แมนเชสเตอร์ ซิตี คว้าโล่การกุศล เอฟเอ คอมมูนิตี ชิลด์ เป็นสมัยที่ 4 หลังฉวยโอกาสที่ เชลซี เหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน แซงชนะ 3-2 จากการเรียงหน้ายิงของ ยายา ตูเร, คาร์ลอส เตเบซ และ ซาเมียร์ นาสรี ที่สนาม วิลลา ปาร์ค เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 2555 เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฤดูกาลใหม่กำลังจะเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์หน้า
ศึกฟุตบอล เอฟเอ คอมมูนิตี ชิลด์ ณ สนาม วิลลา ปาร์ค
เชลซี 2 - 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี
ธรรมเนียมปฏิบัติฟาดแข้งชิงโล่การกุศลก่อนฤดูกาลใหม่ 2012-13 เปิดฉาก เชลซี พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี เกมนี้ โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ กุนซือแชมป์ เอฟเอ คัพ ส่ง เอเดน ฮาซาร์ด เพลย์เมกเกอร์ใหม่ถอดด้ามทีมชาติเบลเยียม ลงปั้นเกมร่วมกับ รามิเรส และ ฮวน มาตา เพื่อป้อนให้กับหน้าเป้า เฟร์นานโด ตอร์เรส ขณะที่ โรแบร์โต มันชินี นายใหญ่แชมป์ พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ใช้ 11 แข้งหน้าเดิมจากปีที่แล้วนำโดย คาร์ลอส เตเบซ และ เซร์คิโอ อกูเอโร คู่หน้าอาร์เจนไตน์ แต่ผู้รักษาประตูไม่มีมือ 1 โจ ฮาร์ท ที่มีอาการบาดเจ็บ
ช่วง 20 นาทีแรก แมนฯซิตี ครองเกมกดดันได้เหนือกว่า โดยเฉพาะลูกเปิดของ เจมส์ มิลเนอร์ ที่มีบทบาทมากไม่ว่าจะเป็นนาที 19 จากลูกเปิดเตะมุมฝั่งซ้ายเข้าศีรษะ แวงซองต์ กอมปานี สะบัดโหม่งไปตรงซอง ปีเตอร์ เช็ก รวมถึงเปิดจากกราบขวาให้ อกูเอโร โหม่งเช็ดเล่นทางแต่บางเกินไป ขณะที่ เชลซี มีโอกาสตอบโต้นาที 25 จากการขึ้นเกมทางปีกขวาของ รามิเรส ตบเรียดเข้ากลางให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด แปตามน้ำไม่ห่างตัว คอสเทล แพนทิลิมอน คว้าเอาไว้ได้ ตามด้วยนาที 30 ฮาซาร์ด ลากมายิงไกลแม้บอลจะมีน้ำหนักแต่ตรงตัวด่านสุดท้าย “เรือใบสีฟ้า” ตะครุบไม่พลาด
ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที เชลซี มาขึ้นนำ 1-0 แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจากการเก็บตกบอลเคลียร์ไม่ขาดของกองหลัง แมนฯซิตี โหม่งมาเข้าทาง รามิเรส เลี้ยงตะลุยเข้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนหักออกขวา ฮาซาร์ด พยายามจะเกี่ยวแต่ไม่โดนกลางเป็นดีถึง ตอร์เรส ดีดเข้ากลางประตู แม้จะนำไปแล้วแต่ดันมาเสียเปรียบตัวผู้เล่นนาที 42 เควิน เฟรนด์ ควักใบแดงไล่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ที่ไปพุ่งเหยียดสไลด์ 2 เท้าใส่ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ช่วงเวลาที่เหลือสกอร์ไม่เปลี่ยนแปลง “สิงห์บลูส์” นำอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง มันชินี ที่ตัวผู้เล่นเหนือกว่า แต่สถานการณ์เป็นรองเปลี่ยนส่ง กาแอล คลิชี แบ็กซ้ายลงมาแทน สเตฟาน ซาวิช ที่ติดใบเหลือง จากนั้นเปิดฉากมาเพียงแค่ 8 นาที แมนฯซิตี ก็ตีเสมอเป็น 1-1 มิลเนอร์ ทะลุถึงสุดเส้นหลังด้านขวาสาดบอลเข้ากลาง จอห์น เทอร์รี เหยียดขาสกัดมาเข้าทาง ยายา ตูเร แปเรียดเสียบมุมซ้ายมือ เช็ก ที่ล้มไปเซฟไม่ทัน
แมนฯซิตี บุกจน เชลซี โงหัวไม่ขึ้นนาที 59 ก็แซงนำ 2-1 จากความยอดเยี่ยมของ เตเบซ เลี้ยงตัดจากซ้ายเข้ากลางและยิงด้วยขวาเสียบมุมประตูอย่างไร้ที่ติ นาที 65 สกอร์ขยับไปเป็น 3-1 เตเบซ คนเดิมพาบอลตะลุยขึ้นมาทางด้านกราบซ้ายก่อนไหลให้ โคลารอฟ ที่อ้อมหลังแล้วเปิดเข้ากลางให้ ซาเมียร์ นาสรี กระแทกบอลเข้าเสาสอง หลังเสีย 3 ประตูภายใน 12 นาทีก็มีการเปลี่ยนตัวถอด ฮาซาร์ด ที่เล่นไม่ออกและส่ง ไรอัน เบอร์ทรานด์ ลงมาแทน ตามด้วย ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่ลงมาแทน มาตา
นาที 77 แมนฯซิตี เปลี่ยนตัวบ้างส่ง ดาบิด ซิลบา ลงมายืดเส้นยืดสายแทน นาสรี อย่างไรก็ตามนาที 80 เชลซี มาได้ประตูจาก 2 ตัวสำรอง สเตอร์ริดจ์ ยิงไกล แพนทิลิมอน ตะครุบไม่อยู่ เบอร์ทรานด์ ปรี่เข้ามาซ้ำตุงตาข่ายไล่มา 2-3 นาทีสุดท้ายแชมป์ พรีเมียร์ชิป เกือบตอกฝาโลงเมื่อ มิลเนอร์ จ่ายถวายพานจากขวาให้ อกูเอโร วางหน้าเท้าแปบริเวณเส้น 6 หลา แต่ไม่เน้นมากพอเลยถากเสาสองออกหลังไป ทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาทีสกอร์ไม่เปลี่ยนแปลง “เรือใบสีฟ้า” เฉือนชนะ 3-2 คว้าโล่ห์การกุศลต่อจากปี 1937, 1968 และ 1972
รายชื่อ 11 ผู้เล่นของทั้งสองทีม
เชลซี-ปีเตอร์ เช็ก, แอชลีย์ โคล, จอห์น เทอร์รี, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, แฟรงค์ แลมพาร์ด, จอห์น โอบิ มิเกล, รามิเรส, เอเดน ฮาซาร์ด, ฆวน มาตา, เฟร์นานโด ตอร์เรส
แมนฯซิตี-คอสเทล แพนทิลิมอน, แวงซองต์ กอมปานี, พาโบล ซาบาเลตา, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, สเตฟาน ซาวิช, ไนเจล เดอ ยอง, เจมส์ มิลเนอร์, ซาเมียร์ นาสรี, ยายา ตูเร, เซร์คิโอ อกูเอโร, คาร์ลอส เตเบซ