“บิ๊กสิน” สินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมสอยคิวสมัย 13 ติดต่อกัน หลังสมาชิกทั้งหมดเทใจให้แค่เสี้ยววินาที ระบุ จะพัฒนาวงการสอยคิวไทยให้เป็นระบบสากลมากยิ่งขึ้น ด้านงบดุลสมาคมมีเงินเหลือกว่า 2 ล้านบาท
นายสินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2555 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป โดยมีวาระสำคัญ คือ การเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ หลังคณะกรรมการบริหารชุดเดิมได้บริหารงานมาครบวาระ 2 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีสมาชิกสโมสรที่มีสิทธิ์ออกเสียงได้ทั้งหมด 14 เสียงจากทั้งหมด 18 เสียง ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน
ที่ประชุมได้สรุปผลงานในช่วงรอบปีที่ผ่านมา ไล่ตั้งแต่การแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพในเมืองไทย คือ “แสงโสม ไทยแลนด์แร็งกิ้ง” ดิวิชัน 1 และ ดิวิชัน 2 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักแทงทั่วประเทศหลายร้อยคนร่วมประชันฝีมือ เพื่อเป็นเวทีไต่เต้าสู่ตัวแทนทีมชาติไทยในอนาคต รวมไปถึงการส่งนักสอยคิวไทยไปสร้างผลงานในเวทีระดับโลกต่างๆ มากมาย อาทิ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม มือ 63 ของโลกในปัจจุบัน, “แจ๊ค สระบุรี” เดชาวัตร พุ่มแจ้ง อดีตแชมป์สมัครเล่นโลก และ “กร นครปฐม” ภาสกร สุวรรณวัฒน์ อดีตแชมป์เอเชียปี 54 ไปเทิร์นโปรอาชีพโลกที่ประเทศอังกฤษ
ล่าสุด ทั้ง 3 คนยังสร้างผลงานดีได้เล่นอาชีพโลกต่อในฤดูกาลหน้า นอกจากนี้ ยังได้ “แมน นครปฐม” ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไบูลย์ ดีกรีแชมป์เยาวชนโลก และ “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู อดีตแชมป์สมัครเล่นโลกปี 51 ที่ได้สิทธิ์ตั๋วไวลการ์ดไปร่วมสมทบอีกด้วย ด้านงบดุลสมาคม สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม ปี 2554 สมาคมมีรายรับ 22,985,5259 บาท รายจ่าย 25,070,095 บาท สรุปสมาคมมีรับมากกว่ารายจ่าย 2,084,835 บาท พร้อมแต่งตั้งให้ สำนักงานภักดี และเพื่อนเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีอีกครั้ง
จากนั้นเข้าสู่วาระสำคัญการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ ที่ประชุมได้เสนอชื่อให้ พล.ต.ต.ดิสสทัต ภูริปโชติ อุปนายกสมาคม เป็นประธานการเลือกตั้งชั่วคราว ก่อนจะให้สมาชิกสโมสรเป็นผู้เสนอชื่อตัวบุคคลมาเป็นนายกสมาคม ปรากฏว่า “คิวทอง” นายศักดา รัตนสุบรรณ ที่ปรึกษาสมาคม ได้เสนอชื่อให้ “บิ๊กสิน” นายสินธุ เป็นนายกสมาคคมอีกสมัย ซึ่งในที่ประชุมไม่มีผู้ใดคัดค้าน ส่งผลให้ นายสินธุ ได้เป็นนายกสมาคมสมัยที่ 13 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เป็นนายกสมาคมสมัยแรกเมื่อปี 2530
หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น นายสินธุ เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณสมาชิกสโมสรทุกคนที่ให้ความไว้วางใจนั่งตำแหน่งนี้อีกครั้ง ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่และสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ก็จะขอพัฒนาและช่วยเหลือวงการสนุกเกอร์ไทยต่อไป เพราะนี่คือชนิดกีฬาที่ตัวเองรัก และอยากพัฒนานักกีฬาไทยไปสู่ระดับโลกให้มากที่สุด ที่สำคัญ หลังจากตัวเองไม่ได้เป็นประธานสหพันธ์สนุกเกอร์แห่งเอเชียแล้ว จะใช้เวลาทั้งหมดทุ่มเทให้กับสนุกเกอร์ในบ้านเรามากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อก่อนประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ตนให้ความสำคัญและพัฒนาวงการสอยคิวเอเชียมาตลอด ยิ่งไปกว่านั้นการพัฒนาวงการสนุกเกอร์ไทยจากนี้ไปจะต้องครอบคลุมทั้งระบบ
ขณะที่ นายศักดา ได้กล่าวว่า ไม่มีบุคคลใดเหมาะสมในตำแหน่งนี้เท่ากับ นายสินธุ อีกแล้ว เพราะผลงานที่ผ่านมากว่า 20 ปีได้เห็นเป็นประจักษ์แก่สายตาแล้วว่า ได้ทุ่มเทเสียสละและพัฒนาวงการสนุกเกอร์ไทยขนาดไหน เห็นได้จากผลงานต่างๆ ของนักกีฬาไทย ล่าสุด ในการแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์โลก ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ จะมีนักแทงท็อป 16 คนของโลกเดินทางมาร่วมด้วย โดยเฉพาะ “เจ้าเด็กนรก” รอนนี่ โอซัลลิแวน แชมป์โลกคนล่าสุดจะเดินทางมาโชว์เพลงคิวให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นกับตาว่า เจ๋งแค่ไหน
นายสินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2555 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป โดยมีวาระสำคัญ คือ การเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ หลังคณะกรรมการบริหารชุดเดิมได้บริหารงานมาครบวาระ 2 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีสมาชิกสโมสรที่มีสิทธิ์ออกเสียงได้ทั้งหมด 14 เสียงจากทั้งหมด 18 เสียง ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน
ที่ประชุมได้สรุปผลงานในช่วงรอบปีที่ผ่านมา ไล่ตั้งแต่การแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพในเมืองไทย คือ “แสงโสม ไทยแลนด์แร็งกิ้ง” ดิวิชัน 1 และ ดิวิชัน 2 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักแทงทั่วประเทศหลายร้อยคนร่วมประชันฝีมือ เพื่อเป็นเวทีไต่เต้าสู่ตัวแทนทีมชาติไทยในอนาคต รวมไปถึงการส่งนักสอยคิวไทยไปสร้างผลงานในเวทีระดับโลกต่างๆ มากมาย อาทิ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม มือ 63 ของโลกในปัจจุบัน, “แจ๊ค สระบุรี” เดชาวัตร พุ่มแจ้ง อดีตแชมป์สมัครเล่นโลก และ “กร นครปฐม” ภาสกร สุวรรณวัฒน์ อดีตแชมป์เอเชียปี 54 ไปเทิร์นโปรอาชีพโลกที่ประเทศอังกฤษ
ล่าสุด ทั้ง 3 คนยังสร้างผลงานดีได้เล่นอาชีพโลกต่อในฤดูกาลหน้า นอกจากนี้ ยังได้ “แมน นครปฐม” ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไบูลย์ ดีกรีแชมป์เยาวชนโลก และ “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู อดีตแชมป์สมัครเล่นโลกปี 51 ที่ได้สิทธิ์ตั๋วไวลการ์ดไปร่วมสมทบอีกด้วย ด้านงบดุลสมาคม สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม ปี 2554 สมาคมมีรายรับ 22,985,5259 บาท รายจ่าย 25,070,095 บาท สรุปสมาคมมีรับมากกว่ารายจ่าย 2,084,835 บาท พร้อมแต่งตั้งให้ สำนักงานภักดี และเพื่อนเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีอีกครั้ง
จากนั้นเข้าสู่วาระสำคัญการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ ที่ประชุมได้เสนอชื่อให้ พล.ต.ต.ดิสสทัต ภูริปโชติ อุปนายกสมาคม เป็นประธานการเลือกตั้งชั่วคราว ก่อนจะให้สมาชิกสโมสรเป็นผู้เสนอชื่อตัวบุคคลมาเป็นนายกสมาคม ปรากฏว่า “คิวทอง” นายศักดา รัตนสุบรรณ ที่ปรึกษาสมาคม ได้เสนอชื่อให้ “บิ๊กสิน” นายสินธุ เป็นนายกสมาคคมอีกสมัย ซึ่งในที่ประชุมไม่มีผู้ใดคัดค้าน ส่งผลให้ นายสินธุ ได้เป็นนายกสมาคมสมัยที่ 13 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เป็นนายกสมาคมสมัยแรกเมื่อปี 2530
หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น นายสินธุ เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณสมาชิกสโมสรทุกคนที่ให้ความไว้วางใจนั่งตำแหน่งนี้อีกครั้ง ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่และสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ก็จะขอพัฒนาและช่วยเหลือวงการสนุกเกอร์ไทยต่อไป เพราะนี่คือชนิดกีฬาที่ตัวเองรัก และอยากพัฒนานักกีฬาไทยไปสู่ระดับโลกให้มากที่สุด ที่สำคัญ หลังจากตัวเองไม่ได้เป็นประธานสหพันธ์สนุกเกอร์แห่งเอเชียแล้ว จะใช้เวลาทั้งหมดทุ่มเทให้กับสนุกเกอร์ในบ้านเรามากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อก่อนประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ตนให้ความสำคัญและพัฒนาวงการสอยคิวเอเชียมาตลอด ยิ่งไปกว่านั้นการพัฒนาวงการสนุกเกอร์ไทยจากนี้ไปจะต้องครอบคลุมทั้งระบบ
ขณะที่ นายศักดา ได้กล่าวว่า ไม่มีบุคคลใดเหมาะสมในตำแหน่งนี้เท่ากับ นายสินธุ อีกแล้ว เพราะผลงานที่ผ่านมากว่า 20 ปีได้เห็นเป็นประจักษ์แก่สายตาแล้วว่า ได้ทุ่มเทเสียสละและพัฒนาวงการสนุกเกอร์ไทยขนาดไหน เห็นได้จากผลงานต่างๆ ของนักกีฬาไทย ล่าสุด ในการแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์โลก ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ จะมีนักแทงท็อป 16 คนของโลกเดินทางมาร่วมด้วย โดยเฉพาะ “เจ้าเด็กนรก” รอนนี่ โอซัลลิแวน แชมป์โลกคนล่าสุดจะเดินทางมาโชว์เพลงคิวให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นกับตาว่า เจ๋งแค่ไหน