โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสชาวสวิสฯ ผ่านเข้าชิงชนะเลิศเพื่อลุ้นคว้าแชมป์ "วิมเบิลดัน" แกรนด์สแลมบนคอร์ตหญ้า ที่ประเทศอังกฤษอีกสมัย หลังหวดเอาชนะ โนวัค ยอโควิช แชมป์เก่าและมือ 1 ของโลกชาวเซิร์บ ในรอบตัดเชือก เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 6 ก.ค. 2555
โดย เฟเดอเรอร์ มือ 3 ของโลก ทำผลงานสมราคาอดีตแชมป์ 6 สมัย เอาชนะ ยอโควิช ไป 3-1 เซต 6-3, 3-6, 6-4, 6-3 เป็นการคว้าชัยเหนือ "โนเล" ครั้งที่ 6 จาก 7 แมตช์หลังสุดที่เจอกัน พร้อมผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับ แอนดี เมอร์เรย์ นักหวดชาวสกอตมือวางอันดับ 4 ที่เข่น โจ-วิลฟรีด ซองกา จากฝรั่งเศส 3-1 เซต 6-3, 6-4, 3-6, 7-5
ถ้าหาก "เฟดเอ็กซ์" คว้าชัยชนะที่ออล อิงแลนด์ คลับได้สำเร็จในวันอาทิตย์ (8 ก.ค.) ก็จะเป็นแชมป์วิมเบิลดันสมัยที่ 7 เทียบเท่าสถิติของ พีท แซมพราส ตำนานชาวอเมริกัน และยังเป็นแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 17 ในชีวิตด้วย
"ผมเล่นได้ดีมากในวันนี้ตลอดทั้งแมตช์ โนวัคก็เล่นดีเช่นกันใน 2 เซตแรก แต่เซตที่สามคือกุญแจสำคัญ อย่างไรก็ตามแมตช์นี้ยากจริงๆ" แร็กเกตวัย 30 ปีเปิดเผยหลังชัยชนะ
ขณะที่ ยอโควิช ยอมรับว่าเป็นรอง เฟเดอเรอร์ ในจังหวะที่สำคัญ "ผมรู้สึกว่าพลังงานของผมตกลงไปตอนเริ่มต้นเซตที่สี่ ผมตีไม่ดีและเปอร์เซนต์เสิร์ฟต่ำมาก มันยากที่จะหาจังหวะการเล่นและควบคุมแมตช์ได้ในสภาพเช่นนั้น โรเจอร์เป็นผู้เล่นที่ดีกว่าในช่วงเวลาสำคัญ ผมคาดไว้แล้วว่าเขาจะเล่นได้ระดับท็อปของเขา และผมก็คาดว่าตัวเองจะเล่นได้ในระดับสุดยอดเช่นกัน แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น"
ด้าน เมอร์เรย์ กลายเป็นนักหวดของสหราชอาณาจักรคนแรกในรอบ 74 ปีที่ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ วิมเบิลดัน โดยหนุ่มชาวสกอตวัย 25 ปีเปิดเผยด้วยความยินดีว่า "มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ทั้งโล่งอกและตื่นเต้น ผมเริ่มต้นแมตช์ได้ดี แต่เมื่อแพ้เกมหนึ่งก็ทำให้เขา (ซองกา) กลับมา การเล่นสองเซตหลังสูสีกันมาก เขาตีลูกวินเนอร์บางลูกได้สุดยอดและเบรกเกมเสิร์ฟผม แต่ผมก็ยื้อเอาไว้และจัดการเอาชนะเขาได้"