คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”
แอลเอ เลเกอร์ส โบกมือลาเพลย์ออฟศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) แค่รอบสองเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน การปราชัย ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ หมดรูป 0-4 ซีซันก่อน สาวก “ม่วงทอง” ต้องสะกิดใจว่าเกิดอะไรขึ้น ยิ่งมาเห็นการศิโรราบให้ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ 1-4 เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ถ้าบอร์ดบริหารยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่กล้าตัดสินใจก็มิรู้จะว่าอย่างไรแล้ว จึงเชื่อเหลือเกินว่า ซัมเมอร์นี้แฟรนไชส์จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แน่นอน
ตั้งแต่เข้าสู่โพสต์ซีซัน เลเกอร์ส ดูเล่นกันไม่เป็นตัวของตัวเอง ทั้งที่ช่วงฤดูกาลปกติทรงเกมพอทำเนา การตกรอบหนนี้ผู้เล่นที่โดนวิจารณ์มากที่สุดยังหนีไม่พ้น เพา กาซอล ฟอร์เวิร์ดร่างใหญ่ใจมด ถึงขนาด โคบี ไบรอันท์ ต้องเอ่ยปากกระตุ้นแรงๆ เลิกป๊อดเสียที ซึ่งสตาร์ทีมชาติสเปนแก้ตัวทำ 14 แต้ม 16 รีบาวด์ ทว่า แอนดรูว์ บายนัม เซ็นเตอร์ความหวังดันบู่มีแค่ 10 แต้ม 4 รีบาวด์ ในเกมสำคัญล่าสุด “ทวิน ทาวเวอร์” ที่แฟนๆ คาดหวังล้มครืนไม่เป็นท่า รอบแรกเจอแค่ ทิโมเฟย์ มอซกอฟ กับ จาวาล แม็คกี กลับทับไม่ลง หืดจับกว่าจะดับ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ในเกมฎีกา นับประสาอะไรจะมาต่อกร เคนดริก เพอร์กินส์ และ “แอร์ คองโก” เซิร์จ อิบากา ที่เด่นเรื่องเกมรับอยู่แล้ว
ดูเหมือนผู้เล่นตำแหน่ง “ฟรอนท์คอร์ต” เป็นประเด็นให้ มิทช์ คัพแช็ค ผู้จัดการทั่วไปเลเกอร์ส ฉุกคิดอีกครั้งถึงการนำ กาซอล ผนวกรวม บายนัม เข้าสู่ตลาดการเทรด ด้วยผลงานที่ไม่เข้าตาของ กาซอลผู้พี่ ค่าจ้างถึง 38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.1 พันล้านบาท) ในอีก 2 ปีที่เหลือ ไม่คู่ควรเอาเสียเลย เช่นเดียวกับ บายนัม ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเซ็นเตอร์เก่งสุดอันดับ 2 ของลีก แต่ดันเล่นได้แค่นี้ ค่าเหนื่อย 16.5 ล้านเหรียญ (ราว 500 ล้านบาท) ในปีหน้าเป็นเรื่องต้องคิดใคร่ครวญให้ดี ในเมื่อ “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด เคยเอ่ยปากพร้อมผละ ออร์แลนโด แมจิก ทุกเมื่อ ถึงแม้ทีมสั่งปลด สแตน แวน กันดี เฮดโค้ชคู่เกาเหลาแล้วก็ตาม
ตอนนี้กระแสข่าวเทรด กาซอล ทยอยออกมาแล้ว บ้างเห็นควรว่า เลเกอร์ส น่าจะเอาไปบวกกับ บายนัม และสิทธิดราฟท์รอบแรก ประเคนแก่แมจิก เพื่อให้ได้มาซึ่ง ฮาวเวิร์ด เซ็นเตอร์จอมแกร่ง รวมทั้ง เกล็น เดวิส ฟอร์เวิร์ดจอมขยัน และ เจ.เจ.เรดดิก การ์ดจอมทะลุทะลวง บางกระแสอยากเห็น คัพแช็ค โทรศัพท์คุย ไมอามี ฮีท ถึงการนำ กาซอล เทรดแลกกับ คริส บอช หรือมีบ้างอยากให้ เลเกอร์ส นำเอา กาซอล พ่วงด้วย สตีฟ เบล็ค ส่งให้ ฟีนิกซ์ ซันส์ เพื่อแลกกับ แชนนิง ฟราย พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ดฝีมือดี และให้ สตีฟ แนช จัดแจงต่อสัญญาก่อนเทรดสู่ถิ่นสเตเปิล เซ็นเตอร์
ซึ่งถ้าได้ แนช มาคุมบอลจริง ถือว่า เลเกอร์ส สามารถแก้ปัญหา “แบ็กคอร์ต” ไปได้ในตัว แม้อายุอานามล่วงเลยถึงหลัก 38 ปี แล้วก็ตาม ด้วยประสบการณ์ในลีก 15 ปี กับดีกรีผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 2 สมัย การันตีความสบายใจให้แฟนๆ ได้ ความเป็นผู้นำ ทีเด็ดทีขาดย่อมดีกว่าลูกหาบของ โคบี ณ ปัจจุบันอย่าง เบล็ค รวมถึง เรมอน เซสชันส์ ที่พอเข้าเพลย์ออฟ เห็นได้ชัดว่ายังเทียบไม่ติดฝุ่น ทาย ลอว์สัน หรือว่า รัสเซล เวสต์บรูก
โอ้โห!! เท่ากับว่า ช่วงปิดซีซัน คัพแช็ค มีคิวปรึกษา จิม บัสส์ รองประธานทีมถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ถึงขนาดอาจต้องถ่ายโอน 3 ผู้เล่นตัวจริง นี่ยังไม่รวมประเด็นหัวหน้าโค้ชที่ดูเหมือน ไมค์ บราวน์ ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเลยจริงๆ การไม่ได้รับความนับถือจาก โคบี หลายครั้งเห็นชัดว่าเพื่อนร่วมทีมฟังแม่ทัพกระตุ้นมากกว่าที่จะเป็นหน้าที่ของโค้ช หรือแม้แต่แทกติกเกมบุกที่ไม่ไหลลื่นตามสไตล์ “ไทรแองเกิล” งานนี้เห็นทีอย่าให้ถึงมือ ฟิล แจ็คสัน ต้องแบกสังขารในวัย 66 ปี กลับมาคุมบังเหียนอีกเลย เพราะโค้ชฝีมือดีอย่าง ไมค์ ดิแอนโทนี ก็ว่างงานอยู่ หรือไม่ก็ไปเคาะประตูบ้าน อินเดียนา เพเซอร์ส ขอสัมภาษณ์ ไบรอัน ชอว์ อดีตผู้ช่วย “บิ๊กฟิล” ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่มือขวา แฟรงค์ โวเกิล ให้กลับมารับงานใหญ่ในถิ่นเก่า ก็ถือเป็นทางออกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
แอลเอ เลเกอร์ส โบกมือลาเพลย์ออฟศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) แค่รอบสองเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน การปราชัย ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ หมดรูป 0-4 ซีซันก่อน สาวก “ม่วงทอง” ต้องสะกิดใจว่าเกิดอะไรขึ้น ยิ่งมาเห็นการศิโรราบให้ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ 1-4 เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ถ้าบอร์ดบริหารยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่กล้าตัดสินใจก็มิรู้จะว่าอย่างไรแล้ว จึงเชื่อเหลือเกินว่า ซัมเมอร์นี้แฟรนไชส์จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แน่นอน
ตั้งแต่เข้าสู่โพสต์ซีซัน เลเกอร์ส ดูเล่นกันไม่เป็นตัวของตัวเอง ทั้งที่ช่วงฤดูกาลปกติทรงเกมพอทำเนา การตกรอบหนนี้ผู้เล่นที่โดนวิจารณ์มากที่สุดยังหนีไม่พ้น เพา กาซอล ฟอร์เวิร์ดร่างใหญ่ใจมด ถึงขนาด โคบี ไบรอันท์ ต้องเอ่ยปากกระตุ้นแรงๆ เลิกป๊อดเสียที ซึ่งสตาร์ทีมชาติสเปนแก้ตัวทำ 14 แต้ม 16 รีบาวด์ ทว่า แอนดรูว์ บายนัม เซ็นเตอร์ความหวังดันบู่มีแค่ 10 แต้ม 4 รีบาวด์ ในเกมสำคัญล่าสุด “ทวิน ทาวเวอร์” ที่แฟนๆ คาดหวังล้มครืนไม่เป็นท่า รอบแรกเจอแค่ ทิโมเฟย์ มอซกอฟ กับ จาวาล แม็คกี กลับทับไม่ลง หืดจับกว่าจะดับ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ในเกมฎีกา นับประสาอะไรจะมาต่อกร เคนดริก เพอร์กินส์ และ “แอร์ คองโก” เซิร์จ อิบากา ที่เด่นเรื่องเกมรับอยู่แล้ว
ดูเหมือนผู้เล่นตำแหน่ง “ฟรอนท์คอร์ต” เป็นประเด็นให้ มิทช์ คัพแช็ค ผู้จัดการทั่วไปเลเกอร์ส ฉุกคิดอีกครั้งถึงการนำ กาซอล ผนวกรวม บายนัม เข้าสู่ตลาดการเทรด ด้วยผลงานที่ไม่เข้าตาของ กาซอลผู้พี่ ค่าจ้างถึง 38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.1 พันล้านบาท) ในอีก 2 ปีที่เหลือ ไม่คู่ควรเอาเสียเลย เช่นเดียวกับ บายนัม ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเซ็นเตอร์เก่งสุดอันดับ 2 ของลีก แต่ดันเล่นได้แค่นี้ ค่าเหนื่อย 16.5 ล้านเหรียญ (ราว 500 ล้านบาท) ในปีหน้าเป็นเรื่องต้องคิดใคร่ครวญให้ดี ในเมื่อ “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด เคยเอ่ยปากพร้อมผละ ออร์แลนโด แมจิก ทุกเมื่อ ถึงแม้ทีมสั่งปลด สแตน แวน กันดี เฮดโค้ชคู่เกาเหลาแล้วก็ตาม
ตอนนี้กระแสข่าวเทรด กาซอล ทยอยออกมาแล้ว บ้างเห็นควรว่า เลเกอร์ส น่าจะเอาไปบวกกับ บายนัม และสิทธิดราฟท์รอบแรก ประเคนแก่แมจิก เพื่อให้ได้มาซึ่ง ฮาวเวิร์ด เซ็นเตอร์จอมแกร่ง รวมทั้ง เกล็น เดวิส ฟอร์เวิร์ดจอมขยัน และ เจ.เจ.เรดดิก การ์ดจอมทะลุทะลวง บางกระแสอยากเห็น คัพแช็ค โทรศัพท์คุย ไมอามี ฮีท ถึงการนำ กาซอล เทรดแลกกับ คริส บอช หรือมีบ้างอยากให้ เลเกอร์ส นำเอา กาซอล พ่วงด้วย สตีฟ เบล็ค ส่งให้ ฟีนิกซ์ ซันส์ เพื่อแลกกับ แชนนิง ฟราย พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ดฝีมือดี และให้ สตีฟ แนช จัดแจงต่อสัญญาก่อนเทรดสู่ถิ่นสเตเปิล เซ็นเตอร์
ซึ่งถ้าได้ แนช มาคุมบอลจริง ถือว่า เลเกอร์ส สามารถแก้ปัญหา “แบ็กคอร์ต” ไปได้ในตัว แม้อายุอานามล่วงเลยถึงหลัก 38 ปี แล้วก็ตาม ด้วยประสบการณ์ในลีก 15 ปี กับดีกรีผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 2 สมัย การันตีความสบายใจให้แฟนๆ ได้ ความเป็นผู้นำ ทีเด็ดทีขาดย่อมดีกว่าลูกหาบของ โคบี ณ ปัจจุบันอย่าง เบล็ค รวมถึง เรมอน เซสชันส์ ที่พอเข้าเพลย์ออฟ เห็นได้ชัดว่ายังเทียบไม่ติดฝุ่น ทาย ลอว์สัน หรือว่า รัสเซล เวสต์บรูก
โอ้โห!! เท่ากับว่า ช่วงปิดซีซัน คัพแช็ค มีคิวปรึกษา จิม บัสส์ รองประธานทีมถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ถึงขนาดอาจต้องถ่ายโอน 3 ผู้เล่นตัวจริง นี่ยังไม่รวมประเด็นหัวหน้าโค้ชที่ดูเหมือน ไมค์ บราวน์ ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเลยจริงๆ การไม่ได้รับความนับถือจาก โคบี หลายครั้งเห็นชัดว่าเพื่อนร่วมทีมฟังแม่ทัพกระตุ้นมากกว่าที่จะเป็นหน้าที่ของโค้ช หรือแม้แต่แทกติกเกมบุกที่ไม่ไหลลื่นตามสไตล์ “ไทรแองเกิล” งานนี้เห็นทีอย่าให้ถึงมือ ฟิล แจ็คสัน ต้องแบกสังขารในวัย 66 ปี กลับมาคุมบังเหียนอีกเลย เพราะโค้ชฝีมือดีอย่าง ไมค์ ดิแอนโทนี ก็ว่างงานอยู่ หรือไม่ก็ไปเคาะประตูบ้าน อินเดียนา เพเซอร์ส ขอสัมภาษณ์ ไบรอัน ชอว์ อดีตผู้ช่วย “บิ๊กฟิล” ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่มือขวา แฟรงค์ โวเกิล ให้กลับมารับงานใหญ่ในถิ่นเก่า ก็ถือเป็นทางออกที่น่าสนใจเลยทีเดียว