xs
xsm
sm
md
lg

“จุตินันท์” คนหัวใจสิงห์ ปิดทองพาราลิมปิกไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี
ASTVผู้จัดการรายวัน- เดินทางกลับถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้วเมื่อวันอังคารที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง สำหรับทัพนักกีฬาทีมชาติไทยที่ไปโกย 8 เหรียญรางวัลศึก พาราลิมปิก เกมส์ ครั้งที่ 14 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งแน่นอนคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้หนีไม่พ้น จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิกประเทศไทย โดยผลงานดังกล่าวยังเครื่องกดดันกระแสสังคมรวมถึงหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนหันมาให้ความสำคัญคนพิการที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้ประเทศได้เช่นกัน

8 เหรียญรางวัลที่ได้มาจากฮีโร่ 10 คน แบ่งเป็น 4 เหรียญทองจาก พัทธยา เทศทอง (บ็อคเซียประเภทเดี่ยวบุคคล) และ วิษณุ ฮวดประดิษฐ์, พัทธยา เทศทอง, มงคล จิตรเสงี่ยม และ วัชรพล วงษา (บ็อคเซียประเภททีม) รุ่งโรจน์ ไทยนิยม (เทเบิลเทนนิส) และ สายสุนีย์ จ๊ะนะ (วีลแชร์ฟันดาบ) 2 เหรียญเงินจาก ประวัติ วะโฮรัมย์ (วีลแชร์เรซซิง 1,500 เมตรชาย) และ ประวัติ วะโฮรัมย์, สายชล คนเจน, โสภา อินทเสน และ ศุภชัย โกยทรัพย์ (วีลแชร์ เรซซิง ประเภทผลัด 4x400 เมตรชาย) 2 เหรียญทองแดงจาก สายชล คนเจน (วีลแชร์เรซซิงประเภท 100 เมตรชาย และวีลแชร์เรซซิงประเภท 800 เมตรชาย) ขณะที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อ 4 ปีก่อน ได้เพียง 1 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน และ 7 เหรียญทองแดง แต่หนนี้ก็ไม่ใช่ผลงานดีที่สุดที่คนพิการไทยเคยฝากไว้ที่ เอเธนส์ ปี 2004 คือ 5 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง

จุตินันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.บุญรอดบริวเวอรี จำกัด และ บ.บุญรอดเทรดดิง จำกัด องค์กรเอกชนรายใหญ่ที่ให้การสนับสนุนทัพ พาราลิมปิกไทย มาโดยตลอด กล่าวถึงภาพรวมว่า “เมื่อเทียบกับผลงานที่ ปักกิ่ง เกมส์ 2008 ถือว่าเกินกว่าที่ผมคาดเอาไว้ ซึ่งหวังแค่ 2 เหรียญทองจาก ประวัติ และ สายสุนีย์ เท่านั้น แต่มาได้ 4 เหรียญทองจาก รุ่งโรจน์, สายสุนีย์ และทัพบ็อคเซีย แต่เหนือสิ่งอื่นใดยังไม่ใช่สาระสำคัญเท่ากับกระแสสังคมไทยที่หันมาเชียร์ และให้ความสนใจนักกีฬาคนพิการไทยมากกว่า ดังเห็นได้จากสื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก หรือ ทวิตเตอร์ ที่เข้ามาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม ตั้งแต่ที่ผมไปที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็นั่งเช็กดู เห็นแล้วรู้สึกปลาบปลื้มใจแทนทุกคนไปด้วย พวกเขาเป็นแรงบันดาลใจให้คนพิการคนอื่นๆ ได้ตระหนักและผลักดันตัวเองก้าวสู่ทีมชาติ รวมถึงการสร้างคุณค่าให้กับตัวเองและประเทศชาติ”

ส่วนนักกีฬา พาราลิมปิก ที่น่าจับตามอง และยังคงเป็นกำลังสำคัญสู้ศึก ริโอ เดอ จาเนโร เกมส์ อีก 4 ปีข้างหน้า จุตินันท์ มองว่า “เรามองว่า นักกีฬาทุกคนมีฝีมือ ศักยภาพที่ดีและยอดเยี่ยมด้วยกันทุกคนและต่างก็ยังอายุน้อยด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น รุ่งโรจน์, ทีมบ็อคเซีย, สายชล, ประวัติ หรือคนอื่นๆ ยังสามารถเข้าร่วมแข่งขันครั้งต่อๆ ไป หรือแม้กระทั่งกีฬาอื่นๆ ใครจะมาบอกว่ากีฬาคนพิการเป็นอะไรที่ง่าย แต่จริงๆ แล้วเมื่อคุณได้มาสัมผัสจะรู้ว่ามันไม่ง่ายเลย เพราะต้องฝึกซ้อมและแข่งรอบควอลิฟายเหมือนคนปกติจึงจะสามารถผ่านเข้าไปเล่น พาราลิมปิก เกมส์ ได้”

เมื่อถาม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ บ.บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ที่ได้ให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย, สมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย, สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย, สมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย, สมาคมยิงเป้าบินแห่งประเทศไทย และสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย โดยต้องใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ทุกๆ 4 ปี ถึงทางภาครัฐที่เพิ่งตื่นตัวเพิ่มเงินอัดฉีดเป็นเหรียญทอง 6 ล้านบาท เหรียญเงิน 4 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 2 ล้านบาท โดยกล่าวว่า “สำหรับผมแล้วคิดว่าภาครัฐได้เข้าใจคนพิการ และเห็นพลังของคนกลุ่มนี้ที่ต่อสู้จนได้รับชัยชนะกลับมา ส่วนภาคเอกชนนั้นผมไม่ทราบเหมือนกันว่าพวกเขาเห็นเหมือนดั่งที่เราเห็น ในฐานะที่ผมเองก็ทำงานกับ บ.บุญรอด ก็ได้สนับสนุนมาโดยตลอดนานนับ 10 ปีเลยก็ว่าได้ เมื่อบริษัทอื่นๆ ที่มาร่วมอัดฉีดในภายหลัง เพราะเห็นว่ากระแสสังคมดี เรียกร้องและกดดันจนต้องออกมาควักเงินในกระเป๋านั้น ก็สุดแล้วแต่เจตนาของคน”

จุตินันท์ ได้ทิ้งท้ายถึงเป้าหมายและโครงการที่วางเอาไว้รองรับการพัฒนาทัพ พาราลิมปิก ว่า “อยากฝากถึงภาครัฐให้ช่วยสนับสนุนคณะนักกีฬาคนพิการที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศมากกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องศูนย์ฝึก ผมฝากผ่านมาแล้ว 3 รัฐบาลแต่โครงการไม่มีอะไรคืบหน้า ตอนนี้ทางเราได้เซ็นสัญญาเอ็มโอยู เพื่อขอสถานที่ในพัทยา เพื่อสร้างเป็นศูนย์ฝึกครบวงจร มีทั้งลู่วิ่ง สนามยิงปืน สระว่ายน้ำ ลานอเนกประสงค์สำหรับนักกีฬาบ็อคเซียและฟันดาบ งบประมาณถึง 400 ล้านบาท ไม่รวมค่าพื้นที่ ตอนนี้ส่งเรื่องให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ทราบเรื่องแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ตอบกลับมาเลย แต่ถ้าสำเร็จในส่วนนี้ ผมคิดว่าเมืองพัทยาจะเป็นศูนย์รวมกีฬาเพื่อคนพิการในภูมิภาคอาเซียน เป็นการตอบโจทย์เศรษฐกิจประชาคมอาเซียน 2558 รวมถึงการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพกีฬาคนพิการระดับโลกได้ไม่ยากแน่”
เคียงข้าง รุ่งโรจน์ ร่วมขบวนแห่
เบื้องหลังความสำเร็จ พาราลิมปิก
ขึ้นไปรับถึงบนเครื่องบิน
กำลังโหลดความคิดเห็น