xs
xsm
sm
md
lg

“คู่หู-คู่ฮอต” ไทยพรีเมียร์ลีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มุ้ย-มาริโอ คู่แรงประจำปีนี้
ASTVผู้จัดการรายวัน-ศึกฟุตบอล สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2012 เดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลและถ้าไม่ผิดพลาดประการใดแชมป์ปีนี้คงยากที่จะพ้นจากเงื้อมมือ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่โกยแต้มทิ้งห่างอันดับสองไปไกล ซึ่งความดีความชอบคงต้องยกให้การประสานงานกันระหว่างคู่หูคู่ใหม่ของวงการ ธีรศิลป์ แดงดา และ มาริโอ ยูรอฟสกี ที่ช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะอย่างต่อเนื่อง ทีมงาน MGR Sport จึงขอย้อนรอยอดีต “ดูโอ ลีกไทย” ที่เคยช่วยพาทีมประสบความสำเร็จมาย้อนความทรงจำกัน

2012 - ธีรศิลป์ แดงดา & มาริโอ ยูรอฟสกี (เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด) : ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ณ ขณะนี้ ธีรศิลป์ ถือเป็นดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมชาติไทยและสโมสร เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทว่าตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้ต้นสังกัดเมื่อ ปี 2009 เจ้าตัวยังไม่เคยคว้าตำแหน่งดาวซัลโวประจำลีกได้เลย แต่การมาของ ยูรอฟสกี เพลย์เมกเกอร์ชาวมาซิโดเนีย ด้วยค่าตัว 1.2 ล้านยูโร (ประมาณ 60 ล้านบาท) ช่วยส่งผลให้ “เจ้ามุ้ย” ระเบิดฟอร์มไปแล้วถึง 17 ประตู จาก 25 นัด การเล่นที่เข้าขากันของทั้งคู่ยังช่วยให้ “กิเลนผยอง” คงสถิติไร้พ่ายในลีก พร้อมยังมีลุ้นทั้ง 3 แชมป์ (สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก, มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ, โตโยต้า ลีกคัพ) ซึ่งอดีตแข้ง เมตาเลอร์ โดเนทส์ค ใน ยูเครน พรีเมียร์ลีก ก็ไม่น้อยหน้าทำไปแล้ว 14 ประตู ทั้งยังจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมอีกนับไม่ถ้วน จนคู่หู “เอ็ม แอนด์ เอ็ม” ก้าวไปนั่งครองใจสาวกอุลตร้าเป็นที่เรียบร้อย

2011 - แฟรงค์ โอฮานด์ซา & แฟรงค์ อาเชียมปง (บุรีรัมย์ พีอีเอ) : “ดูโอแฟรงค์” คือชื่อที่กองเชียร์อีสานใต้ใช้เรียกทั้งสองคน แฟรงค์ อาเชียมปง (กานา) และ แฟรงค์ โอฮานด์ซา (แคเมอรูน) ที่ระเบิดฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมช่วยให้ต้นสังกัด บุรีรัมย์ พีอีเอ กวาดแชมป์ทุกถ้วยที่ลงสนาม พร้อมส่งให้ โอฮานด์ซา คว้าดาวซัลโวมาครองด้วยผลงาน 19 ประตู ส่วน อาเชียมปง ถึงแม้จะยิงได้ 6 ประตู แต่ก็ช่วยยิงประตูชัยให้ทีมเอาชนะ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2011 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งในฤดูกาลล่าสุดหลังจากที่ โอฮานด์ซา ได้รับบาดเจ็บจนกระทั่งถูกขายต่อไปให้ทีม กรอยเธอร์ เฟือร์ธ ศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ผลงานของ “ปราสาทสายฟ้า” รูดลงจนไม่เหลือเค้าของยอดแชมป์เมื่อปีก่อนเลย

2010 - ดานโญ เซียกา & คริสเตียน เคาคู (เมืองทองฯ ยูไนเต็ด) : หลังจากที่คู่ขาคนก่อนต้องย้ายทีมออกไป แต่ปีถัดมา ดานโญ เซียกา ก็ได้พบคู่หูคนใหม่ คริสเตียน เคาคู ดาวยิงร่างโย่งที่ประสานงานกันได้อย่างลงตัว พร้อมส่งผลให้ห้องเครื่องชาวไอวอรีโคสต์ยิงระเบิด ถึง 15 ประตู ส่วน เคาคู ยิงไป 7 จบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน โดยฤดูกาล 2012 “กิเลนผยอง” ตัดสินใจปล่อย เคาคู ไปร่วมทีม ตูร์ แอฟเซ ลีก เดอซ์ ของฝรั่งเศส ด้วยค่าตัว 10 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการทำธุรกิจที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งหนึ่ง

2009 - ซูมาโฮโร ยายา & ดานโญ เซียกา (เมืองทองฯ ยูไนเต็ด) : ถึงแม้ว่า ยายา ปีกซ้ายตัวเก่งชาวไอวอรีโคสต์ จะโชว์ฟอร์มลากเลื้อยพร้อมยิงประตูสุดสวย จนพาต้นสังกัด “กิเลนผยอง” ซิวแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูการแรกของทีมมาครอง แต่กำลังหนุนคนสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เซียกา มิดฟิลด์เพื่อนร่วมชาติ ที่คอยเป็นกำลังเสริมทำเกมกลางสนามทั้งรุกและรับให้ปีกมหาภัยได้กระชากแบบไม่ต้องกังวล อีกทั้งเจ้าตัวยังยิงได้ถึง 10 ประตู มากกว่า ยายา ที่ทำได้ 9 ประตูเสียอีก ก่อนที่ต้นสังกัดจะปล่อย ยายา ให้กับเคเอเอ เกนท์ ทีมดังจาก จูปิแลร์ลีก เบลเยียม ด้วยค่าตัวมหาศาล 20 ล้านบาท ส่วน เซียกา นั้นยังคงเป็นตัวหลักของทีมจนถึงฤดูกาลปัจจุบัน

2008 - ณรงค์ชัย วชิรบาล & รณชัย รังสิโย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) : ต้องบอกว่าการจ่ายบอลสั้น วางบอลยาว รวมถึงลูกฟรีคิกและเทคนิคของ “เจ้าตั้ม” ณรงค์ชัย วชิรบาล ในเวลานั้นถือว่าดีที่สุดของเมืองไทยก็ว่าได้ คอยคุมเกมแดนกลางสนามให้กับต้นสังกัด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จนคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก พร้อมกับซิวตำแหน่งกองกลางยอดเยี่ยม ประจำปี 2008 มาเป็นเกียรติยศให้แก่ตัวเอง โดยมีหัวหอกรุ่นน้องอย่าง รณชัย รังสิโย เป็นคู่หู ส่งผลให้ “เจ้าแซม” ยิงไปถึง 16 ประตู เป็นอันดับสองรองจาก อานนท์ สังสระน้อย ของบีอีซี เทโรศาสนที่ยิง 20 ประตู เป็นดาวซัลโว หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พเนจรแยกย้ายไปหลากหลายสโมสร โดยปัจจุบันค้าแข้งกับ ชัยนาท เอฟซี และ บีอีซี เทโรศาสน ตามลำดับ

20007 - พิภพ อ่อนโม้ & โคเน โมฮัมเหม็ด (ชลบุรี เอฟซี) : ปี 2007 “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี เป็นทีมจากภูธรทีมแรกที่คว้าแชมป์ศึก ไทยพรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ และเป็นแชมป์แรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ทีมชุดนั้นใช้ระบบทีมเวิร์คเป็นหลัก มีผู้นำอย่าง “กัปตันโม้” พิภพ อ่อนโม้ ดาวยิงตัวเก่ง ที่ซัดไป 15 ประตู เป็นแกน พร้อมด้วย โคเน โมฮัมเหม็ด ที่คอยแบ่งเบาภาระการทำประตูอยู่ข้างกาย ซึ่งดาวเตะไอวอรีโคสต์ ไม่ทำให้ผิดหวัง ซัดไป 15 ตุง พาทีมเถลิงแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งปัจจุบัน “เจ้าชายกบ” ยังเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของชลบุรีและเป็นสิ่งที่สโมสรขาดไม่ได้
ดูโอแฟรงค์
ซูมาโฮโร ยายา
พิภพ คนนี้ ชลบุรี ขาดไม่ได้
รณชัย (ซ้าย) ประสานงาน ณรงค์
กำลังโหลดความคิดเห็น