บริษัทเอกชนเกาหลีฟ้องสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ “วรวีร์ มะกูดี” นายกสมาคมฟุตบอลฯ ฐานร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ หลังลวงให้นำเงินมาค้ำประกันการลงทุนธุรกิจส่งเสริมการตลาดกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย กว่า 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมร้องขอเรียกเงินคืน 30 ล้านบาท ศาลรับฟ้องพร้อมนัดไต่สวนมูลฟ้อง 12 พ.ย.นี้
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (27 ส.ค.) ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.รัชดาภิเษก บริษัท แดอัน ย็อนอัพ จำกัด มอบอำนาจให้นายชอย ดอง อุล เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์
คำฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อประมาณต้นเดือนเมษายน - 8 สิงหาคม 2550 นายวรวีร์ในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้ชักชวนโจทก์ให้ร่วมลงทุนธุรกิจส่งเสริมการตลาดกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย โดยจะมอบสิทธิให้โจทก์เป็นตัวแทนดำเนินธุรกิจทางการตลาดในทุกด้าน เช่น การจัดหา สปอนเซอร์ผู้สนับสนุนและการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ โดยมอบให้โจทก์แต่เพียงผู้เดียวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2550 - 31 มีนาคม 2554 โดยเงื่อนไขว่าภายหลังมอบสิทธิ์แล้ว โจทก์ต้องวางเงินประกันขั้นต่ำให้แก่จำเลยเป็นเงิน 2,400,000 เหรียญสหรัฐต่อปี และในปีแรกจะแบ่งชำระเป็น 4 ไตรมาส ครั้งละ 6 แสนเหรียญสหรัฐ และหากในปีต่อไปการดำเนินธุรกิจมีรายได้เพียงพอ โจทก์สามารถนำมาแบ่งชำระในปีต่อไปได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว จำเลยทั้งสองไม่มีเจตนาในการมอบสิทธิ์เป็นตัวแทนดำเนินกิจการส่งเสริมการตลาดธุรกิจการกีฬาให้โจทก์แต่อย่างใด
แต่การหลอกลวงดังกล่าวทำให้โจทก์หลงเชื่อตกลงเข้าร่วมธุรกิจ ซึ่งจำเลยทั้งสองได้ไปซึ่งทรัพย์สินของโจทก์ โดยได้โอนเงินตามสัญญาข้างต้นให้กับจำเลย เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2550 เป็นเงิน 6 แสนเหรียญสหรัฐ หรือจำนวน 19,516,821 บาทและเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม โจทก์โอนเงินจากต่างประเทศอีก 3 แสนเหรียญสหรัฐ หรือ 10,270,815 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 29,787,636 บาท จนปัจจุบันหมดสัญญาแล้ว จำเลยยังไม่ได้มอบสิทธิ์การเป็นตัวแทนดำเนินธุรกิจดังกล่าวให้กับโจทก์ จำเลยทั้งสองจึงแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริงที่ควรบอกโดยการหลอกลวงดังกล่าวทำให้โจทก์เชื่อและหลงมอบเงินให้ อันเป็นการกระทำที่แสวงหาประโยชน์เอาเงินจากโจทก์ไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
เบื้องต้นศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 1217/255 พร้อมนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 12 พ.ย. เวลา 09.00 น.
นายศุภชัย ช่วยเวช ทนายความโจทก์เปิดเผยว่า เมื่อปี 2550 นายวรวีร์ได้ทำสัญญากับโจทก์ว่าจะให้ดูแลสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยทางบริษัท แดอัน ย็อนอัพ จำกัด ได้โอนเงินเข้าบัญชีของสมาคมฟุตบอลฯ เป็นเงินประมาณ 30 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้มีสิทธิเข้าไปดำเนินการดูแลด้านการตลาดแต่อย่างใด ในการดำเนินคดีทางการหมายได้ฟ้องแพ่งเพื่อเรียกเงินคืนจำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งหวังว่าจะสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ และอยากฝากถึงนายวรวีร์ว่า สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถือว่าเป็นตัวแทนของชาติที่มีต่างประเทศจับตามองอยู่ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีการประนีประนอมกันเพื่อรักษาชื่อเสียงของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ไว้
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (27 ส.ค.) ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.รัชดาภิเษก บริษัท แดอัน ย็อนอัพ จำกัด มอบอำนาจให้นายชอย ดอง อุล เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์
คำฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อประมาณต้นเดือนเมษายน - 8 สิงหาคม 2550 นายวรวีร์ในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้ชักชวนโจทก์ให้ร่วมลงทุนธุรกิจส่งเสริมการตลาดกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย โดยจะมอบสิทธิให้โจทก์เป็นตัวแทนดำเนินธุรกิจทางการตลาดในทุกด้าน เช่น การจัดหา สปอนเซอร์ผู้สนับสนุนและการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ โดยมอบให้โจทก์แต่เพียงผู้เดียวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2550 - 31 มีนาคม 2554 โดยเงื่อนไขว่าภายหลังมอบสิทธิ์แล้ว โจทก์ต้องวางเงินประกันขั้นต่ำให้แก่จำเลยเป็นเงิน 2,400,000 เหรียญสหรัฐต่อปี และในปีแรกจะแบ่งชำระเป็น 4 ไตรมาส ครั้งละ 6 แสนเหรียญสหรัฐ และหากในปีต่อไปการดำเนินธุรกิจมีรายได้เพียงพอ โจทก์สามารถนำมาแบ่งชำระในปีต่อไปได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว จำเลยทั้งสองไม่มีเจตนาในการมอบสิทธิ์เป็นตัวแทนดำเนินกิจการส่งเสริมการตลาดธุรกิจการกีฬาให้โจทก์แต่อย่างใด
แต่การหลอกลวงดังกล่าวทำให้โจทก์หลงเชื่อตกลงเข้าร่วมธุรกิจ ซึ่งจำเลยทั้งสองได้ไปซึ่งทรัพย์สินของโจทก์ โดยได้โอนเงินตามสัญญาข้างต้นให้กับจำเลย เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2550 เป็นเงิน 6 แสนเหรียญสหรัฐ หรือจำนวน 19,516,821 บาทและเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม โจทก์โอนเงินจากต่างประเทศอีก 3 แสนเหรียญสหรัฐ หรือ 10,270,815 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 29,787,636 บาท จนปัจจุบันหมดสัญญาแล้ว จำเลยยังไม่ได้มอบสิทธิ์การเป็นตัวแทนดำเนินธุรกิจดังกล่าวให้กับโจทก์ จำเลยทั้งสองจึงแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริงที่ควรบอกโดยการหลอกลวงดังกล่าวทำให้โจทก์เชื่อและหลงมอบเงินให้ อันเป็นการกระทำที่แสวงหาประโยชน์เอาเงินจากโจทก์ไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
เบื้องต้นศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 1217/255 พร้อมนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 12 พ.ย. เวลา 09.00 น.
นายศุภชัย ช่วยเวช ทนายความโจทก์เปิดเผยว่า เมื่อปี 2550 นายวรวีร์ได้ทำสัญญากับโจทก์ว่าจะให้ดูแลสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยทางบริษัท แดอัน ย็อนอัพ จำกัด ได้โอนเงินเข้าบัญชีของสมาคมฟุตบอลฯ เป็นเงินประมาณ 30 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้มีสิทธิเข้าไปดำเนินการดูแลด้านการตลาดแต่อย่างใด ในการดำเนินคดีทางการหมายได้ฟ้องแพ่งเพื่อเรียกเงินคืนจำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งหวังว่าจะสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ และอยากฝากถึงนายวรวีร์ว่า สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถือว่าเป็นตัวแทนของชาติที่มีต่างประเทศจับตามองอยู่ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีการประนีประนอมกันเพื่อรักษาชื่อเสียงของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ไว้