่สนาม เมาท์ จูเลียต อีสเตท ประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งมีเงินรางวัลเล็กน้อยเพียง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 32 ล้านบาท) ก่อนต้องไปลุยไรเดอร์ คัพ ครั้งที่ 34 กับชาติบ้านเกิดต่อ ในสัปดาห์ถัดไป
โดยเมื่อถูกถามถึงความสำคัญระหว่าง เวิลด์กอล์ฟแชมเปียนชิพ กับ ไรเดอร์ คัพ ที่รออยู่ หลังจากแข่งจบรอบแรก ที่ ไทเกอร์ มีสกอร์นำคู่แข่งอยู่เพียง 1 สโตรก “พญาเสือ” ตอบสั้นๆ พร้อมรอยยิ้มก่อนคว้าแชมป์ในวันสุดท้าย และชูถ้วยหูใบโถที่มีความสูงกว่า 17 นิ้ว ว่า “ทำไมล่ะ? ผมจะต้องคิดถึงเหตุผลอะไรมากมายที่จะแข่งในรายการนี้” ซึ่งหลังจากนั้นแน่นอนว่าทีมสหรัฐฯ ของเขาพบกับความพ่ายแพ้ในการดวลกอล์ฟประเภททีม
ส่วนด้าน จัสติน โรส ยอดนักกอล์ฟชาวเมืองผู้ดี เจ้าของแชมป์ บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิพ เมื่อปี 2011 และมีลุ้นคว้า “บิ๊กโบนัส” ในสนามสุดท้ายที่ อีสเลค เมื่อปีก่อน ทว่ากลับตีไปตกหลุมทรายในวันสุดท้าย และเสียแชมป์ในที่สุด ชี้ว่า ตนเองมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์เฟดเอ็กซ์ คัพ ให้ได้ แต่มักมีเรื่องเหนือควาดคาดหมายเกิดขึ้นเสมอ โดยยกตัวอย่าง บิล ฮาส นักกอล์ฟมะกันที่ออกสตาร์ทจากอันดับที่ 25 และเข้าป้ายครองเงิน 10 ล้านเหรียญไปได้ แต่กับทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้นเพียง 5 ปี มันต่างจากไรเดอร์ คัพ ที่ตนเองเคยร่วมแข่งมาแล้วแต่ต้องอกหักในปี 2008 ซึ่งผู้คนจะจดจำสิ่งเหล่านั้นมากกว่า
“เฟดเอ็กซ์ มันเป็นการแข่งระหว่างบุคคลและคุณจะจำความผิดพลาดในเกมของตัวเองได้ดีที่สุด แต่เมื่อคุณชนะไรเดอร์ คัพ จากนั้นจะแพ้สัก 3 หรือ 4 แมตช์ก็ได้ มันยังเป็นสัปดาห์ที่มหัศจรรย์อยู่ดี คุณชนะสัปดาห์นี้มันจะเป็นวันที่ยอดเยี่ยมในประวัติศาสตร์ของคุณร่วมกับยอดนักกอล์ฟในทีม” โรส กล่าว
เรื่องโดย ปภังกรณ์ นิลวรกุล