xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊มล” จี้ “บังยี” สำนึกคำว่า “ในพระบรมราชูปถัมภ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นาง นฤมล ศิริวัฒน์
“เจ๊มล” นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา จี้ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้ตระหนักถึงคำว่า ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งต่อท้ายชื่อของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้จงหนัก

เมื่อเวลา 10.30 น.ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม 2555 โดยมี นายศุภชัย ช่วยเวช, นายโกศล ใสสุวรรณ และ นายภัทรพงษ์ รักข้อง ทีมทนายความประจำบริษัท แดอัน ย็อนฮัพ จำกัด เดินทางยื่นเอกสาร หลักฐานสัญญาโอนเงินต่างๆ ให้กับ นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา พร้อมด้วยบรรดาสื่อมวลชนที่สนใจร่วมฟังอย่างคับคั่ง

โดยเอกสารที่ยื่นมาให้ทางคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา พร้อมด้วยหลักฐานต่างๆ ได้แก่ สำเนาหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีของสมาคมฟตบอลฯ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2550 จำนวนเงิน 600,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 18 ล้านบาท) สำนหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีของสมาคมฟุตบอลฯ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2550 เป็นจำนวนเงิน 300,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 9 ล้านบาท) คำฟ้องของศาลแขวงพระนครเหนือ ซึ่งศาลนัดไต่สวนวันที่ 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา 09.00 น.และสัญญามอบสิทธิ์ฉบับภาษาต่างประเทศและฉบับแปล

ซึ่งทาง “เจ๊มล” ได้จี้ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ว่า “หลังจากที่ได้รับเรื่องจากทีมทนายความ บริษัท แดอัน ย็อนฮัพ จำกัดแล้ว ก็อยากให้ทาง คุณวรวีร์ ได้ตระหนักถึงคำว่า สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ให้จงหนัก ว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่ที่ทำให้เสื่อมเสียถึงชื่อของประเทศ โดยเฉพาะคำว่า “ในพระบรมราชูปถัมภ์” เป็นชื่อที่ศักดิ์สิทธิ์ และหมายรวมถึงหน้าตาของประเทศและความเชื่อถือจากนานาประเทศ หากเรื่องนี้ไปถึงประเทศเกาหลีใต้ คงจะเป็นภาพที่ไม่ดีต่อประเทศของเราเป็นแน่”

“อันที่จริงชื่อของสมาคมฟุตบอลแห่งประทศไทย เป็นองค์กรของประเทศไทย และตอนนี้ต่างประเทศกำลังจับตามองอยู่ ทางเราเองก็ไม่นิ่งนอนใจ ก็จะนำเรื่องนี้ที่ทางทีมทนายความ บริษัท แดอัน ย็อนฮัพ จำกัด ที่กรุณาส่วมาให้กรรรมาธิการกีฬา วุฒิสภา ได้พิจารณา และหาทางออกร่วมกัน โดยทางเราก็อยากเชิญทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกัน ซึ่งๆ หน้า ในอีกสัปดาห์ถัดไปด้วย” ปธ.กมธ.กีฬา กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน นายศุภชัย กล่าวถึงสาเหตุที่ดำเนินการฟ้องในเรื่องสัญญาล่าช้าถึง 5-6 ปี ว่า “ที่ผ่านมาผมยอมรับว่า ไม่รู้ว่าโดนหลอกเลยนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2550 แต่ช่วงนั้นเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเลย มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวว่าเรื่องมีความเป็นมาอย่างไร ตลอดระยะเวลาที่เราทำสัญญากับทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย”

“ตอนนี้แนวทางที่ผมยังดำเนินการได้อยู่ในตอนนี้คือการดำเนินการฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญา โดยอาญาได้ยื่นฟ้องไปแล้ว ฐานฉ้อโกง ส่วนคดีแพ่งนั้นผมจะฟ้องคุณวรวีร์ในฐานผิดสัญญา ส่วนเรื่องที่ผมไม่อยากพบปะคุณวรวีร์ กัน ซึ่งๆ หน้านั้น คือพวกเราก็อายุยังน้อย ด้อยประสบการณ์ การเจอกันในช่วงเวลานี้ยังไม่เหมาะสมที่เราจะเจอกัน ซึ่งผมคิดว่าเราควรเจอต่อหน้าในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่น ศาลยุติธรรมจะดีกว่า เรามาคุยและตกลงกันผ่านกระบวนการยุติธรรมจะดีกว่า”

“ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก หาก คุณวรวีร์ นำจำนวนเงินดังกล่าวกลับคืนมา ผมก็พร้อมที่จะถอนคำฟ้องและไม่ติดใจเอาความอีกเลยในความโปร่งใสของท่าน หากเรื่องที่ผมฟ้องในทางแพ่งผิดจริงขึ้นมา โทษที่คุณวรวีร์ได้รับนั่นหมายถึงโดนจำคุกไม่เกิน 3 ปีเลยนะครับ เพราะสำหรับผม สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศถือเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ทั่วโลกกำลังจับตามองอยู่เหมือนกัน”
กำลังโหลดความคิดเห็น