คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ในยุคที่ฟุตบอลลีกในประเทศได้รับความนิยมอย่างสูง ผมเชื่อว่าแฟนบอลไทยคงอยากเห็นแม็ตช์การแข่งขันแทบทุกวัน นี่ต้องรอให้ถึงสุดสัปดาห์จึงจะได้สัมผัสรสชาติของความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ยิ่งถ้าตอนไหนมีนัดกลางสัปดาห์ด้วยก็ยิ่งดี ในทางตรงข้าม หากสัปดาห์ไหนหยุดพักยาว ความกระหายในอารมณ์ของคนรักฟุตบอลไทยก็คงจะพลุ่งพล่านให้รู้สึกกระวนกระวายในขณะเฝ้ารอให้ถึงสุดสัปดาห์เสียที ดังนั้น น่าจะดีถ้ามีบอลไทยให้ติดตามอย่างสม่ำเสมอ
ช่วงที่ผ่านมา ดันมีข่าวจะเพิ่มทีมใน ฟุตบอล ไทย พรีเมียร์ ลีก จาก 18 ทีมเป็น 20 ทีม พวกเขาคงหวังให้มีแม็ตช์แข่งให้ถี่ยิ่งขึ้น รอเพียง 2-3 วันก็มีบอลให้ติดตาม มีแม็ตช์ให้ลุ้น เร็วทันใจดีแท้ แถมผู้คนจะมีงานทำอีกเยอะ แต่ในทางตรงข้าม ช่างเป็นการปลุกกระแสที่สวนทางกับการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยเหลือเกิน มันอาจจะเป็นทีมในโซนตกชั้นที่อยากจะโกงความตาย หรือจะเป็นพวกทีมที่ไม่อาจช่วงชิงพื้นที่ขึ้นชั้นตามกฎมองเห็นประโยชน์เพียงขอให้ทีมของตนได้ขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดด้วย ฟาสท์ แทร็ค หรืออย่างไร แล้วการพัฒนาของฟุตบอลไทยจะเป็นไปอย่างไร ย้อนกลับถอยลงเหว ก็ช่างมันงั้นหรือ
ทั้งๆที่รู้ว่าลำพัง 18 ทีมซึ่งผมคิดว่ามากเกินไปสำหรับตอนนี้ด้วยซ้ำ มันทำให้การจัดการแข่งขันเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่งผลกระทบชิ่งไปถึงทีมชาติ หลายครั้งที่ไม่อาจหาช่วงเวลารวมตัวสำหรับทีมชาติได้อย่างเหมาะสม แล้วส่วนหนึ่งของแฟนบอลเองแหละที่คอยก่นด่าทั้ง สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ บริษัท ไทยพรีเมีร์ลีก จำกัด
ตามปกติการลงเกมอย่างเป็นทางการที่พอเหมาะสำหรับนักเตะแต่ละคนก็ควรจะเป็นสัปดาห์ละ 1 แม็ตช์ ถ้าจะมีนัดกลางสัปดาห์บ้างเป็นบางครั้งบางคราวก็พอทน แต่เมื่อในลีกมีถึง 20 ทีมก็ต้องลุยมัน 38 เกม รวมกับอีก 2 ถ้วย ยิ่งบางรายติดโผทีมชาติเข้าอีก คราวนี้มันจะกลายเป็นต้องลง 1 เกมหนักทุกๆ 3 วัน สำหรับการที่นักเตะต้องกรำศึกถี่เกินไป อาการล้าหรือบาดเจ็บย่อมเกิดขึ้นง่าย โดยเฉพาะ ที่อวัยวะหากินตั้งแต่ต้นขาลงมาถึงปลายเท้า
ทีมใดรู้ซึ้งถึงปัญหาข้อนี้ดีก็คงแก้ไขด้วยการจัดจ้างนักเตะคุณภาพเอาไว้มากๆแล้วใช้ ระบบโรเทเชิ่น ซึ่งก็คงต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง นี่ยังไม่รวมค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ฯลฯ เมื่อต้องนำทีมไปแข่งข้ามเขต ซึ่งเป็นเงินไม่น้อย ผลก็คือทีมเงินหนาเท่านั้นที่ทำได้ ส่วนพวกลูกจ๊อกถ้าไม่มีขุนพลที่ฝีเท้าทัดเทียมกันมาสู้ก็เสียเปรียบเขาตลอดกาล กลายเป็นทีมแจกแต้ม แข่งให้มันครบโปรแกรมไป ไม่อาจหวังในชัยชนะได้ แต่ถ้าทีมเล็กๆดันอยากจะตามแห่ทีมยักษ์ใหญ่ งานนี้อาจมีเจ๊ง เป็นหนี้เป็นสินพะรุงพะรัง คืบคลานสู่การยุบสโมสรในที่สุด
อาจารย์ วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ยังบอกว่า ความจริงงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐนั้นสำหรับเพียง 16 ทีมเท่านั้น ผมว่านี่จะเพิ่มเป็น 20 ทีม มันย่อมไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันอย่างแน่นอน เมื่อสมาคมฯ ไม่มีเงิน จะหยิบทางไหนมาใช้กัน การอุ่นเครื่องของทีมชาติตาม วัน เวลา ที่ทาง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า วางเอาไว้ก็อาจขาดหายไปด้วย เพราะมันต้องใช้ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น
เรื่องการเพิ่มทีมใน ไทย พรีเมียร์ ลีก มันมีข้อดี แต่ผลเสียมีมากมาย ในยามที่ฟุตบอลไทยเติบโตอย่างหลวมๆ ยังไม่แข็งแกร่ง ทำไมจะต้องเร่งเพิ่มทีมในตอนนี้ สู้ทำลีกให้กะทัดรัด แต่แน่นปึ้กด้วยคุณภาพ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ผมยังอยากให้ลีกสูงสุดของไทยมีเพียงแค่ 12-16 ทีมเท่านั้น และจัดแข่งให้แต่ละทีมพบกัน เหย้า-เยือน มากกว่า 2 นัดก็ยังได้ แล้วเราจะได้ทีมคุณภาพที่มีความพร้อม สโมสรแข็งแกร่งลงหลักปักฐานอย่างมั่นคง มีสนามระดับมาตรฐานสุดยอด อย่างนี้สู้กันสนุกกว่าเยอะครับ
ในยุคที่ฟุตบอลลีกในประเทศได้รับความนิยมอย่างสูง ผมเชื่อว่าแฟนบอลไทยคงอยากเห็นแม็ตช์การแข่งขันแทบทุกวัน นี่ต้องรอให้ถึงสุดสัปดาห์จึงจะได้สัมผัสรสชาติของความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ยิ่งถ้าตอนไหนมีนัดกลางสัปดาห์ด้วยก็ยิ่งดี ในทางตรงข้าม หากสัปดาห์ไหนหยุดพักยาว ความกระหายในอารมณ์ของคนรักฟุตบอลไทยก็คงจะพลุ่งพล่านให้รู้สึกกระวนกระวายในขณะเฝ้ารอให้ถึงสุดสัปดาห์เสียที ดังนั้น น่าจะดีถ้ามีบอลไทยให้ติดตามอย่างสม่ำเสมอ
ช่วงที่ผ่านมา ดันมีข่าวจะเพิ่มทีมใน ฟุตบอล ไทย พรีเมียร์ ลีก จาก 18 ทีมเป็น 20 ทีม พวกเขาคงหวังให้มีแม็ตช์แข่งให้ถี่ยิ่งขึ้น รอเพียง 2-3 วันก็มีบอลให้ติดตาม มีแม็ตช์ให้ลุ้น เร็วทันใจดีแท้ แถมผู้คนจะมีงานทำอีกเยอะ แต่ในทางตรงข้าม ช่างเป็นการปลุกกระแสที่สวนทางกับการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยเหลือเกิน มันอาจจะเป็นทีมในโซนตกชั้นที่อยากจะโกงความตาย หรือจะเป็นพวกทีมที่ไม่อาจช่วงชิงพื้นที่ขึ้นชั้นตามกฎมองเห็นประโยชน์เพียงขอให้ทีมของตนได้ขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดด้วย ฟาสท์ แทร็ค หรืออย่างไร แล้วการพัฒนาของฟุตบอลไทยจะเป็นไปอย่างไร ย้อนกลับถอยลงเหว ก็ช่างมันงั้นหรือ
ทั้งๆที่รู้ว่าลำพัง 18 ทีมซึ่งผมคิดว่ามากเกินไปสำหรับตอนนี้ด้วยซ้ำ มันทำให้การจัดการแข่งขันเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่งผลกระทบชิ่งไปถึงทีมชาติ หลายครั้งที่ไม่อาจหาช่วงเวลารวมตัวสำหรับทีมชาติได้อย่างเหมาะสม แล้วส่วนหนึ่งของแฟนบอลเองแหละที่คอยก่นด่าทั้ง สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ บริษัท ไทยพรีเมีร์ลีก จำกัด
ตามปกติการลงเกมอย่างเป็นทางการที่พอเหมาะสำหรับนักเตะแต่ละคนก็ควรจะเป็นสัปดาห์ละ 1 แม็ตช์ ถ้าจะมีนัดกลางสัปดาห์บ้างเป็นบางครั้งบางคราวก็พอทน แต่เมื่อในลีกมีถึง 20 ทีมก็ต้องลุยมัน 38 เกม รวมกับอีก 2 ถ้วย ยิ่งบางรายติดโผทีมชาติเข้าอีก คราวนี้มันจะกลายเป็นต้องลง 1 เกมหนักทุกๆ 3 วัน สำหรับการที่นักเตะต้องกรำศึกถี่เกินไป อาการล้าหรือบาดเจ็บย่อมเกิดขึ้นง่าย โดยเฉพาะ ที่อวัยวะหากินตั้งแต่ต้นขาลงมาถึงปลายเท้า
ทีมใดรู้ซึ้งถึงปัญหาข้อนี้ดีก็คงแก้ไขด้วยการจัดจ้างนักเตะคุณภาพเอาไว้มากๆแล้วใช้ ระบบโรเทเชิ่น ซึ่งก็คงต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง นี่ยังไม่รวมค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ฯลฯ เมื่อต้องนำทีมไปแข่งข้ามเขต ซึ่งเป็นเงินไม่น้อย ผลก็คือทีมเงินหนาเท่านั้นที่ทำได้ ส่วนพวกลูกจ๊อกถ้าไม่มีขุนพลที่ฝีเท้าทัดเทียมกันมาสู้ก็เสียเปรียบเขาตลอดกาล กลายเป็นทีมแจกแต้ม แข่งให้มันครบโปรแกรมไป ไม่อาจหวังในชัยชนะได้ แต่ถ้าทีมเล็กๆดันอยากจะตามแห่ทีมยักษ์ใหญ่ งานนี้อาจมีเจ๊ง เป็นหนี้เป็นสินพะรุงพะรัง คืบคลานสู่การยุบสโมสรในที่สุด
อาจารย์ วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ยังบอกว่า ความจริงงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐนั้นสำหรับเพียง 16 ทีมเท่านั้น ผมว่านี่จะเพิ่มเป็น 20 ทีม มันย่อมไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันอย่างแน่นอน เมื่อสมาคมฯ ไม่มีเงิน จะหยิบทางไหนมาใช้กัน การอุ่นเครื่องของทีมชาติตาม วัน เวลา ที่ทาง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า วางเอาไว้ก็อาจขาดหายไปด้วย เพราะมันต้องใช้ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น
เรื่องการเพิ่มทีมใน ไทย พรีเมียร์ ลีก มันมีข้อดี แต่ผลเสียมีมากมาย ในยามที่ฟุตบอลไทยเติบโตอย่างหลวมๆ ยังไม่แข็งแกร่ง ทำไมจะต้องเร่งเพิ่มทีมในตอนนี้ สู้ทำลีกให้กะทัดรัด แต่แน่นปึ้กด้วยคุณภาพ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ผมยังอยากให้ลีกสูงสุดของไทยมีเพียงแค่ 12-16 ทีมเท่านั้น และจัดแข่งให้แต่ละทีมพบกัน เหย้า-เยือน มากกว่า 2 นัดก็ยังได้ แล้วเราจะได้ทีมคุณภาพที่มีความพร้อม สโมสรแข็งแกร่งลงหลักปักฐานอย่างมั่นคง มีสนามระดับมาตรฐานสุดยอด อย่างนี้สู้กันสนุกกว่าเยอะครับ
