คอลัมน์ “สุดฟากสนาม” โดย “นกฟินิกซ์”
บทสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งแรกระหว่าง อังเดร อากัสซี่ และ สเตฟฟี่ กราฟ หรือ สเตฟานี่ กราฟ เปรียบเสมือนการทำความรู้จักอย่างเป็นทางการของสองหนุ่มสาวที่ต่างก็เห็นกันมานาน อังเดร นั้นไม่รีรอที่จะบอกจุดประสงค์ต่อหญิงสาวที่เขาหมายปอง
“คืออย่างนี้นะ สเตฟานี่ ผมอยากจะบอกคุณตั้งแต่ที่ คีย์ บิสคาน ว่าทำไมถึงพยายามทำความรู้จักกับคุณ ผมไม่ต้องการให้คุณเข้าใจผิดหรือคิดเข้าใจอะไรไปเอง ส่วนตัวแล้วผมมีความรู้สึกดีๆกับคุณอยู่มาก คุณเป็นผู้หญิงที่สวย และ มีสเน่ห์ และผมต้องการจะรู้จักคุณให้มากกว่าที่เป็นอยู่ จะเป็นไปได้ไหมถ้าผมจะชวนคุณไปทานมื้อเย็นด้วยกัน” นักเทนนิสหนุ่มหักมุมในบทสนทนาทันที
หากคำตอบจากฝ่ายหญิงนั้น สวนกลับมาแบบไม่ต้องคิด “ไม่” ก่อนจะต่อว่า “ไม่ใช่ที่นี่ ที่วิมเบิลดัน ฉันอยากให้เราทั้งคู่แข่งจนจบทัวร์นาเมนท์เสียก่อน และที่สำคัญ ฉันมีแฟนอยู่แล้ว”
เมื่อหญิงสาวที่หมายปอง พูดถึงผู้ชายอีกคนในสถานะที่เหนือกว่า อังเดร ไม่รีรอที่จะถามกลับไปว่า “ผมจำได้ว่าคุณเคยบอกว่ามีแฟนอยู่แล้ว แต่เป็นแฟนที่คบกันมาถง 6 ปีแล้วนะถ้าคุณทั้งคู่ไม่เดินต่อไปข้างหน้า ก็หมายความว่าเวลานี้กำลังอยู่ในช่วงถอยหลังแล้วละผมว่า” หลังจบประโยคดังกล่าวไม่มีเสียงปลายสายตอบมาจากสเตฟฟี่ ทำให้ อังเดร ต้อง กล่าวต่อไปว่า “อันที่จริงแล้วผมไม่ได้ต้องการล่วงเกินเรื่องส่วนตัวของคุณเพียงแต่อยากให้คุณลองเปิดโอกาสให้กับผมบ้าง”
ในฐานะนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งโลก ดูเหมือน กราฟ จะหนักใจกับการจู่โจมแบบไม่ให้ได้ตั้งตัวของ อังเดร ไม่น้อยแต่มิตรภาพที่ชายหนุ่มเปิดมาในครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ได้เสียเที่ยวแต่อย่างใด เพราะหญิงสาวเองก็เหมือนเริ่มจะเปิดใจของตนเองออกมาบ้างเมื่อ เธอเอ่ยกลับคำชวนไปดื่มกาแฟของ อังเดรว่า “ฉันว่าคงเป็นเรื่องไม่เหมาะถ้าเราทั้งคู่พบกันในที่สาธารณะ โดยเฉพาะในลอนดอน” ข้อเสนอใหม่จากอังเดร จึงถูกโยนเข้ามาถามทาง “ผมได้ยินว่าคุณชอบซาน ฟรานซิสโก เราไปพบกันที่ซานฟรานฯ ได้ไหม” คำตอบจากกราฟ คือ “น่าจะมีโอกาส ฉันจะให้เบอร์ส่วนตัวกับคุณ แล้วเราค่อยคุยกันหลังจบการแข่งขัน”
เบอร์ของสเตฟฟี่ กราฟ ถูกจดไว้ในกระดาษชำระ อังเดร เก็บมันไว้ในกระเป๋าใส่ไม้เทนนิส และเริ่มต้นแกรนด์สแลม วิมเบิลดัน ด้วยจิตใจสุดเบิกบาน และผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศเพื่อพบกับ พีท แซมพราส จิตใจของเขาผ่องใสยิ่งหนัก เช้าวันแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เสียงโทรศัพท์ในที่พักของอังเดร ดังขึ้นเขามั่นใจว่าต้องเป็น สเตฟฟี่ กราฟ โทรมาแสดงความยินดี และ อวยพรให้คว้าแชมป์วิมเบิลดันอย่างแน่นอน และในทันทีที่ยกหูโทรศัพท์ขึ้นเสียงปลายสายทำให้ นักเทนนิสหนุ่ม ชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะกรอกเสียงผ่านไปยัง “บรู๊ค ชีลด์” ที่แจ้งมาว่าเธออยู่ลอนดอน และ ต้องการมาเยี่ยมยังที่พักว่า “ยินดี ผมยังอยู่ที่อพาร์ทเมนท์คุณมาได้เลย” และการปรากฎตัวของอดีต ภรรยา ได้ทำให้วันสำคัญในการชิงชัยแกรนด์สแลม วิมเบิลดัน ของอังเดร อากัสซี่ ต้องเปลี่ยนเป็นวันอันเลวร้ายไปในทันที
บทสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งแรกระหว่าง อังเดร อากัสซี่ และ สเตฟฟี่ กราฟ หรือ สเตฟานี่ กราฟ เปรียบเสมือนการทำความรู้จักอย่างเป็นทางการของสองหนุ่มสาวที่ต่างก็เห็นกันมานาน อังเดร นั้นไม่รีรอที่จะบอกจุดประสงค์ต่อหญิงสาวที่เขาหมายปอง
“คืออย่างนี้นะ สเตฟานี่ ผมอยากจะบอกคุณตั้งแต่ที่ คีย์ บิสคาน ว่าทำไมถึงพยายามทำความรู้จักกับคุณ ผมไม่ต้องการให้คุณเข้าใจผิดหรือคิดเข้าใจอะไรไปเอง ส่วนตัวแล้วผมมีความรู้สึกดีๆกับคุณอยู่มาก คุณเป็นผู้หญิงที่สวย และ มีสเน่ห์ และผมต้องการจะรู้จักคุณให้มากกว่าที่เป็นอยู่ จะเป็นไปได้ไหมถ้าผมจะชวนคุณไปทานมื้อเย็นด้วยกัน” นักเทนนิสหนุ่มหักมุมในบทสนทนาทันที
หากคำตอบจากฝ่ายหญิงนั้น สวนกลับมาแบบไม่ต้องคิด “ไม่” ก่อนจะต่อว่า “ไม่ใช่ที่นี่ ที่วิมเบิลดัน ฉันอยากให้เราทั้งคู่แข่งจนจบทัวร์นาเมนท์เสียก่อน และที่สำคัญ ฉันมีแฟนอยู่แล้ว”
เมื่อหญิงสาวที่หมายปอง พูดถึงผู้ชายอีกคนในสถานะที่เหนือกว่า อังเดร ไม่รีรอที่จะถามกลับไปว่า “ผมจำได้ว่าคุณเคยบอกว่ามีแฟนอยู่แล้ว แต่เป็นแฟนที่คบกันมาถง 6 ปีแล้วนะถ้าคุณทั้งคู่ไม่เดินต่อไปข้างหน้า ก็หมายความว่าเวลานี้กำลังอยู่ในช่วงถอยหลังแล้วละผมว่า” หลังจบประโยคดังกล่าวไม่มีเสียงปลายสายตอบมาจากสเตฟฟี่ ทำให้ อังเดร ต้อง กล่าวต่อไปว่า “อันที่จริงแล้วผมไม่ได้ต้องการล่วงเกินเรื่องส่วนตัวของคุณเพียงแต่อยากให้คุณลองเปิดโอกาสให้กับผมบ้าง”
ในฐานะนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งโลก ดูเหมือน กราฟ จะหนักใจกับการจู่โจมแบบไม่ให้ได้ตั้งตัวของ อังเดร ไม่น้อยแต่มิตรภาพที่ชายหนุ่มเปิดมาในครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ได้เสียเที่ยวแต่อย่างใด เพราะหญิงสาวเองก็เหมือนเริ่มจะเปิดใจของตนเองออกมาบ้างเมื่อ เธอเอ่ยกลับคำชวนไปดื่มกาแฟของ อังเดรว่า “ฉันว่าคงเป็นเรื่องไม่เหมาะถ้าเราทั้งคู่พบกันในที่สาธารณะ โดยเฉพาะในลอนดอน” ข้อเสนอใหม่จากอังเดร จึงถูกโยนเข้ามาถามทาง “ผมได้ยินว่าคุณชอบซาน ฟรานซิสโก เราไปพบกันที่ซานฟรานฯ ได้ไหม” คำตอบจากกราฟ คือ “น่าจะมีโอกาส ฉันจะให้เบอร์ส่วนตัวกับคุณ แล้วเราค่อยคุยกันหลังจบการแข่งขัน”
เบอร์ของสเตฟฟี่ กราฟ ถูกจดไว้ในกระดาษชำระ อังเดร เก็บมันไว้ในกระเป๋าใส่ไม้เทนนิส และเริ่มต้นแกรนด์สแลม วิมเบิลดัน ด้วยจิตใจสุดเบิกบาน และผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศเพื่อพบกับ พีท แซมพราส จิตใจของเขาผ่องใสยิ่งหนัก เช้าวันแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เสียงโทรศัพท์ในที่พักของอังเดร ดังขึ้นเขามั่นใจว่าต้องเป็น สเตฟฟี่ กราฟ โทรมาแสดงความยินดี และ อวยพรให้คว้าแชมป์วิมเบิลดันอย่างแน่นอน และในทันทีที่ยกหูโทรศัพท์ขึ้นเสียงปลายสายทำให้ นักเทนนิสหนุ่ม ชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะกรอกเสียงผ่านไปยัง “บรู๊ค ชีลด์” ที่แจ้งมาว่าเธออยู่ลอนดอน และ ต้องการมาเยี่ยมยังที่พักว่า “ยินดี ผมยังอยู่ที่อพาร์ทเมนท์คุณมาได้เลย” และการปรากฎตัวของอดีต ภรรยา ได้ทำให้วันสำคัญในการชิงชัยแกรนด์สแลม วิมเบิลดัน ของอังเดร อากัสซี่ ต้องเปลี่ยนเป็นวันอันเลวร้ายไปในทันที
