วันนี้เราลองมาสำรวจกิจวัตรประจำของโปรมือดีที่สุดในโลก ดูกันนะครับ…
คีแกน แบรดลีย์ ผู้ชนะใน พีจีเอ แชมเปียนชิป ปี 2011 จะเริ่มต้นอุ่นเครื่องร่างกาย 50 นาที พอดี ก่อนถึงเวลาออกรอบแข่งขันของเขาเสมอ โดยเขาจะพัตต์เป็นเวลา 10 นาที ตีลูก 20 นาที แล้วพัตต์อีก 10 นาที หรือมากกว่านั้น เพื่อเปิดโอกาสให้มีเวลาผ่อนคลายสบายๆ 10 นาที ระหว่างเดินทางไปยังแท่นที่หลุมแรก
ลุค โดนัลด์ โปรหมายเลขหนึ่งของโลก จะตีลูก 65 ลูกพอดีเสมอ แคดดี้จะวัดระยะไปยังธงทุกธง ที่ปักอยู่ในสนามซ้อมตี และจะวางลูกไว้ 13 กอง กองละ 5 ลูก สำหรับให้โดนัลด์ตีจนหมด ด้วยการเพ่งเล็งตีไปที่เป้าเหล่านั้นโดยเฉพาะ โดยไม่มีการตีไปที่อื่น
แบรนด์ท สไนเดเกอร์ แม้จะดูไม่ค่อยกระตือรือร้นนัก แต่ก็จะจัดเวลาไว้อย่างเคร่งครัด 45 นาที สำหรับการยืดคลายกล้ามเนื้อ และออกกำลังกาย ให้หัวใจสูบฉีดโลหิต ก่อนการเล่นแต่ละรอบ แม้จะเป็นการเล่นอย่างตามสบาย กับบรรดาเพื่อนฝูงก็ตาม
และยังมีคนอย่าง ไรอัน มัวร์ ซึ่งเขาไม่มีกิจวัตรประจำที่กำหนดไว้โดยเฉพาะ แต่ชอบที่จะไปตามน้ำ แต่ถึงกระนั้น มัวร์ก็ยังสมัครใจปฏิบัติตามกฏข้อหนึ่งที่ผู้เล่นทุกคนปฏิบัติเหมือนกันหมด นั่นคือ ให้รับประทานอาหารเสร็จอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงก่อนถึงเวลาทีออฟ
จะเห็นว่า กิจวัตรประจำวันของโปรแต่ละคนดูจะเป็นเรื่องสบายๆ ไม่เคร่งเครียดอะไรนัก โปรแข่งขันเป็นส่วนมากให้ความสำคัญต่ำต่อเรื่องการตีลูกให้ดีในสนามซ้อม ก่อนการออกรอบ ดังเช่นที่ รีทีฟ กูเชน แชมป์ยูเอสโอเพ่นสองครั้ง กล่าวว่า “ผมมักจะไม่ค่อยตีช็อตที่ดีๆในสนามซ้อม ผมไม่กังวลต่อการตีลูกไปไม่ตรง ผมเพียงแต่พยายามผ่อนคลายร่างกาย และให้รู้สึกสบายๆกับจังหวะสวิงของผมเอง มีนักกอล์ฟสมัครเล่นจำนวนมากเหลือเกินที่พยายามฝึกซ้อมอย่างหนักก่อนการเล่นจริงในเวลาถัดมา”
สตีฟ เฟล็สซ์ เสริมว่า “มีเพียงเวลาเดียวที่คุณควรจะแก้ไขวงสวิงของคุณ คือ หลังการออกรอบ หรือถ้าจะให้ดียิ่งไปกว่านั้น ก็คือฝึกซ้อม แก้ไขในวันที่คุณไม่ได้ออกรอบ ก่อนผมจะลงเล่น ผมจะไม่ทำให้ตัวเองหมดแรง หรือให้เวลาตนเองมากเกินไปเพื่อสร้างกลไกการสวิง”
แต่น่าแปลกที่ผลการสอบถามนักกอล์ฟทั่วๆไป จำนวน 1,873 คน ในเรื่องความบ่อยของการซ้อมตีลูก ก่อนและหลังการออกรอบ พบว่า นักกอล์ฟส่วนใหญ่ ประมาณ 60-70% ชอบที่จะซ้อมก่อนการออกรอบ และกลับกัน นักกอล์ฟกลุ่มนี้จะไม่เคยซ้อมหลังการออกรอบเลย ประมาณ 80% อาจเป็นเพราะความเมื่อยล้า เวลาหมด ไม่มีอารมณ์ หรือมีข้ออ้างอื่นๆ สารพัด ทำให้ไม่มีโอกาสที่จะแก้ไขช็อตต่างๆที่ผิดพลาดไป อย่างทันท่วงที และนี่คือความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของนักกอล์ฟทั่วๆไปกับโปร!!