แย้มธีม “เกาะพิศวง” เปิด อลป.อลังการ

พิธีเปิดการแข่งขันมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ครั้งที่ 30 ณ โอลิมปิก สเตเดียม ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จะมีขึ้นอย่างเป็นทางการเวลา 21.00 น.ศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม ตามวัน-เวลาท้องถิ่น ไปจนถึงเวลา 00.30 น.ซึ่งเป็นอันว่าไฟโอลิมปิกถูกจุดโชติช่วงบนกระถางคบเพลิงจนกระทั่งถึงวันส่งมอบการเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปในปี 2016 ให้แก่ “ริโอ เดอ จาเนโร เกมส์” วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม

ถึงแม้ ลอร์ด เซบาสเตียน โคล ประธานจัดการแข่งขัน “ลอนดอนเกมส์” สั่งห้ามผู้เกี่ยวข้องกับงานปริปากเรื่องพิธีเปิดการแข่งขัน ทว่า แดนนี บอยล์ ผู้กำกับภาพยนตร์คนดังของอังกฤษวัย 55 ปี ซึ่งได้รับเกียรติสูงสุดในชีวิตให้ทำหน้าที่ออกแบบการแสดงทั้งหมด พอที่จะเปรยถึงจินตนาการของเขาได้บ้าง ว่า “มันเป็นในส่วนของโลกสมัยใหม่ นั่นหมายความว่าคุณไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้จริง”

ด้วยงบประมาณการจัดพิธีเปิดที่วางเอาไว้ 27 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1.35 พันล้านบาท) กับเหล่านักแสดงรวมถึงอาสาสมัคร 1 หมื่นราย บอยล์ ที่สร้างชื่อขึ้นมาจากภาพยนตร์เรื่อง Trainspotting , 28 Days Later, Slumdog Millionaire และ 127 Hours พร้อมเนรมิตธีมของงานให้ออกมาเป็น “Isles of Wonder,” หรือเกาะอันน่าพิศวง โดยได้แรงบันดาลใจจากบทละครของ วิลเลียม เชคสเปียร์ ในเรื่อง “The Tempest.” และ “Be not afeard; the isle is full of noises.” เมื่อถึงเวลาประมาณ 21.00 น.ทันทีที่เสียงระฆังน้ำหนัก 27 ตันดังขึ้น นั่นหมายความว่า สิ่งที่ บอยล์ ต้องการถ่ายทอดถึงจินตนาการให้ชาวโลกรับรู้ก็จะถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ

นอกจากธีมหลัก บอยล์ แย้มอีกว่า พิธีเปิดครั้งนี้จะบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของอังกฤษให้ได้มากที่สุด ดังนั้น จึงจะมีการฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับพระราชวังบักกิงแฮม รวมถึงเรื่องราวของ ควีน อลิซาเบธ ที่สอง และ แดเนียล เคร็ก พยัคฆ์ร้าย 007 “เจมส์ บอนด์” ซึ่งอาจมาสร้างความประหลาดใจให้ทุกคนในการโชว์เปิดด้วย อีกทั้งการแสดงในชุด “green and pleasant land” จะยิ่งแสดงถึงความเป็นเกษตรกรรมของชาวเมืองผู้ดี ประจักษ์แก่สักขีพยานกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก ที่รับชมการถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์ รวมถึงต่อหน้าผู้มีเกียรติในสนามราว 6 หมื่นคน ซึ่งหลายคนเป็นระดับผู้นำแต่ละประเทศ อาทิเช่น บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ในส่วนของเพลง นอกจาก “Survival” เพลงประจำการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2012 ของวงร็อกชั้นนำ มิวส์ (Muse) เซอร์ พอล แม็คคาร์ทนีย์ อดีตสมาชิก เดอะ บีทเทิลส์ (The Beatles) พร้อมขึ้นเวทีโชว์น้ำเสียง เช่นเดียวกับ “เดอะ ฮู” (The Who), เทค แดท (take that) ที่สำคัญ ต้องจับตามองไปที่การกลับมารวมตัวกันครั้งแรกของ “สไปซ์ เกิร์ลส” (Spice Girls) นับตั้งแต่ปี 2008

จากนั้นเข้าสู่พาเหรดคณะนักกีฬาจากทั้ง 204 ชาติ นำโดย กรีซ (เจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรก) ที่ได้รับเกียรติเดินเข้าสู่สนามชาติแรก ตามด้วยชาติเรียงตามอังกฤษ A ถึง Z โดย “เจมส์ บอนด์” ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ นักว่ายน้ำทีมชาติไทยถือธงไตรรงค์ เข้าสู่สนามลำดับที่ 182 ก่อนที่ธงโอลิมปิกจะตามมาลำดับที่ 204 และปิดท้ายด้วย คริส ฮอย นักแข่งจักรยานถือธงยูเนียนแจ็ค พร้อมทัพนักกีฬาสหราชอาณาจักร เข้าสู่สนามจนครบเป็นชาติสุดท้าย