เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงโจมตีสไตล์การเล่นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี คู่อริร่วมเมือง ว่า ดีแต่เล่นเกมรับจนมีโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก พร้อมแสดงความเชื่อมั่น ว่า ทีมของตนคงป้องกันแชมป์ได้ หากปรับปรุงเกมรับให้ดีเท่า ซิตี ในเกมดาร์บีแมตช์ ที่ผ่านมา
แมนฯยู นั่งเป็นรองจ่าฝูงของตารางพรีเมียร์ลีก แม้มีแต้มเท่า ซิตี ที่เป็นจ่าฝูง 86 แต้ม แต่เป็นรองประตูได้เสีย 8 ลูก โดยจุดเปลี่ยนที่ทำให้ลูกทีมของ โรแบร์โต มันชินี มีโอกาสลุ้นแชมป์อีกครั้ง คือ เกมที่ทีมบุกไปพ่ายคาถิ่น เอติฮัด สเตเดียม 0-1 และปล่อยให้ทีมคู่ปรับไล่ตามทัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ “ผีแดง” นำห่างถึง 8 แต้ม
โดย ซิตี กำลังจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี หากเอาชนะ ควีนสปาร์ก เรนเจอร์ส ในเกมนัดสุดท้ายได้ ซึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือของ “ผีแดง” ชี้ว่า การที่ ซิตี ใช้สไตล์การเล่นแบบเน้นเกมรับเป็นหลัก ถือเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ “เรือใบสีฟ้า” จะเป็นฝ่ายหยิบแชมป์ไปครอง
เฟอร์กี กล่าวถึงเกมที่ทีมบุกไปแพ้ ซิตี 1-0 ว่า “ในช่วงท้ายเกมที่เราต้องวิ่งไล่บอลทั้งสนาม มันชินี เปลี่ยนแผนใช้ผู้เล่นถึง 5 คน ลงไปยืนด้านหลัง ถือเป็นสไตล์ฟุตบอลแบบอิตาลี และเราก็เล่นวิธีนั้นกับเกมที่พบกับเอฟเวอร์ตัน อย่างไรก็ตาม หากเราทำได้สำเร็จเหมือนกับซิตี ผมจะบอกได้เลยว่านั่นคือสิ่งที่แตกต่างออกไป”
ขณะเดียวกัน นายใหญ่แห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เผยต่อว่า แม้จะเสมอให้กับ “ทอฟฟี” 4-4 แต่ก็รู้สึกภูมิใจมากกว่าที่ได้สั่งให้ทีมเล่นเกมรุก เพื่อคว้าชัยชนะ และเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ “นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราให้ความสำคัญกับมันเลยสักนิด และผมคิดว่า การที่พวกเราเล่นเกมรุกและชอบที่จะพบกับความท้าทาย ถือเป็นสิ่งที่ช่วยให้ทีมมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากกว่า”
“การรักษาสมดุลระหว่างเกมรับและเกมรุกให้อยู่ระดับเดียวกัน นั่นคือ สิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ แต่หากพวกเราไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจุดเปลี่ยนสำคัญของทีม คือ เกมที่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน” กุนซือวัย 70 ปี ทิ้งท้าย