ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา "ฟอร์บส์" นิตยสารธุรกิจระดับโลก เผยรายชื่อนักกีฬาที่มีรายได้สูงที่สุดของโลก 100 อันดับแรกในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ปรากฎว่า "พญาเสือ" ไทเกอร์ วูดส์ หล่นจากบัลลังก์เบอร์หนึ่งที่ครองติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2001 แต่โปรชาวอเมริกันเจ้าของแชมป์เมเจอร์ 14 รายการ ยังรั้งอันดับดีที่สุดจากบรรดาเพื่อนร่วมอาชีพ โดยนักกอล์ฟ 5 คนที่ติดลิสท์รายชื่อนักกีฬาที่ทำเงินมากที่สุดของฟอร์บส์มีดังนี้
1.ไทเกอร์ วูดส์ (3) รายได้รวม 59.4 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเงินรางวัล 4.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และค่าพรีเซนเตอร์สินค้า 55 ล้านเหรียญสหรัฐ
ไทเกอร์ เสียตำแหน่งนักกีฬาที่มีรายได้มากที่สุดนับแต่ปี 2001 ไปให้แก่ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ กำปั้นผู้ไร้พ่ายชาวอเมริกัน และยังเป็นรอง แมนนี ปาเกียว ยอดนักมวยอีกคนชาวฟิลิปปินส์ด้วย โดยรั้งอันดับ 3 ตามการจัดอันดับของฟอร์บส์ สำหรับรายได้ที่ลดลงของโปรวัย 36 ปีเป็นผลกระทบมาตั้งแต่เขาเจอมรสุมกิ๊กเมื่อปลายปี 2009 ทำให้ไม่ได้รับการต่อสัญญาใหม่กับสปอนเซอร์อย่าง แท็ก ฮอยเออร์ (Tag Heuer) และ ยิลเลตต์ (Gilletts) เป็นต้น แม้ยังมี ไนกี้ (Nike) ผู้ผลิตสินค้ากีฬายักษ์ใหญ่สนับสนุนอยู่ก็ตาม ขณะเดียวกันบริษัทออกแบบสนามกอล์ฟของอดีตก้านเหล็กมือ 1 ของโลกได้รับผลสะเทือนจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ ส่วนผลงานในสนามเพิ่งหยุดสถิติไร้แชมป์มานาน 30 เดือนลงด้วยการคว้าแชมป์กอล์ฟพีจีเอ ทัวร์ รายการ อาร์โนลด์ พาลเมอร์ อินวิเตชั่นแนล เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
2.ฟิล มิคเคลสัน (7) รายได้รวม 47.8 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเงินรางวัล 4.8 ล้านเหรียญสหรัฐ และค่าพรีเซนเตอร์สินค้า 43 ล้านเหรียญสหรัฐ
เลฟตี้ เพิ่งถูกบรรจุชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศกอล์ฟโลกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จากผลงานอันยอดเยี่ยมตลอดชีวิตการเล่นกอล์ฟอาชีพ คว้าแชมป์พีจีเอ ทัวร์ รวม 40 รายการ (สูงสุดเป็นอันดับที่ 9) รวมถึงเมเจอร์ 4 รายการ โดยนับแต่เทิร์นโปรทำเงินรางวัลจากการแข่งขันกว่า 66 ล้านเหรียญสหรัฐ (เป็นรองเพียง ไทเกอร์ ที่ทำเงินรวมกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ) โปรถนัดซ้ายยังรับทรัพย์จาการเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าอย่าง คัลลาเวย์ (Callaway) บาร์เคลย์(Barclay) เคพีเอ็มจี (KPMG) เอ็กซ์ซอน (Exxon) โรเล็กซ์ (Rolex)และ แอมเจน/ไฟเซอร์ (Amgen/Pfizer) ซึ่งช่วยโปรโมตยา “เอ็มเบรล” ใช้รักษาโรคไขข้ออักเสบที่เขาตรวจพบว่าเป็นโรคดังกล่าวเมื่อปี 2010 และใช้ยาตัวนี้ในการรักษา
3. ลุก โดนัลด์ (48) รายได้รวม 22.2 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเงินรางวัล 13.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และค่าพรีเซนเตอร์สินค้า 9 ล้านเหรียญสหรัฐ
ก้านเหล็กมือ 1 ของโลกคนปัจจุบันคว้าแชมป์ทั่วโลก 4 รายการเมื่อปีที่แล้วจนสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟคนแรกที่ทำเงินรางวัลสูงสุดทั้งพีจีเอ ทัวร์ และยูโรเปียน ทัวร์ ในฤดูกาลเดียวกัน ส่วนนอกสนามได้รับเงินเข้ากระเป๋าจากสปอนเซอร์อย่าง โปโล ราล์ฟ ลอเรน (Polo Ralph Lauren) ไตเติลลิสต์ (Titleist) ฟุตจอย (Footjoy) อาร์บีซี (RBC) และ โรเล็กซ์ (Rolex)
4. เออร์นี เอลส์ (91) รายได้รวม 17.4 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเงินรางวัล 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และค่าพรีเซนเตอร์สินค้า 16 ล้านเหรียญสหรัฐ
เจ้าของฉายา "บิ๊กอีซีย์" โลดแล่นอยู่แถวหน้าของวงการสวิงมาร่วม 2 ทศวรรษ โดยคว้าแชมป์เมเจอร์ 3 รายการและแชมป์ทั่วโลกอีก 64 รายการ เมื่อปี 2011 ได้รับการเสนอชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศ นอกจากนี้โปรวัย 42 ปียังมีธุรกิจออกแบบสนามกอล์ฟ โดยทำเสร็จแล้ว 11 สนามและอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 7 สนาม
5. รอรีย์ แม็คอิลรอย (91) รายได้รวม 17.4 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเงินรางวัล 10.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และค่าพรีเซนเตอร์สินค้า 7 ล้านเหรียญสหรัฐ
แม้ผลงานในช่วงหลังสะดุดลงไปบ้าง แต่ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา โปรผมหยิกวัย 23 ปีทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมรวมถึงคว้าแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตจากศึกยูเอส โอเพน กระทั่งได้รับการยกย่องว่าจะเป็นสตาร์คนใหม่เทียบชั้น ไทเกอร์ วูดส์ สำหรับปัจจุบันเขาทำสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์ให้แก่สินค้าอย่าง ไตเติลลิสต์ (Titleist) ฟุตจอย (Footjoy) จูไมราห์ (Jumeirah) โอคลีย์ (Oakley) และ ออเดมาร์ส ปิเกต์(Audemars Piguet) เป็นต้น
เรื่องโดย วุฒิวรรณ วิศาลวรรณ์