กิลส์ ซิมง นักเทนนิสหนุ่มมือ 13 ของโลกชาวฝรั่งเศส ออกมาสวนกระแสทำนองว่า นักหวดหญิงที่ลงแข่งขันแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน ที่อังกฤษ ในปีนี้ ไม่สมควรได้เงินรางวัลในการคว้าแชมป์รายการนี้เท่ากับฝ่ายชาย เพราะมองว่าผู้ชายต้องใช้พละกำลังมากกว่าฝ่ายหญิงที่เล่นกันแค่ 2 ใน 3 เซต เท่านั้น
นับตั้งแต่ปี 2007 ทางฝ่ายจัดการแข่งขันของศึกวิมเบิลดัน ได้เตรียมเงินรางวัลสำหรับแชมป์ในประเภทชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยวไว้เท่ากันมาโดยตลอด ซึ่งปีนี้หากนักหวดชายหญิงคนใดคว้าแชมป์ไปครอง ก็จะได้เงินรางวัลกลับบ้านไปคนละ 1.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 55 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม กิลส์ ซิมง หวดหนุ่มหล่อจากแดนน้ำหอม ผู้ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสหภาพผู้เล่นของเอทีพี กลับมองว่า เป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผลเท่าใดนัก โดยกล่าวว่า “จำนวนเงินรางวัลที่เท่ากันทั้งชายและหญิงถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนักสำหรับวงการกีฬา พวกเราพูดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอดแต่ผมก็คิดว่ามันไม่เวิร์กเลยสักนิด”
“สิ่งที่ผมคิดอยู่ ก็คือ การแข่งขันเทนนิสของฝ่ายชายนั้นเหนือกว่าฝ่ายหญิงอย่างชัดเจน เพราะการแข่งขันแกรนด์สแลมนั้น ผู้ชายย่อมใช้เวลาการแข่งขันบนคอร์ตมากถึง 3 ใน 5 เซต ผิดกับฝ่ายหญิงที่ใช้เวลาน้อยกว่าเพียง 2 ใน 3 เซต เท่านั้น” ซิมง เปิดใจ
ส่วน โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักหวดมือ 3 ของโลกชาวสวิส และประธานสหภาพผู้เล่นของเอทีพี เชื่อมั่นว่า เรื่องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์นี้ “ผมหวังว่า มันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องนี้มีการพูดคุยกันบ่อยครั้งตั้งแต่สมัยที่ผมออกมาพูดเป็นคนแรกๆ แต่คุณคงไม่สามารถทำอะไรได้ แล้วแต่ใครจะเชื่อยังไง และนั่นจะเป็นจุดสิ้นสุดของข้อโต้แย้งเหล่านี้”