เอเยนซี-การแข่งขันกอล์ฟในปฏิทินทัวร์ ปี 2012 เดินทางมาถึงคิวของรายการ “เฟดเอ็กซ์ คัพ” ทัวร์นาเมนต์ที่สามารถบรรดาลให้ก้านเหล็กทั้งหลายกลายเป็นมหาเศรษฐีได้ในเพียงชั่วข้ามคืน หากทำผลงานยอดเยี่ยมตั้งแต่รายการแรก “เดอะบาร์เคลย์” ผ่านการคัดเลือกของแต่ละรอบเข้าไปถึงรายการสุดท้ายที่ “ทัวร์แชมเปียนชิป” ช่วงปลายเดือนกันยายน มีเงินรางวัลมหาศาลสำหรับผู้ชนะรออยู่ที่ 10 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 300 ล้านบาท) โดยมี ไทเกอร์ วูดส์ เจ้าของแชมป์ 2 สมัยและ รอรีย์ แม็คอิลรอย ก้านเหล็กมือ 1 โลก พร้อมด้วยนักกอล์ฟซูเปอร์สตาร์ร่วมสวิงกันหนาตา
เส้นทางของการแข่งทัวร์นาเมนต์ที่ได้ชื่อว่ามีเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะมากที่สุดในโลกจะคัดเอานักกอล์ฟที่มีคะแนนสะสมในตาราง “เฟดเอ็กซ์ คัพ” 125 อันดับแรก มาเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งตลอดการแข่งขันในปฏิทินปกติของพีจีเอ ทัวร์ มีคะแนนสะสมสำหรับผู้ชนะแตกต่างกันไป ไล่ตั้งแต่รายการเล็กระดับ 250 แต้ม รายการระดับมาสเตอร์ที่ 500 แต้ม ศึกเวิลด์กอล์ฟแชมเปียนชิป ได้ 550 แต้ม และใหญ่สุดในระดับเมเจอร์ทั้ง 4 รายการไดัรับคะแนนตุนกระเป๋าถึง 600 แต้ม
ทั้งนี้ เกณฑ์การแข่งขันแต่ละปีจะแบ่งออกเป็น 4 รายการ โดยบรรดาโปรมือรองบ่อนที่คะแนนรั้งท้ายไม่ต้องห่วง เนื่องจากแต่ละสนามมีคะแนนให้ผู้ชนะได้สะสมกันต่อเนื่องสูงถึง 2,500 แต้ม ประกอบด้วยเปิดฉากเพลย์ออฟสนามแรกจากโปรที่เข้าร่วมดวลวงสวิงทั้งสิ้น 125 ราย ในศึก “เดอะ บาร์เคลย์” ระหว่างวันที่ 23-26 ส.ค.และตัดให้เหลือ 100 อันดับที่มีคะแนนสะสมสูงที่สุด ก่อนไปแข่งต่อที่ “ดอยช์แบงก์ แชมเปียนชิป” วันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย. จากนั้นตัดออกอีกครั้งเหลือ 70 อันดับแรกไปลุยสนามที่ 3 รายการ “บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิป” วันที่ 6-9 ก.ย.
หลังจบการเพลย์ออฟทั้ง 3 สนาม จะตัดเอาก้านเหล็ก 30 คนแรกที่มีอันดับคะแนนสะสมสูงที่สุด เข้ามาชิงเงินก้อนโตในรายการ “ทัวร์ แชมเปียนชิป บาย โคคา-โคลา” ระหว่างวันที่ 20-23 ก.ย.โดยในรอบนี้ไม่ว่าใครจะเป็นผู้นำมาก่อน ฝ่ายจัดการแข่งขันจะเริ่มต้นคิดคะแนนใหม่ทั้งหมด ก่อนนำคะแนนในสนามนี้มาคิดรวมเพื่อหาผู้ที่คะแนนสูงสุดซิวเงินโบนัส 10 ล้านเหรียญไปครอง
สำหรับไฮไลต์ในรายการแรกที่ “เดอะบาร์เคลย์” ที่สนาม เบทช์แพค ในนครนิวยอร์ก สุดสัปดาห์นี้เป็นการดวลการของ “พญาเสือ” ไทเกอร์ วูดส์ ผู้ครองตำแห่งคะแนนสูงสุดในปัจจุบันและดีกรีแชมป์ 2 สมัย กับ รอรีย์ แม็คอิลรอย ผู้ท้าชิงดาวรุ่งที่เพิ่งประกาศศักดายึดตำแหน่งมือ 1 ของโลกไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนจากผลงานคว้าแชมป์ พีจีเอ แชมเปียนชิป โดยมีการวิเคราะห์ถึงการสู้กันในสนามและโอกาสการเป็นผู้ชนะของทั้งคู่ ซึ่งแน่นอนว่าการเล่นบนกรีนและรวมถึงลูกพัตต์ ไทเกอร์ ยังดูดีกว่าก้านเหล็กดาวรุ่งวัย 23 ปี อยู่หลายขุม
ทว่า หากเป็นเรื่องระยะไดรฟ์และความแม่นยำที่มีการหยิบยกมาพูดถึงอย่างหนาหูในการแข่งสนามแรก แม็คอิลรอย กลายเป็นผู้ที่มีภาษีดีกว่าขึ้นมาทันที โดย “พญาเสือ” พยายามยกระดับการไดรฟ์ของตนเองปรับสถิติในช่วง 4 รายการหลังสุด รั้งอยู่ในอันดับ 39 ของ พีจีเอ ทัวร์ เฉลี่ย 296.9 หลา ต่อครั้ง แต่ก็ยังคงเป็นรองพลังหนุ่มของ “รอร์ส” ที่ 6 รายการหลังสุดสถิติระบุว่าได้ระยะเฉลี่ย 309.2 หลา ต่อครั้ง
ด้าน แกรม แม็คดาวล์ รุ่นพี่ร่วมชาติของ รอรีย์ ออกมาชี้ว่า ระยะไดรฟ์และการเล่นสไตล์บุกซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ รอรีย์ จะเป็นจุดชี้วัดที่ทำให้เขาสามารถสู้กับ ไทเกอร์ ได้อย่างสนุกสูสี โดยกล่าวว่า “รอรีย์ เป็นผู้เล่นสไตล์การตีดุเดือด การไดรฟ์ของเขาถือเป็นอีกอาวุธอันตรายอย่างหนึ่งในถุงกอล์ฟเลยก็ว่าได้ แม็คอิลรอย เป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่มีลีลาการไดรฟ์ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา”
สำหรับการประเดิมเพลย์ออฟรายการ “เดอะ บาร์เคลย์” นักกอล์ฟซูเปอร์สตาร์ชาวมะกันเจ้าของตำแหน่งคะแนนสูงสุด จะออกรอบร่วมกับ ซัค จอห์นสัน ก้านเหล็กเพื่อนร่วมชาติ ที่มีคะแนนรั้งอันดับ 2 พร้อมด้วย รอรีย์ แม็คอิลรอย ดาวรุ่งพุ่งแรงที่เพิ่งขยับอันดับเข้ามาอยู่ที่ 3 จากผลงานแชมป์เมเจอร์ล่าสุด ส่วนโปรชื่อดังรายอื่นๆ ที่พาเหรดร่วมแข่งรายการนี้อย่าง ลุก โดนัลด์ มือ 2 โลกชาวเมืองผู้ดี ร่วมก๊วนกับ “เลฟตี” ฟิล มิคเคลสัน และ สกอตต์ พริเอซี 2 โปรสหรัฐฯ จิม ฟิวริก โปรเจ้าเก๋าเจ้าของแชมป์ปี 2010 ออกรอบกับ ริคกี ฟาวเลอร์ โปรหนุ่มมะกัน และ แบรนท์ สดีเดเกอร์