บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด ได้รับสิทธิ์ในการเป็นสปอนเซอร์ชุดแข่งของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้สัญญา 3 ปี 66 ล้านบาท โดยข้อเสนอโดนใจสมาคมลูกหนังไทยมากกว่า บริษัท โรงงานฟุตบอลไทย สปอร์ติง กูดส์ จำกัด
เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม 2555 ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายในสนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคม เปิดซองประมูลสิทธิ์ในการเป็นสปอนเซอร์ชุดแข่งของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดย “บิ๊กเปี๊ยก” เป็นตัวแทน “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมที่ติดภารกิจเข้าให้ข้อมูลกับ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด และแต่งตั้งให้บริษัทสยามสปอร์ตฯ เข้ามาดูแลสิทธิประโยชน์
เบื้องต้นมี 2 บริษัทดังของไทยอย่าง บริษัทแกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด กับ บริษัทโรงงานฟุตบอลไทย สปอร์ติง กูดส์ จำกัด ลงทำการยื่นซองประมูล ทั้งนี้ นายองอาจ รอจนถึงเวลาประมาณ 14.25 น.แต่ไม่มีบริษัทใดยื่นเสนอตัวเพิ่ม ดังนั้นจึงมีการเปิดซองประมูล
เริ่มจาก “เอฟบีที” ที่ส่ง นายมนต์ชัย โชคไพบูลย์กิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทโรงงานฟุตบอลไทย สปอร์ติง กูดส์ จำกัด ยื่นข้อเสนอสนับสนุนเป็นเงินปีละ 48 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี รวมเป็นเงิน 144 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินให้สมาคมบริหารงานปีละ 10 ล้านบาท เงินหนุนกรรมการผู้ตัดสินปีละ 2 ล้านบาท อุปกรณ์กีฬาต่างๆ ปีละ 36 ล้านบาท โดยเป็นการจ่ายเงินสดอีก 12 ล้านบาท เป็นเวลาสามปี เท่ากับ 36 ล้านบาท ทั้งนี้ “เอฟบีที” ยังพร้อมจัดแคมเปญพัฒนาเยาวชน 5 ภาคทั้ง เหนือ กลาง อีสาน ใต้ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ปีละ 1 ครั้ง เป็นเงินหนุนปีละ 2.5 ล้านบาท สามปีรวมเป็นเงิน 7.5 ล้านบาท
ส่วน “แกรนด์สปอร์ต” ส่ง นายธารา พฤกษ์ชะอุ่ม ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ยื่นประมูลพร้อมสนับสนุนให้เงินสดสมาคม ปีละ 22 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี รวมเป็นเงิน 66 ล้านบาท รวมถึง เงินสนับสนุนลูกฟุตบอลในไทยพรีเมียร์ลีก ดิวิชั่น 1 และ 2 ฟุตบอลถ้วย ก, ข, ค, ง ปีละไม่ต่ำกว่า 8 ล้านบาท เป็นเวลาสามปี ก็ไม่ต่ำกว่า 24 ล้านบาท เงินสนับสนุนผู้ตัดสินอีกปีละ 2 ล้านบาท ที่สำคัญยังจะให้การสนับสนุนชุดกีฬา อุปกรณ์กีฬาของนักฟุตบอลไทยทั้งชายและหญิง ไม่จำกัดรุ่นอายุ และพร้อมหนุนกิจกรรมอื่นๆ ที่ทางสมาคมจะจัดขึ้นตลอด 3 ปี
ตอนแรกหลังเปิดซองประมูลเสร็จสิ้น “บิ๊กเปี๊ยก” ขอเวลาปรึกษาคณะกรรมการฝ่ายกฎหมาย เพื่อหารือในรายละเอียดข้อต่างๆ ก่อนแล้วจะตัดสินใจกันในวันศุกร์นี้ ทว่าอีกประมาณ 20 นาที นายองอาจ ได้เรียกบรรดาสื่อมวลชนที่ไปร่วมทำข่าวมากมายมาร่วมรับฟังการตัดสินใจของสมาคมฯ ที่มีมติให้ “แกรนด์สปอร์ต” ได้รับสิทธิ์ในการเป็นสปอนเซอร์ชุดแข่งของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
อย่างไรก็ตาม “ไนกี้” บริษัทผลิตภัณฑ์กีฬายักษ์ใหญ่ของโลก ที่ยังเหลือสัญญากับสมาคมฯ 180 วัน และถืออ๊อปชั่นในการต่อสัญญาฉบับใหม่ มีเวลา 7 วัน ในการสู้ราคา แล้วจึงตัดสินใจกลับมาพิจารณากันอีกครั้ง แต่ถ้า “ไนกี้” ไม่มีการตอบรับกลับมา เท่ากับว่า “แกรนด์สปอร์ต” จะได้รับสิทธิ์ข้างต้นอย่างเป็นทางการ
ภายหลัง นายธารา พฤกษ์ชะอุ่ม ออกมาให้สัมภาษณ์ในเบื้องต้นหลังจาก แกรนด์สปอร์ต ได้กลับมาสนับสนุนเสื้อแข่งฟุตบอลไทยเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2538-2539 ว่า “นี่ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของวงการฟุตบอลไทย ที่แกรนด์สปอร์ตมีโอกาสกลับมาสนับสนุนอีกครั้งหนึ่ง เราดีใจที่จะมีส่วนผลักดันให้ทีมฟุตบอลไทยก้าวต่อไปข้างหน้า ส่วนว่าจะเปิดตัวชุดใหม่รายการใด ขอกลับไปปรึกษากันก่อน แต่คาดว่า น่าจะเป็นศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลกที่ไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศจิกายน สำหรับเรื่องแบบเสื้อ ทั้งนี้ ต้องมีการพูดคุยกับทางสมาคมฯ ด้วยว่าต้องการให้ออกมาในแบบลักษณะใด เราไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง”