xs
xsm
sm
md
lg

ครึ่งทางไทยลีก เช็กฟอร์ม “ท็อป 4”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มาริโอ ยูรอฟสกี คีย์แมน กิเลนผยอง
ASTVผู้จัดการรายวัน- ผ่านครึ่งทางไปแล้ว สำหรับศึกฟุตบอล สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012 หลายคนคงจะทึ่งกับฟอร์มของจ่าฝูง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ยังสะกดคำว่า “แพ้” ไม่เป็น อย่างไรก็ตาม อีก 17 นัดที่เหลือ ก็ยังประมาทไม่ได้กับช่วงห่างเพียง 5 แต้ม MGR Sport จึงถือโอกาสนี้ขอนำเสนอภาพรวมของเลกแรกเจาะลึกบรรดา “ท็อปโฟร์” โดยเฉพาะคำถามที่หลายคนอยากรู้ว่าบั้นปลายแล้วใครจะเข้าป้ายคว้าแชมป์ไปครอง

จ่าฝูงไร้พ่าย
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อดีตแชมป์ไทยลีกสองสมัย (2009, 2010) มาปีนี้เปิดตัวด้วยคอนเซ็ปต์ “รีเทิร์น ออฟ แชมเปียนส์” และดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ราคาคุยเสียด้วย ด้วยผลงานเช่นนี้คงหนีไม่พ้นการมาของ มาริโอ ยูรอฟสกี เพลย์เมกเกอร์ชาวมาซิโดเนีย ที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่น อีกทั้งยังเล่นเข้าขากับ ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงเบอร์หนึ่งประจำทีม จนส่งผลให้ “เจ้ามุ้ย” ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ เรียกได้ว่า ประตูทั้งหมดที่ทีมได้นั้น มาจากสองคนนี้เกินครึ่ง (ธีรศิลป์ 13, ยูรอฟสกี 11) และด้วยทุนสนับสนุนก้อนโตกว่า 600 ล้านบาท ของ บ.เอสซีจี ทำให้เมืองทองฯ มีขุมกำลังทดแทนที่แข็งแกร่ง และในเลกหน้ายังเพิ่มศักยภาพด้วยการคว้า เอ็ดวัลโด เฮอร์โมซา แข้งดีกรีทีมชาติโบลิเวีย และ เปาโล เรนเกิล กองหน้าชาวบราซิล มาเสริมทัพอีก พูดได้ว่ากำลังรบพร้อมทุกด้านจริงๆ และมีโอกาสไม่น้อยที่ สลาวิซา โยคาโนวิช กุนซือของทีมจะนำแชมป์กลับมาให้สาวกอุลตร้าได้รื่นเริงอีกครั้งตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาคุมทีม

ทีมเวิร์กฉลามชล
ชลบุรี เอฟซี ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากฤดูกาลที่แล้วเป็นหลัก โดยต้องบอกว่าโชคดีกับตำแหน่งรองจ่าฝูงเวลานี้ เพราะผลงานไม่คงเส้นคงวา ต้องพึ่ง พิภพ อ่อนโม้ และ เทิดศักดิ์ ใจมั่น สองตัวเก๋า ลูโดวิค ทาคาม, โธมัส ดอสเซวี, เจฟฟรีย์ ดูแมงค์ เล่นดีเป็นบางนัดขาดความคงเส้นคงวา สุรีย์ สุขะ, อนุชา กิจพงษ์ศรี, เกียรติประวุฒิ สายแวว ฟิตยืนระยะไม่ได้ทุกเกม ต้องชม “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล กับระบบการเล่นที่ประคองตัวอยู่ได้ในขณะนี้ ส่วนเลกสองนอกจาก ชอน กวาง จิน อดีตแข้งยอดเยี่ยมเอเอฟซี แชมเปียนลีก และแข้งหน้าใหม่คนอื่นจะช่วยทีมได้ขนาดไหน เพราะยังมี เอเอซี คัพ ให้กรำศึกอีกหนึ่งถ้วย แต่ที่สำคัญยอดทีมจากตะวันออกยังเหลือเกมในบ้านกับจ่าฝูงเมืองทองฯอีกหนึ่งนัด ถือเป็นโอกาสดีในการบีบช่องว่างเพื่อลุ้นแชมป์

สิ้นลายแชมป์เก่า
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าจากฤดูกาลที่แล้ว ผลงานเริ่มออกทะเลหลังเปิดรังชนะ โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี 4-2 เมื่อวันที่ 31 มี.ค.55 ก็ไม่สามารถชนะทีมใดยามเล่นในบ้าน 6 นัดติด (เสมอ 5 แพ้ 1) จนทีมร่วงไปอยู่อันดับ 3 ตามหลังจ่าฝูง 10 แต้ม อาจจะด้วยว่าต้องกรำศึกหนักจากศึก เอเอฟซี แชมเปียนลีก ที่เพิ่มขึ้นมา จึงทำให้ช่วงท้ายของเลกแรกต้องเร่งโปรแกรมเตะติดต่อกัน 2-3 นัดในสัปดาห์เดียว แต่ปัญหาหลักจริงๆ คือ ไม่มีตัวพลิกสถานการณ์ฟอร์มที่เคยโดดเด่นของ “ดูโอแฟรงค์” แฟรงค์ โอฮานด์ซา และ แฟรงค์ อาเชียมปง มาปีนี้คู่แข่งเริ่มจับทางถูกจนพิษสงดูลดลงไปเยอะ กอปรกับแข้งโควตาเอเชียตัวใหม่ที่เพิ่มเข้ามาตอนต้นฤดูกาลยังไม่สามารถตอบโจทย์ที่ชัดเจนทั้ง อัสการ์ ยาดิเกรอฟ และ ชินโนะซึเกะ ฮอนดะ มิหนำซ้ำ โอฮานด์ซา ดันแข้งหักจนลงเล่นไม่ได้ทั้งฤดูกาลอีก คงได้แต่รอดูว่าผู้เล่นชาติตัวใหม่อย่าง อันวาห์ ราจาบอฟ (อุซเบกิสถาน), สองพี่น้อง มาร์โก และ ดอร์ดิเย เซ็ตโควิช มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติมอนเตเนโก รวมถึง แอนโธนี อำไพพิทักษ์วงศ์ ลูกครึ่งไทย-มะกัน ที่พกประสบการณ์จากเมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ จะช่วยพา “เนวิน ชิดชอบ แอนด์ เดอะแก๊ง” ฟื้นตัวได้แค่ไหน

เครื่องจักรสังหารแซมบา
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเข้ามาพัฒนาแผนงานทั้งในและนอกสนามของ โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ อดีตผจก.ทีมเมืองทองฯ ช่วยยกระดับ บีอีซี เทโรศาสน ชนิดทันตาเห็นจนรั้งอันดับ 4 และหนึ่งในนั้นที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม คือ “เคลย์ตัน ซิลวา” ดาวยิงหน้าหยกที่ถูกดึงมาร่วมทัพก่อนเปิดฤดูกาล ซึ่งศูนย์หน้าชาวบราซิเลียนไม่ทำให้ผิดหวังถล่มประตูเป็นว่าเล่น 13 ลูกจนนั่งแท่นดาวซัลโว บวกกับการเข้ามาของ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค อดีตเพลย์เมกเกอร์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่รับบทกัปตันทีมคอยบงการเกมกลางสนามและป้อนบอลงามๆ จนปลุกให้ยักษ์หลับกลับมาอีกครั้ง ถือว่า “มังกรไฟ” เป็นหนึ่งตัวแปรลุ้นอันดับ 2 เพื่อโควตาเพลย์ออฟ เอเอฟซี แชมเปียนลีก ชนิด ชลบุรี และ บุรีรัมย์ ห้ามกะพริบตา
มาร์โก เซ็ตโควิช “เมสซีมอนเตเนโก”
พิภพ อ่อนโม้ ซูเปอร์ซับฉลามชล
เคลย์ตัน ซิลวา ดาวซัลโวบราซิเลียน
กำลังโหลดความคิดเห็น