นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมทั้งอวยพร และให้โอวาทแก่นักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย สู้ศึกพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่จะมีขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม ถึง 9 กันยายน 2555 รัฐบาลทุ่มงบกว่า 34 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเดินทางไปแข่งขันครั้งนี้ ด้านกองทุนพัฒนากีฬาอาชีพ อัดฉีด เหรียญทองละ 4 ล้านบาท ลุ้นวีลแชร์เรซซิง และ วีลแชร์ฟันดาบโกยทอง
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม 2555 เวลา 16.00 น.นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และคณะผู้บริหาร เดินทางมา ณ ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ชั้น 25 การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่ออวยพร พร้อมทั้งให้โอวาทสร้างขวัญและกำลังใจแก่นักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย สู้ศึกพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่จะมีขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม ถึง 9 กันยายน ที่จะถึงนี้
โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวว่า “ขอยินดีกับนักกีฬาทุกคนที่ได้รับคัดเลือกไปแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ กีฬาคนพิการเป็นตัวอย่างอย่างดีในด้านความอุตสาหะ และเป็นกำลังใจแก่คนที่มีร่างกายสมบูรณ์พร้อม ขอให้ทุกท่านเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย ถือเป็นทูตในการเผยแพร่วัฒนธรรมให้โลกได้รู้จัก รัฐบาลขอเป็นกำลังใจให้แก่นักกีฬาทุกท่าน ขอให้เดินทางปลอดภัย และประสบความสำเร็จกลับมา”
พร้อมกันนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเพิ่มเงินรางวัลพิเศษให้กับนักกีฬาไทยที่สร้างชื่อเสียงในการแข่งขันกีฬา โอลิมปิกลอนดอนเกมส์ 2012 ว่า “การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มีเงินพิเศษให้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นเงินกองทุน ทั้งที่เงินสดและส่วนอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ เงินรางวัลจะแบ่งเป็นสองก้อน โดยจะแบ่งเป็นเงินสดและเงินที่ทยอยจ่าย ส่วนจะมีการอัดฉีดเป็นพิเศษเพื่อเป็นกำลังใจหรือไม่ ส่วนเงินอัดฉีดพิเศษนั้น เราก็พยายามอย่างเต็มที่ และมีหน่วยงานอื่นที่กำลังดูอยู่ ทั้งในส่วนของภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุน”
ด้าน นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเสริมว่า “ถ้าปกตินักกีฬาที่ได้เหรียญทองเงินจะอยู่ที่ 10 ล้านบาท ส่วนนักกีฬาพาราลิมปิกที่ได้เหรียญทองจะเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท และไล่ลงมาตามลำดับ”
ผู้สื่อข่าวถามถึงนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ที่ดูเหมือนว่าเป็นลูกเมียน้อย เพราะไม่ได้รับความสนใจ ตรงนี้รัฐบาลจะมีมาตรการดูแลอย่างไรบ้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “วันนี้เราพยายามที่จะดูในเรื่องของสวัสดิการอื่นๆ ประกอบควบคู่กันไป พร้อมกับมีศูนย์ฝึกคนพิการ และเรื่องของกีฬาในอนาคตจะนำเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยเสริมในการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา ซึ่งเราจะดูว่าในอนาคตจะพัฒนาอย่างไรบ้าง และจะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเรื่องกีฬาอย่างไร ซึ่งสถานที่ฝึกซ้อมควรที่จะมีความพร้อม ซึ่งตรงนี้เป็นพื้นฐานสำคัญที่เราจะต้องมาวางรากฐานร่วมกัน”
โดยทางรัฐบาลได้สนับสนุนงบสำหรับการเดินทางไปแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ จำนวนกว่า 34 ล้านบาท ด้านกองทุนพัฒนากีฬาอาชีพ มอบเงินรางวัลหากได้เหรียญทอง จำนวน 4 ล้านบาท (เงินสด 2 ล้าน และค่าครองชีพรายเดือน 2 ล้าน), เหรียญเงิน 2 ล้านบาท (เงินสด 1 ล้าน และค่าครองชีพรายเดือน 1 ล้าน), เหรียญทองแดง 1 ล้านบาท (เงินสด 5 แสน และค่าครองชีพรายเดือน 5 แสน)
สำหรับนักกีฬาที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันมีทั้งสิ้น 10 ชนิดกีฬา รวมจำนวน 50 คน ประกอบด้วย กรีฑา 15 คน ยิงธนู 2 คน ยิงปืน 4 คน บอคเซีย 8 คน ยกน้ำหนัก 4 คน ว่ายน้ำ 7 คน วีลแชร์เทนนิส 4 คน เทเบิลเทนนิส 4 คน และ วีลแชร์ฟันดาบ กับ ยูโด อย่างละ 1 คน โดยความหวังในการลุ้นเหรียญทอง 3 เหรียญ อยู่ที่ วีลแชร์เรซซิง (ระยะ 500 เมตร และ 1,000 เมตร) และวีลแชร์ฟันดาบ
