เอเยนซี - จากควอเตอร์แบ็กโนเนมถูกดราฟท์รอบ 6 อันดับ 199 ขึ้นมาเล่นอาชีพเมื่อปี 2000 ถึงวันนี้ ทอม เบรดี ขึ้นชื่อเป็นนักกีฬาที่สมบูรณ์แบบ คว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล 3 สมัย (ปี 2001, 2003, 2004) ได้ตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 2 หน ติดทีมโพรโบว์ล 7 ครั้ง แถมยังสร้างครอบครัวอบอุ่นร่วมไปกับ จีเซล บุนด์เชน ซูเปอร์โมเดลชาวบราซิเลียน แม้ไม่เอ่ยปากถึงเป้าหมายก่อนนำ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ลุยศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ฤดูกาล 2012/13 แต่เชื่อลึกๆ ว่าจอมทัพวัย 35 ปี ย่อมต้องเล็งไปถึงตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 47 เพื่อขึ้นชั้นระดับตำนาน ซึ่งนี่เป็นหนึ่งใน 5 หัวข้อน่าติดตามที่เว็บไซต์ "ซิติเซน-ไทมส์ ด็อท คอม" (Citizen-Times.com) นำมาชูเรียกน้ำย่อยสาวกคนชนคน
1. "เบรดี" กับแหวนวงที่ 4
ซีซันก่อน ทอม เบรดี ขว้างได้ระยะ 5,235 หลา 39 ทัชดาวน์ เสียเพียง 12 อินเทอร์เซปต์ น่าเสียดายที่ ดรูว์ บรีส์ ควอเตอร์แบ็ก นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส กลายเป็นผู้ทุบสถิติขว้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แดน มาริโน ตำนานไมอามี ดอลฟินส์ ที่ทำไว้ 5,084 หลา เมื่อ 27 ปีก่อน โดย บรีส์ ขว้างไปทั้งสิ้น 5,476 หลา อย่างไรก็ตาม นี่คงไม่ใช่เป้าหมายหลักของซูเปอร์สตาร์วัย 35 ปี เพราะความปรารถนาที่แท้จริงคือนำพลพรรค "นักรบกู้ชาติ" ล้างอายจากการปราชัย นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ในซูเปอร์โบว์ล 2 สมัยในปี 2007 และฤดูกาลก่อน ด้วยอาวุธที่ครบมือในเกมการทางอากาศที่นำโดยคู่ปีกในทีเด็ดอย่าง ร็อบ กรอนคาวสกี กับ แอรอน เฮอร์นานเดซ ส่งให้ แพทริออตส์ เป็นหนึ่งในทีมเต็ง ทว่าเส้นทางลุ้นแชมป์สมัยที่ 4 เทียบตำนานอย่าง เทอร์รี แบรดชอว์ และโจ มอนทานา ยังเต็มไปด้วยขวากนามทั้ง อีลาย แมนนิง (ไจแอนท์ส), แอรอน ร็อดเจอร์ส (กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส) หรือแม้แต่ บรีส์ เองก็ตาม
2. ปีทองจอมทัพ "รุคกี้"
นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ควอเตอร์แบ็กหน้าใหม่ หรือรุคกี้ ได้รับความไว้วางใจให้นำทีม แน่นอนสปอร์ตไลต์ต้องส่องไปที่ แอนดรูว์ ลัก ดีกรีนัมเบอร์วัน ดราฟท์ ของอินเดียนาโปลิส โคลต์ส ที่ได้รับการยกย่องเรื่องการขว้างอันแม่นยำ ขณะที่ โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด ขว้างก็ดีวิ่งก็เด่นลุ้นนำ วอชิงตัน เรดสกินส์ สูดกลิ่นเพลย์ออฟอีกครั้ง ด้าน รัสเซล วิลสัน พลังแขนยอดเยี่ยมได้คุมทัพ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส ในส่วน ไรอัน แทนเนฮิลล์ กับ แบรนดอน วีเดน อาจยังสร้างความแตกต่างให้ ไมอามี ดอลฟินส์ และคลีฟแลนด์ บราวน์ส ไม่ได้ในชั่วข้ามปี แต่ก็ถือว่าได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองแล้ว
3. "มอสส์" ส่งไนเนอร์สแชมป์
เข้าลีกมาตั้งแต่ปี 1998 สร้างชื่อขึ้นมากับ มินเนโซตา ไวกิงส์ ถึงแม้เคยสร้างชื่อเสียทำตัวมีปัญหาอยู่บ้าง แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า แรนดี มอสส์ เป็นหนึ่งในสุดยอดปีกนอกของ NFL ถึงวันนี้จอมเก๋าวัย 35 ปี มีลุ้นสัมผัส "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" หนแรกในชีวิต เมื่อคัมแบ็กจากรีไทร์มาอยู่กับ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ทีมซึ่งซีซันก่อนสถิติชนะ 13 แพ้ 3 เข้าถึงรอบชิงแชมป์สาย NFC โดย "คนตื่นทอง" ไม่ได้แชมป์มาตั้งแต่ปี 1994 ต้องมาดูว่าแรงกระตุ้นคูณสองผลลัพธ์ที่ออกมาจะดีกว่าปีก่อนหรือไม่
4. "นักบุญ" ฝ่าเรื่องบาป
เผชิญปัญหามาตลอดช่วงซัมเมอร์ เฮดโค้ช ชอน เพย์ตัน โดนห้ามคุมทัพทั้งซีซันเช่นเดียวกับ โจนาธาน วิลมา พี่ใหญ่ในเกมรับ โทษฐานมีส่วนร่วมในคดี "ตั้งค่าหัวคู่แข่ง" อย่างไรก็ดี การที่ "นักบุญ" สามารถต่อสัญญา บรีส์ หนึ่งในผู้เล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของลีก เซ็นต์ส จึงเป็นทีมที่เต็มไปด้วยศักยภาพยังมีทีเด็ดเสมอ เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่ได้ลุ้นตั๋วสู่โพสต์ซีซันทางฝั่ง NFC ไม่เว้นแต่ละปีแน่นอน
5. "แมนนิง" คุมบังเหียนม้าป่า
เดนเวอร์ บรองโกส์ โขยกเข้าเพลย์ออฟซีซันก่อนทั้งที่สถิติแค่ 8-8 เกม จากปรากฎการณ์ "ทีโบว์ มาเนีย" (ทิม ทีโบว์) ถึงวันนี้สาวก "ม้าป่า" สามารถคิดไกลได้มากกว่านั้น ในเมื่อทีมมีควอเตอร์แบ็กจอมเก๋าอย่าง เพย์ตัน แมนนิง มาคุมบังเหียน ด้วยพรสวรรค์และมันสมองจอมทัพวัย 36 ปี การนำทีม "ม้าป่า" มีสถิติชนะถึงหลัก 10 เกมไม่เหนือบ่ากว่าแรง แต่คำถามตัวใหญ่คือ อาการบาดเจ็บที่คอจนต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 4 หน สมานดีแล้วมากน้อยแค่ไหน ซึ่งมันจะสะท้อนถึงโอกาสประสบความสำเร็จของบรองโกส์ ด้วยเช่นกัน