“เสธ.ศักดา” โต้ “บิ๊กอ๊อด” พิพากษามวยเร็วเกิน

พ.อ.ศักดา เพ็ชรจินดา ประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย ออกโรงโต้ “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา จากการที่จวกบริหารงานไม่เป็น วอนขอโอกาสในการสร้างเลือดใหม่กำปั้นไทย เพราะที่ผ่านมาต้องแก้ปัญหาของคณะทำงานชุดเก่ามาโดยตลอด

หลังมีเสียงตำหนิข้ามประเทศมาจาก “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ที่พูดถึงผลงานของนักกีฬาไทยศึก โอลิมปิก ลอนดอน เกมส์ 2012 ที่ประเทศอังกฤษ ว่า น่าผิดหวังที่ไม่สามารถทำผลงานได้ตามเป้าที่วางไว้ พร้อมจวกสมาคมมวยฯ ว่า มีการจัดการนักกีฬาที่ไม่ดีพอ โดยเฉพาะการเก็บตัวฝึกซ้อมที่ตลอดเวลา 3 เดือน ก่อนทำการแข่งขันนั้น นักมวยไทยต้องไปเก็บตัวที่คิวบา 1 เดือน สหรัฐอเมริกา 1 เดือน ก่อนไปพื้นที่แข่งขัน แต่คราวนี้ 3 เดือนก่อนขึ้นชกยังนอนอยู่ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี นักกีฬาจะมีแรงชกได้อย่างไร ที่สำคัญ โค้ชต้องเก่งด้วย ไม่ใช่เอาใครมาเป็นก็ได้ เรื่องอย่างนี้ต้องกล้าลงทุนกันหน่อย นั่นคือ เสียงตำหนิจากกรุงเทพฯที่ดังมาไกลถึงลอนดอน

โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องนี้ไปยัง “เสธ.ศักดา” พ.อ.ศักดา เพ็ชรจินดา ซึ่งประธานเทคนิคสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ในเชิงตำหนิของ “บิ๊กอ๊อด” ว่า “อันที่จริงเรื่องนี้ต้องให้ท่านนายกสมาคม เป็นคนตอบ แต่ผมขออนุญาตชี้แจ้งเพื่อที่แฟนกีฬาชาวไทยจะได้เข้าใจปัญหาอันแท้จริงของสมาคม ที่วันนี้เรายอมรับว่ามีผลงานต่ำกว่ามาตรฐานในโอลิมปิก แต่ทั้งหมดนั้นมีที่มาที่ไป”

ปัญหาที่นักมวยไทยนั้นได้สิทธิ์ผ่านเข้าสู่การแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้เป็นจำนวนไม่มากนัก คงต้องขอให้ย้อนกลับไปดูว่าเป็นปัญหาที่มาจากสมาคมเก่า ที่ไม่ได้สร้างเด็กใหม่เอาไว้ นักมวยในปัจจุบันเป็นนักมวยในรุ่นที่ พล.อเชษฐา ฐานะจาโร (อดีตนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่น) ท่านได้สร้างเอาไว้ อย่าง “แก้ว พงษ์ประยูร” สมัยผู้บริหารสมาคมรุ่นก่อนนั้นเรียกได้ว่าจะไม่เอาติดทีมชาติแล้ว แต่ผมเป็นคนขอเอาไว้”

เสธ.ศักดา กล่าวต่อว่า “ที่ผ่านมา ทางสมาคมมีเวลาจัดการปัญหาเพียงไม่กี่เดือน ถ้าจะนับแล้วก็ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2554 มาถึงเวลานี้ประมาณได้ 8-9 เดือนก่อนทำการแข่งขัน และต้องไม่ลืมว่านักมวยไทยเกือบไม่ได้มาโอลิมปิกหนนี้ แต่ทางสมาคมพยายามอย่างเต็มที่ในการประสานกับสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบา) เพื่อให้ได้รับการยอมรับ และในท้ายที่สุดทางไอบา เองก็เริ่มให้ความสนใจเรา”

“ถึงเวลานี้ทีมของเราเหมือนเข้ามาเคลียร์ปัญหาที่สั่งสมมานานของสมาคม ก็อยากให้ผู้ใหญ่พิจารณาว่าเรามีเวลาเพียงเท่านี้ การจะคัดเลือกนักกีฬาให้ได้ดีที่สุดมีน้อย แต่ในอนาคตข้างหน้า เราได้วางแผนเอาไว้แล้ว เพียงแต่ต้องให้เวลาในการสร้างนักมวยรุ่นใหม่ขึ้นมาเพื่อลุยการแข่งขันโอลิมปิกในอีก 4 ปีข้างหน้า” เสธ.คนดังแห่งสมาคมมวยสมัครเล่นกล่าวทิ้งท้าย

ขณะเดียวกัน นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยมองทิศทางการแก้ปัญหาว่า น่าจะเป็นอย่างที่ “บิ๊กอ๊อด” กล่าวกับสื่อที่เมืองไทย “คิดว่า ต้องมีการคุยกันและอย่างที่ท่าน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ได้กล่าวไว้ เพื่อที่จะได้ช่วยกันแก้ปัญหาให้ถูกจุด ต้องยอมรับว่า ผลงานครั้งนี้ของนักกีฬาไทยต่ำกว่าที่เคยทำได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลการจับสลากแบ่งสายที่ต้องไปพบกับคู่ต่อสู้ซึ่งเป็นระดับมือวางทำให้โอกาสมีไม่มากนัก”

“นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องโควตาโค้ช ของแต่ละสมาคมที่กติกาของโอลิมปิกนั้นมีการกำหนดที่ชัดเจน ทำให้เจ้าหน้าที่และโค้ชของแต่ละสมาคมไม่สามารถมาดูแลนักกีฬาได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ยังมีเรื่องปลีกย่อย อย่างการปรับตัวของนักกีฬาให้เข้ากับสภาพอากาศ และเวลาที่เปลี่ยนไปจากเมืองไทยด้วย” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ “บิ๊กอ๊อด” แสดงความผิดหวังต่อผลงานของนักกีฬาไทยนั้นเร็วเกินไปหรือไม่ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย เผยว่า “คิดว่าท่านมองจากภาพรวมของผลงานนักกีฬาที่เกิดขึ้น อย่างยกน้ำหนักที่เคยได้เหรียญมากกว่านี้ในอดีต หนนี้ก็ได้เพียงเหรียญเงินเหรียญเดียว ขณะที่มวยสากลสมัครเล่น ก็เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายเพียงคนเดียว”

ทั้งนี้ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยยังได้กล่าวทิ้งท้ายถึงภาพรวมนักกีฬาทั้ง 37 คนในลอนดอนเกมส์ ว่า “ทุกคนตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด และลงสนามการแข่งขันด้วยความตั้งใจ ซึ่งผลงานในโอลิมปิกหนนี้ อาจไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ แต่เชื่อว่าหลังจบการแข่งขันต้องมีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้นักกีฬาไทยพร้อมมากกว่านี้ในอีก 4 ปีข้างหน้าที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล”