เอเยนซี - แม้ว่าฤดูกาล 2011-12 ของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะจบลงไปอย่างเป็นทางการ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม ด้วยฟินาเล่ ชนิดที่แฟนลูกหนังแทบหัวใจวาย หากควันหลงของการแข่งขันที่ใช้ระยะเวลายาวนานถึง 9 เดือนของลีกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลกลูกหนัง ยังมีแมตช์การแข่งขัน รวมไปถึงเหตุการณ์ ประเภทหนังชีวิต หรือ “ดราม่า” ที่อยู่ในความทรงจำของแฟนบอล โดยเดลี่ย์ เมล์ สื่อชื่อดังของอังกฤษ ได้คัดเลือก5 เหตุการณ์ที่กลายเป็นพาดหัวข่าวดังไปทั่วโลก และเชื่อว่าจะอยู่ในความทรงจำของแฟนลูกหนังไปอีกนานส่วนจะมีเรื่องใดบ้างนั้นติดตามได้ในบรรทัดต่อจากนี้
การชิงชัยถ้วยพรีเมียร์ลีก เริ่มต้นในเดือนมีนาคม
หลังโชว์ฟอร์มมาได้ดีในช่วงคริสมาสต์ปี 2011 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับออกอาการตื้อในช่วงเข้าสู่โค้งสุดท้ายของฤดูกาล ขณะที่ผู้เล่นที่เป็นความหวังอย่าง มาริโอ บาโลเตลลี่ กลับกลายเป็นปัญหาของทีมจนทำให้ มันชินี่ ต้องตัดสินใจขั้นเด็ดขาดกับ “ซุปฯตาร์” รายนี้ พร้อมปรับกลยุทธของทีมให้กลับมาแกร่งเหมือนเดิมและ “วิถีแห่งมันชินี่” ก็ปรากฎเป็นผลงาน เมื่อลูกทีมของเขา เอาชนะเวสบรอมได้ถึง 4 ประตูในบ้าน และ ต่อด้วย ชัยชนะเหนือนอริช ซิตี้ ถึง 6 ประตู ขณะที่คู่แข่งร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้น แม้จะมีคะแนนนำ แต่ผลงานที่พ่ายวีแกน ในช่วงปลายฤดูกาล ตามด้วยสเมอกับ เอฟเวอร์ตัน ในบ้าน 4-4 นับทำให้ ถ้วยพรีเมียร์ลีก อังกฤษเริ่มต้นการชิงชัยอย่างแท้จริงในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โทษแบน'ซัวเรส' กับปฏิบัติการโต้กลับ
ไม่เคยมีครั้งใดในประวัติศาสตร์ ฟุตบอลอังกฤษที่จะมีบทลงโทษอันเป็นที่กล่าวขานได้เท่ากับ การลงโทษ หลุยส์ ซัวเรส ที่ถูกแบนถึง 8 นัดหลัง หลังใช้คำว่า “นิโกร”กับ ปาทริซ เอฟรา ในนัดแดงเดือดที่แอนฟิลด์ เมื่อ 15 ตุลาคม 2011 แต่เรื่องไม่จบเพียงแค่บทลงโทษเมื่อ พลพรรคหงส์แดงตอบโต้ด้วยการใส่เสื้อให้กำลังใจศูนย์หน้าชาวอุรุกวัย ขณะที่ซัวเรส เองออกอาการเหวี่ยงกลับในนัดที่ลิเวอร์พูล บุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อศูนย์หน้าหมายเลข 7 ไม่ยอมจับมือกับ เอฟรา ส่งผลให้การเผชิญหน้าของทั้งคู่ มีตำนานให้เล่าขานต่อท้ายในทุกครั้งไป
เชลซี มีชัยเหนือ บาร์เซโลน่าเข้าชิง ชปล.
อีกหนึ่งแมทช์แห่งความทรงจำของแฟนเชลซี อาจไม่ใช่เกมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูกาล 2011 - 2012 เมื่อทีมสิงโตน้ำเงินคราม เอาชนะ บาร์เซโลน่า ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จตามฝันของ โรมัน อบราโมวิช ได้สำเร็จด้วยฝีมือของกุนซือก้นกุฎิอย่าง โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ และแน่นอนว่านี่คือ แมทช์แห่งความทรงจำที่แฟนเชลซี จะต้องจำเอาไว้คุยได้อีกนานเพราะพวกเขาเอาชนะทีมที่ครั้งหนึ่งได้ชื่อว่าดีที่สุดในยุโรป อย่าง บาร์เซโลน่า ที่คว้าถ้วยหูใหญ่ของยุโรปมาแล้ว 4 สมัย
มูอัมบา หัวใจวายคาสนาม
เป็นภาพที่น่าตกใจอย่างยิ่งในการแข่งขันเอฟเอ คัพ เมื่อ นักเตะโบลตัน ฟาบริซ มูอันบา ล้มลงหมดสติในการแข่งขันเอฟเอคัพ นัดที่พบกับ สเปอร์ส ซึ่งทำให้การแข่งขันต้องยุติ ลงพร้อมกับภาพที่เหล่านักเตะ และ บรรดากองเชียร์ในสนาม ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และทุกคนต่างภาวนาให้ มูอัมบา มีอาการฟื้นขึ้นมาโดยเร็ว ซึ่งหลังจากได้รับการปฐมพยาบาล และพาตัวส่งโรงพยาบาล อย่างเร่งด่วน มูอัมบ้า มีอาการดีขึ้นเป็นลำดับ และปรากฎตัวอีกครั้งในเกมลีกภายในสนาม รีบ็อกซ์ สเตเดี้ยม ในนัดที่โบลตัน พบกับ สเปอร์ส โดยนัดดังกล่าว โบลตัน พ่ายไป 1-4 แต่ มูอัมบ้า ถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อปรากฎตัว ในสนาม พร้อมกับเสียงให้กำลังใจของแฟนบอลโบลตัน
ผลงานจากเกือบร่วง มาเป็นดาวรุ่งของ นิวคาสเซิล
สถานการณ์ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลของ นิวคาสเซิล นั้นเต็มไปด้วยความระส่ำระสายเมื่อพวกเขาต้องสูญเสียผู้เล่นตัวสำคัญ อย่าง เควิน โนแลน โจอี้ บาร์ตัน โฮเซ่ เอนริเก้ รวมไปถึง แอนดี้ คาร์โรลล์ ไปจากทีมและทำให้ทิศทางของ ทูนอาร์มี่ ดูเหมือนจะต้องไปวนเวียนอยู่ในช่วงท้ายตารางมากกว่าจะมีลุ้น อันดับใดๆ แต่ปรากฎว่า ฤดูกาล 2011-2012 กลายเป็นฤดูกาลที่ลูกทีมของ อลัน พาร์ดิว ประสบความสำเร็จด้วยอันดับที่สูงกว่าเชลซี แม้จะพลาดไม่ได้ไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ก็ได้สิทธิ ยูโรป้า ลีก อย่างแน่นอนแล้ว ซึ่งผลงานระดับนี้ต้องยกให้การรวมใจของนักเตะในสังกัด ทั้ง ทิม ครูล์ ผู้รักษาประตูมือกาวที่ช่วยเซฟประตูสำคัญๆให้กับทีม ฟาบริซิโอ โคลอกซินี่ กัปตัน ทีมที่เรียกฟอร์มอันสุดยอดจากเพื่อนร่วมทีมทุกคน รวมไปถึงคู่หูแดนกลางอย่าง ชีค ติโอเต้ และ โยฮัน คาบาย และการทำประตูของ เดมบา บา และ ตัวใหม่หมายเลข 9 ปาปิสส์ ซิสเซ่ ที่ทำไปถึง 13 ประตูในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล