เอเยนซี-ทีมชาติอังกฤษประกาศรายชื่อ 23 ขุนพลลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2012 ที่ โปแลนด์ และ ยูเครน ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคมนี้ เมื่อวันพุธที่ 16 พฤษภาคม ตามเวลาท้องถิ่น ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่อาศัยเวลาเพียงแค่น้อยนิดของ รอย ฮอดจ์สัน นับตั้งแต่เข้ามารับงานเมื่อต้นเดือน พ.ค.ดังนั้น ลองไปดูการวิเคราะห์ของ “เดลี เมล” สื่อเมืองผู้ดี ที่เจาะขุมกำลังตั้งแต่หลัง จนถึงหน้าบ้าน พร้อมมองถึงหนทาง ว่า จะไปได้ไกลแค่ไหนกับทัวร์นาเมนต์สำคัญที่รออยู่เบื้องหน้านี้
ผู้รักษาประตู
ถือเป็นตำแหน่งที่ ฮอดจ์สัน เบาใจที่สุดเลยก็ว่าได้ เนื่องจากมือ 1 หนีไม่พ้น โจ ฮาร์ท ฤดูกาลที่ผ่านมา เฝ้าเสาครบ 38 นัด คลีนชีต 17 นัด เสียไปเพียง 29 ประตู ถือว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ดังนั้น จึงต้องโฟกัสไปที่ตัวสำรองว่าจะเป็นใครที่สามารถทดแทนด่านสุดท้ายที่พา แมนเชสเตอร์ ซิตี คว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิป กรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันบาดเจ็บระหว่างทัวร์นาเมนต์ หรือติดโทษแบน พิจารณาจากทั้งหมด 20 ทีมลีกสูงสุด มีเพียง 4 สโมสรเท่านั้นที่ใช้นายทวารชาวอังกฤษ ดังนั้น อีก 2 คนอาจเป็น จอห์น รัดดี ของ นอริช ซิตี และ สกอตต์ คาร์สัน ที่เล่นกับ บูร์ซาสปอร์ เพราะ เบน ฟอสเตอร์ จาก เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน ที่คุมทัพกันมาถือว่ารู้มือเป็นอย่างดีลั่นวาจาไม่ขอติดธงอีกแล้ว ส่วนที่นอกสายตา คือ พอล โรบินสัน ตกชั้นกับ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส
กองหลัง
ถือเป็นประเด็นที่ทุกคนพูดถึงมากที่สุด เนื่องจากความบาดหมาง ระหว่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับ จอห์น เทอร์รี เนื่องจากฝ่ายหลังเหยียดผิว แอนตัน น้องชายของแนวรับจากค่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดังนั้น จะให้จับคู่กันจึงไม่ถูกไม่ควร ฮอดจ์สัน จึงน่าจะตัดสินใจเลือก “เจที” เป็นแกนหลักด้วยเหตุผล คือ อายุเพียง 31 ปี และต้องมองถึงแนว “แบ็กโฟร์” ที่จะมีอีก 2 คนจากค่าย เชลซี เหมือนกัน คือ แอชลีย์ โคล แบ็กซ้าย และ แกรี เคฮิลล์ เซนเตอร์ฮาล์ฟ ตัวสำรองอย่าง ฟิล โจนส์ (แมนฯยู) โจลีออน เลสคอตต์ (แมนฯซิตี) ถือว่าทดแทนได้ดี และหลากหลายจะเสียดายก็แค่ ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวา ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่บาดเจ็บอาจหลุดโผ
กองกลาง
น่าหนักใจเพราะดูจากรายชื่อไม่มีจอมทัพที่จะฝากผีฝากไข้ยามสถานการณ์ขับขัน แฟรงค์ แลมพาร์ด จาก เชลซี และ สตีเวน เจอร์ราร์ด จาก ลิเวอร์พูล ดูมีภาษีดีที่สุด แต่เลยจุดที่ดีที่สุดของอาชีพไปแล้ว คงต้องพึ่งตัวรับอย่าง สกอตต์ ปาร์เกอร์ ของ สเปอร์ส และ แกเร็ธ แบร์รี ของ แมนฯซิตี ส่วนปีก ธีโอ วัลคอตต์ (อาร์เซนอล) อารอน เลนนอน (สเปอร์ส) และ แอชลีย์ ยัง (แมนฯยู) รวมถึงที่อาจสร้างเซอร์ไพรส์อย่าง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (อาร์เซนอล) กระดูกก็ยังไม่ถึง มีแต่พวกความเร็วจัดบอลระดับนี้จะไปกินกองหลังระดับเขี้ยวลากดินดูแล้วยาก
กองหน้า
ขออนุญาตมองข้าม เวย์น รูนีย์ ที่ติดโทษแบน 2 นัดรอบแบ่งกลุ่ม แต่หอกจาก แมนฯยู คงมีชื่อติดทัพชุดนี้ด้วย รายชื่อที่เหลือถือว่าตัวเลือกเยอะแต่ว่าฟอร์มค่อนข้างใกล้เคียง ทำให้ ฮอดจ์สัน อาจตัดสินใจยาก ดังนั้น ตัวเก๋าอย่าง เจอร์เมน เดโฟ ของ สเปอร์ส ดาร์เรน เบนท์ ของ แอสตัน วิลลา และ ปีเตอร์ เคราช์ ของ สโต๊ก ซิตี อาจหลุดโผถึงเวลาของเลือดใหม่ทั้ง แดนนี เวลเบ็ค ดาวยิง “ผีแดง” แอนดี คาร์โรลล์ ของ ลิเวอร์พูล และ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ของ เชลซี ยังเป็นอีกตำแหน่งที่ฝากผีฝากไข้ไม่ได้ภายใต้ระบบกองหน้าเป้าตัวเดียว ส่วน แกรนท์ โฮลท์ ที่ซัดให้ นอริช ซิตี 15 ประตู หรือ แดนนี แกรมห์ ของ สวอนซี ซิตี 12 ประตูเป็นเรื่องของวาสนาที่อาจทำบุญมาไม่ถึง
11 ผู้เล่นตัวจริงทีมชาติอังกฤษยุค รอย ฮอดจ์สัน จากการคาดหมายของ “เดลี เมล”
ระบบ 4-3-3 โจ ฮาร์ท, เกล็น จอห์นสัน, แกรี เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, สกอตต์ ปาร์เกอร์, สตีเวน เจอร์ราร์ด, แกเร็ธ แบร์รี, ธีโอ วัลคอตต์, แอชลีย์ ยัง, แอนดี คาร์โรลล์ วิเคราะห์ : ถ้าออกมาในรูปโฉมนี้ ถือว่าไม่ได้แตกต่างจากยุคคุมทัพของ ฟาบิโอ คาเปลโล ถูกวางให้อยู่กลุ่ม ดี ร่วมกับ ยูเครน (เจ้าภาพ) ฝรั่งเศส และ สวีเดน ถ้าผ่านไปได้จะชนกับกลุ่ม ซี ที่มีทั้ง สเปน (แชมป์เก่า) และ อิตาลี ดังนั้น ต้องเผื่อใจหนทางจึงอาจจะถูกหยุดแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเท่านั้น
