แก้ว พงษ์ประยูร กำปั้นชาวไทยในศึกโอลิมปิก เผยไม่รู้สึกกดดันแม้ถูกยกให้เป็นความหวังเพียง 1 เดียวที่ยังเหลืออยู่ของไทยในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นปีนี้ ลั่นขอทำผลงานให้ดีที่สุด และพร้อมเจอกับนักชกทุกคนในการแข่งขันที่เหลือนับจากนี้ โดยเฉพาะกำปั้นจากบัลแกเรีย ในรอบ 8 คนสุดท้าย
นักชกวัย 32 ปี จากกำแพงเพชร ต่อลมหายใจลุ้นเหรียญให้กับทีมมวยสมัครเล่นของไทย "ในลอนดอนเกมส์" หลังเมื่อคืนวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา แก้ว จัดการทุบ คาร์ลอส กีโป พิลาตาซี กำปั้นวัย 22 ปี จากเอกวาดอร์ไปได้ด้วยคะแนน 10-6 หมัด โดยรอบต่อไป เจ้าตัวจะขึ้นสังเวียนเจอกับ อเล็กซานดาร์ อเล็กซานดรอฟ นักชกจากบัลแกเรีย ในวันที่ 8 ส.ค. นี้
ทั้งนี้ แก้ว ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงผลงานในวันนี้ว่า "เกมวันนี้ยกแรกพยายามไม่เดินก่อนเพื่อดูจังหวะของคู่ต่อสู้แล้วชิงจังหวะออก ยกแรกรู้ว่าเราเร็วกว่าเขาทำให้ยกสองเริ่มมั่นใจมากขึ้้นแม้จะติดที่คู่ต่อสู้บล็อคต่ำ แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ ส่วนตัวแล้วจะมีติดใจนิดหน่อยตรงที่คะแนนไม่ค่อยขึ้น แม้จะพยายามจะต่อยเป็นชุดส่วนเส้นทางต่อไปจะพยายามทำให้ดีที่สุดและมีเหรียญกลับไปฝากแฟนมวยชาวไทยให้ได้"
เมื่อถูกถามว่าการที่เป็นนักมวยซึ่งเหลืออยู่เพียงคนเดียวในการแข่งขัน รู้สึกกดดันมากน้อยเพียงใด แก้ว กล่าวว่า "แน่นอนว่าการที่เหลือเราอยู่บนเส้นทางการชกเพียงคนเดียวนั้นต้องรู้สึกกดดันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ผมจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อไม่ให้เสียชื่อกำปั้นไทย" ส่วนคู่ต่อสู้ในนัดถัดไปที่ต้องเจอกับบัลกาเรียนั้น แก้ว เผยว่า "ถึงตรงนี้ผมเจอกับใครได้หมดเพราะยิ่งรอบลึกคู่ต่อสู้แต่ละคนไม่ได้ง่ายอย่างแน่นอน"
ทางด้าน เสธ.อ้าย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประกาศอัดฉีดพิเศษให้กับแก้วหลังคว้าชัยชนะในนัดนี้โดยให้เป็นเงินพิเศษหนึ่งแสนบาท และถ้าไฟท์ต่อไปสามารถผ่านเข้าไปจนถึงเหรียญทองแดงได้จะอัดฉีดให้พิเศษอีกสามแสนบาท จากนั้นถ้าเข้าชิงได้จะให้ห้าแสน และถ้าได้เหรียญทองมาคล้องคอได้สำเร็จ เสธ.คนดังประกาศชัดว่า "แก้วอยากได้เท่าไรยินดีจ่ายให้ไม่อั้น"