การแข่งขันแกรนด์สแลมรายการที่สองของปี เฟรนช์ โอเพน เปิดม่านดวลแร็กเกตกันเป็นที่เรียบร้อย และสองสัปดาห์ต่อจากนี้แฟนลูกสักหลาดจะได้เห็นรอยยิ้มของผู้ชนะและน้ำตาของผู้แพ้บนสนาม โรลังด์ การ์ลอส คอร์ตดินอันเต็มไปด้วยมนต์ขลัง ที่นักเทนนิสทุกคนอยากพิชิต หากแต่มิใช่ทุกคนที่จะได้ถูกสลักนามบนโทรฟี่ “กูป เดส์ มูส์เกอแตร์ส” (ชายเดี่ยว) และ “กูป ซูซานน์ ลองลอน” (หญิงเดี่ยว) และเมื่อพิจารณาจากสายการแข่งขันในปี 2012 ต่อจากนี้ คือ โอกาสและความเป็นไปได้สำหรับโอกาสของนักเทนนิส ชาย- หญิงที่จะปรากฏตัวในรอบชิงชนะเลิศบนเซนเตอร์คอร์ต “ฟิลิปป์ ชาตริเยร์”
คู่แข่งที่มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุดในรอบก่อนรองชนะเลิศชายเดี่ยว
จากสายการแข่งขันถ้าไม่เกิดล็อกถล่ม ระหว่างทาง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในฐานะมือ 3 ของรายการ มีโอกาสพบกับ โธมัส เบอร์ดิช มือ 7 มากที่สุด และนั่นจะหมายความว่า โนวัค ยอโควิช จะต้องพบกับเจ้าถิ่นอย่าง โจ วิลเฟรด ซองกา ขณะที่สายของ ราฟาเอล นาดาล นั้น ยังไม่แน่ชัดว่าใครจะพบกับแชมป์เฟรนช์ โอเพน 6 สมัย แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็น แอนดี เมอร์เรย์ มือวางอันดับที่ 4 ของรายการ เพราะนับตั้งแต่นักเทนนิสชาวสกอตแลนด์ได้ อีวาน เลนเดิล อดีตแชมป์ เฟรนช์ โอเพน 3 สมัย (1984, 1986 และ 1987) มาทำหน้าที่โค้ชให้ ฟอร์มการเล่นบนคอร์ตดิน ของ เมอร์เรย์ นั้นดีขึ้นผิดหูผิดตาเลยทีเดียว
ความเป็นไปได้ของคู่แข่งขันที่จะพบกันในรอบรองชนะเลิศประเภทชายเดี่ยว
เมื่อพิจารณาจากฟอร์มการเล่นในรายการบนคอร์ตดินก่อนหน้านี้ พร้อมกับสถิติในอดีตบน โรลังด์ การ์ลอส มีความเป็นไปได้ว่าเส้นทางของสายบนนั้น โนวัค ยอโควิช จะพบกับ โรเจอร์ เฟเดอร์เรอร์ ในรอบตัดเชือก และถ้ายังไม่ลืม เฟดเอ็กซ์ นั้นเอาชนะ ยอโควิช ในปี 2011 ในรอบนี้เช่นกัน หากเป็นไปตามที่คาดนั่นหมายถึงการรีแมตช์ระหว่างทั้งคู่ ขณะที่ ราฟาเอล นาดาล จะพบกับนักเทนนิสมือดีจากสหรัฐฯอย่าง จอห์น อิสเนอร์ ซึ่งสร้างผลงานบนคอร์ตดินในเดวิส คัพ เมื่อปลายปีให้กับทีมชาติสหรัฐฯกับสถิติชนะรวดทั้ง 3 แมตช์ ที่ลงสนามทำการแข่งขันที่สำคัญคู่แข่งในรอบที่สามของอิสเนอร์ ยังไม่น่ากลัวเท่ากับสามคนที่เหลือ จึงทำให้อิสเนอร์น่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของนาดาล ในรอบรองชนะเลิศ
คู่ชิงประเภทชายเดี่ยวใน เฟรนช์ โอเพน 2012
หลังจากออสเตรเลียน โอเพน ที่ นาดาล และ ยอโควิช สู้กันไป ห้าชั่วโมงห้าสิบสองนาที และเป็นนักเทนนิสชาวเซิร์บที่คว้าแชมป์บนสนามรอด เลเวอร์ อารีน่า มาครองนั้น เฟรนช์ โอเพน น่าจะเป็นการพบกันอีกครั้งของทั้งคู่ แม้ว่าในปี 2011 เฟดเอ็กซ์ จะเอาชนะ ยอโควิช มาได้แล้วครั้งหนึ่งแต่ความแข็งแกร่งของ นักเทนนิสสวิส ที่วัยล่วงสามสิบปีไปแล้ว อาจจะไม่สามารถกลับมาถึงจุดสูงสุดของตนเองได้อีก และ มีโอกาสได้เห็นการต่อสู้กันจนถึงห้าเซตในรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่ ยอโควิช จะผ่านไปพบกับนาดาล ในรอบชิง แน่นอนว่า จะเป็นคู่ชิงในฝันของแฟนเทนนิส เพราะผู้ท้าชิงจากเซอร์เบีย นั้นนอกจากจะแย่งตำแหน่งมือหนึ่งไปจากนาดาล แล้ว ยังพิสูจน์ให้เห็นมาก่อนหน้านี้แล้วว่า เขาสามารถเล่นได้ดีในทุกสภาพผิวคอร์ต ขณะที่นาดาล ซึ่งถูกยกให้เป็นราชาคอร์ตดิน และ โรลังด์ การ์ลอส คือ พื้นที่ที่เจ้าตัวยึดครองมาด้วยสถิติแชมป์ 6 สมัย ชัยชนะในปีนี้ นอกจากจะเป็นการรักษาศักดิ์ศรีของตนเองแล้ว ยังเป็นการรักษาความมั่นใจไม่ให้ ยอโควิช เข้ามารุกล้ำอาณาจักรของตนเองมากจนเกินไป
พิจารณาจากเส้นทางหญิงเดี่ยวจนถึงรอบชิงชนะเลิศ
หากพิจารณาจากสายการแข่งขันประเภทหญิงเดี่ยวของสายล่าง มาเรีย ชาราโปวา (2) ที่มีโอกาสพบกับ เซเรนา วิลเลียมส์ (5) ในรอบก่อนรองชนะเลิศเช่นเดียวกับ เพตรา ควิโตวา (4) ที่จะพบกับ หลี่ นา (7) และท้ายที่สุด มาเรีย ชาราโปวา ที่เพิ่งคว้าแชมป์บนคอร์ตดินที่ โรม มาสเตอร์ส น่าจะผ่านเซเรนา ที่ฟอร์มช่วงหลังขึ้นๆ ลงๆ ซึ่งคู่แข่งของมาเรีย ในรอบรองชนะเลิศ มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นแชมป์วิมเบิลดัน ปี 2011 จากสาธารณัฐเชก อย่าง ควิโตวา แม้ว่า หลี่ นา จะเป็นแชมป์เก่า หากแต่ผลงานของเธอใน ออสเตรเลียน โอเพน ที่ต้องจบเพียงแค่รอบที่ 4 เป็นการแสดงให้เห็นว่านักเทนนิสสาวจากจีน ผ่านจุดสูงที่สุดของเธอมาแล้ว
ส่วนสายบนนั้น วิคตอเรีย อซาเรนกา มือ 1 โลกที่เพิ่งคว้า ออสเตรเลียน โอเพน มาครองได้สำเร็จเมื่อต้นปีที่ผ่านมา น่าจะเอาชนะ ซาแมนธา สโตเซอร์ (6) ไปได้ไม่ยากในรอบก่อนรองชนะเลิศ ขณะที่อีกคู่น่าจะการพบกันระหว่าง มาริยง บาโตลี (8) นักเทนนิสเจ้าถิ่นพบกับ แอกเนียสกา รัดวานสกา (3) ซึ่งผลสุดท้ายแล้วมือสามจากโปแลนด์น่าจะผ่านไปถึงรอบตัดเชือกพบกับ อาซาเรนกา หากสถานการณ์เป็นไปตามนี้ นั่นหมายความว่ารอบชิงชนะเลิศแฟนเทนนิสน่าจะได้เห็น การชิงชัยโทรฟี เฟรนช์ โอเพน และตำแหน่งมือหนึ่งโลกฝ่ายหญิง ระหว่าง มาเรีย ชาราโปวา และ วิคตอเรีย อซาเรนกา
