ASTVผู้จัดการรายวัน - ในที่สุดศึกเทนนิสแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็ได้รูดม่านลงพร้อมกับชัยชนะของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ เซเรนา วิลเลียมส์ สองนักหวดรุ่นเก๋าที่กลับมาครองบัลลังก์แชมป์บนสังเวียน ออล อิงแลนด์ คลับ อีกครั้งในวัย 30 ปี ซึ่งทั้งคู่ได้แสดงศักยภาพให้เห็นแล้วว่าเรื่องของอายุไม่ใช่อุปสรรคในการลงแข่งขันแต่อย่างใด เมื่อต้องลงสนามท่ามกลางนักหวดรุ่นใหม่ที่พร้อมสอดแทรกขึ้นมาตลอดเวลา และด้วยความสำเร็จของทั้งคู่ที่เกิดขึ้นในเมืองผู้ดี ประกอบกับฟอร์มการเล่นของบรรดานักหวดรุ่นใหม่ที่ยังไม่นิ่ง ทำให้เกจิริมคอร์ตยังคงเชื่อมั่นว่า ศึกแกรนด์สแลมสุดท้ายของปีอย่าง ยูเอส โอเพน ที่สหรัฐอเมริกา นั้น “เฟดเอ็กซ์” และ “เซเรนา” จะยังรักษาผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องพร้อมกับครองความยิ่งใหญ่ไว้ได้ต่อไป
ย้อนกลับไปคืนวันที่ 7 ก.ค.เซเรนา วิลเลียมส์ มือ 6 ของรายการชาวอเมริกัน ลงสนามดวลกับ อักเนียกซกา รัดวานสกา หวดวัย 23 ปี จากโปแลนด์ ในรอบชิงชนะเลิศประเภทหญิงเดี่ยว ปรากฏว่า ไม่มีการพลิกโผ เมื่อ เซเรนา หยิบถาดวีนัส โรสวอเตอร์ส ออกมาจากเซ็นเตอร์คอร์ตเป็นสมัยที่ 5 หลังเอาชนะดาวรุ่งมือ 3 ของโลกไป 2-1 เซต 6-1, 5-7, 6-2 ด้วยผลงานเยี่ยมเสิร์ฟเอซลงถึง 17 ลูก ขณะที่คืนต่อมา โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ก็ดับความหวังของแฟนหวดเจ้าถิ่นหลังพลิกสถานการณ์เอาชนะ แอนดี้ เมอร์เรย์ หวดมือ 4 ของโลกชาวสกอตไป 3-1 เซต 4-6, 7-5, 6-3, 6-4 ทำให้ “เฟดเอ็กซ์” ซิวโทรฟีแชมป์สมัยที่ 7 เทียบเท่า พีท แซมพราส ตำนานหวดและฮีโร่ของตัวเอง พร้อมคืนบัลลังก์มือ 1 โลกฝ่ายชายอีกครั้ง
แน่นอนว่า สิ่งที่ทำให้ทั้งคู่ยังคงประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์ระดับใหญ่ เช่น แกรนด์สแลมได้ในวันที่นักวิเคราะห์เกมพากันฟันธง ว่า เฟเดอเรอร์ และ เซเรนา อยู่ในช่วงบั้นปลายของอาชีพนักเทนนิส คือ เรื่องของประสบการณ์ในสนามที่มีมากกว่าบรรดานักหวดรุ่นใหม่ รวมถึงการดูแลเรื่องสภาพร่างกายให้พร้อมสำหรับการแข่งขันอยู่เสมอ โดยในรายของ เฟเดอเรอร์ เลือกใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัวอย่างเรียบง่ายในฐานะคุณพ่อลูกแฝด และเลือกเล่นเฉพาะรายการสำคัญเท่านั้น ซึ่งมีผลทำให้เจ้าตัวยังรักษาฟอร์มที่ดีไว้ได้ต่อเนื่อง โดยสิ่งที่เป็นเครื่องชี้วัดผลงานของได้ดีที่สุดหนีไม่พ้นสถิติลงแข่งแกรนด์สแลมในช่วง 3 ปีหลังสุด จะเห็นได้ว่า “เฟดเอ็กซ์” เข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้อย่างสม่ำเสมอ และเชื่อว่า สถิติแชมป์แกรนด์สแลม 17 สมัยสูงสุดของเจ้าตัวจะไม่หยุดเพียงเท่านี้แน่
ขณะที่อดีตเจ้าแม่อย่าง เซเรนา ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด หลังตรวจพบลิ่มเลือดที่ปอดจนต้องเข้ารับการผ่าตัดเมื่อปีก่อน เมื่อสุขภาพกลับมาเป็นปกติ อดีตมือ 1 ของโลกชาวอเมริกัน เลือกที่จะลดการใช้ชีวิตแบบซูเปอร์สตาร์เที่ยวปาร์ตีกับก๊วนคนดังเหมือนแต่ก่อน เพื่อดูแลสุขภาพ รวมถึงลงหวดแต่รายการสำคัญ ซึ่งก็ถือเป็นผลดีเมื่อ เซเรนา ค่อยๆ เรียกฟอร์มเก่งกลับมาในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ จนกระทั่งประสบความสำเร็จหยิบสแลมรายการที่ 14 ในชีวิตบนสังเวียน ออล อิงแลนด์ คลับ พร้อมทำสถิติเสิร์ฟเอซมากที่สุด 102 ครั้งในรายการนี้ ทุบสถิติเดิมที่เคยทำได้เมื่อปี 2010 ที่ 89 ครั้งได้อย่างสวยงาม ซึ่งถือเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าเวลานี้ เซเรนา ผู้แข็งแกร่งคนเดิมได้กลับมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับความสำเร็จของทั้งคู่ คงหนีไม่พ้นเรื่องของบรรดานักหวดหน้าใหม่ทั้งชายและหญิง ที่ในเวลานี้ยังไม่มีใครสามารถรักษามาตรฐานการเล่นไว้ได้แบบคงเส้นคงวา โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ ราฟาเอล นาดาล เต็ง 2 ของรายการชาวสเปน ที่ถูกมือรองบ่อนชาวเช็กอย่าง ลูคัส โรโซล เขี่ยตกรอบ 2 แบบพลิกความคาดหมาย และมีผลทำให้เส้นทางลุ้นแชมป์ของ เฟเดอเรอร์ นั้นง่ายขึ้นเป็นเท่าตัว ส่วนฝ่ายหญิงอย่าง มาเรีย ชาราโปวา ที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า เจ้าตัวจะสานต่อความสำเร็จหลังคว้าแกรนด์สแลมครบทั้ง 4 รายการ เมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา กลับไปไม่ถึงดวงดาวด้วยการตกรอบ 16 คนสุดท้าย ด้วยน้ำมือของ ซาบิเน ลีซิคกี ดาวรุ่งสาวจากเมืองเบียร์ และความที่ฟอร์มการเล่นของหวดรุ่นใหม่ยังไม่เสถียรนั่นเอง จึงทำให้ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีหวดรายใดสามารถรักษาความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับสิ่งที่ เฟเดอเรอร์ และ เซเรนา ทำได้ในอดีต
ทั้งนี้ ชัยชนะของ เฟเดอเรอร์ และ เซเรนา ที่เกิดขึ้นบนสังเวียนคอร์ตหญ้า ทำให้บรรดาเกจิริมคอร์ต ต่างพร้อมใจกันยกให้สองนักหวดวัย 30 ปี เป็นตัวเต็งหมายเลข 1 ที่จะเป็นฝ่ายคว้าแชมป์ในศึกแกรนด์สแลมลำดับสุดท้ายของปีอย่าง “ยูเอส โอเพน” เหนือหวดรุ่นใหม่ทั้งชายและหญิงรายอื่นๆ บนสังเวียน ฟลัชชิง เมโดวส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่ เซเรนา น่าจะได้รับแรงขับเคลื่อนชั้นดีจากเสียงเชียร์อย่างกึกก้องของแฟนๆ เทนนิสในแดนลุงแซม เมื่อถึงเวลาที่ต้องลงหวดที่บ้านเกิด ซึ่งสุดท้ายแล้ว เฟเดอเรอร์ และ เซเรนา จะสามารถกำราบหวดรุ่นใหม่เพื่อสานต่อความสำเร็จได้หรือไม่ คงต้องให้ทั้งคู่เป็นฝ่ายตอบคำถามแฟนๆ ด้วยผลงานของตัวเอง
