คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
แม้ว่าจะพ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่ เซียะ หย่าหลง (Xie Yalong ) อดีตผู้นำองค์กรฟุตบอลของ จีน กำลังถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการสอบสวนกรณีทุจริตในขณะดำรงตำแหน่ง นี่ไงครับ ชาติยักษ์ใหญ่ที่มีประชากรจำนวนมากถึง 1 ใน 4 ของประชากรโลก สามารถระดมเม็ดเงินสนับสนุนมากมายมหาศาล แต่ผลงานทางด้านฟุตบอลกลับไม่อยู่ในระดับแถวหน้าของโลก ส่วนหนึ่งมันมาจากปัญหาเน่าเฟะ กินกันอย่างมูมมาม เละเทะนั่นเอง
ตั้งแต่ปี 1955 ที่มีการก่อตั้ง สมาคมฟุตบอลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (Football Association of the People's Republic of China) หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า Chinese Football Association (CFA) ขึ้นใหม่ ตอนนั้นองค์กรดังกล่าวยังเป็นหน่วยงานภายใต้ การกีฬาแห่งประเทศจีน คือ อยู่ในอำนาจรัฐ แล้วทำการว่าจ้าง นักบริหารอาชีพมาเป็นประธานสมาคม ต่อมาในปี 1989 สมาคมต้องการผันตัวเองให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น จึงแยกตัวเองเป็นอิสระจากอำนาจรัฐ กลายเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และใช้วิธีสรรหา ว่าจ้างนักบริหารอาชีพมาปฏิบัติหน้าที่แบบเต็มเวลาในฐานะ รองประธานสมาคม
ตัวรองประธานสมาคม นี่แหละใหญ่ที่สุด เป็นผู้ที่กุมอำนาจการบริหารงานทั้งหมด หมอนี่มีภารกิจหลักในการพัฒนาวงการฟุตบอลของจีน ควบคุมดูแลลีกในประเทศ ทีมชาติ แต่งตั้งถอดถอนผู้จัดการทีมชาติ ฯลฯ ส่วนบุคคลที่ดำรงตำแหน่ง ประธาน นั้นเป็นเพียงหัวขบวนสัญลักษณ์ที่ทำหน้าที่แค่ในงานพิธีอย่างเป็นทางการเท่านั้น ไม่ได้มีบทบาทชี้เป็นชี้ตายทิศทางของสมาคม
เซียะ หย่าหลง อดีตรองประธานสมาคมฟุตบอลจีน วัย 56 ปี ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2005 และอยู่ยาวถึงปี 2008 ถูกกล่าวหาว่า รับเงินใต้โต๊ะจำนวนประมาณ 200,000 ยูโร หรือประมาณ 8 ล้านบาท จากผู้บริหารบริษัทผลิตภัณฑ์กีฬา นายกี้ (Nike) เพื่อแลกกับการยอมให้ยี่ห้อนี้เป็นผู้สนับสนุนสมาคมฟุตบอลจีน นอกจากนั้น ยังมีกรณีรับเงินจากผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาจิมนาสติคยี่ห้อ อิมพั้ลส์ (Impulse) อีกด้วย
ไม่เพียงแต่ รองประธาน ผู้อื้อฉาวคนนี้ การกวาดล้างขบวนการทุจริตยังขยายวงไปถึงคนอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น หนานหยง (Nan Yong) คนที่เข้ามารับตำแหน่งต่อจาก เซียะ หย่าหลง ซึ่งมีข้อมูลว่า รายนี้รับเงินสถุนไป 180,000 ยูโร เหวย เฉ่าหุ้ย (Wei Shaohui) อดีตผู้จัดการทีมชาติจีน หลี่ ตงเฉิง (Li Dongsheng) อดีตประธานผู้ตัดสิน ก็มีชื่ออยู่ในบัญชีทุจริตในวงการฟุตบอล รวมทั้ง นักเตะใน ชายนีส ซุพเพ่อร์ ลีก อีก 4 คนที่โดนข้อหารับเงินจากการล้มบอลให้ทีมหนีตกชั้น
การสอบสวนดังกล่าวกำลังดำเนินไปด้วยความเด็ดขาด ชัดเจน โดยทาง สมาคมฟุตบอลจีน กำลังประสานความร่วมมือกับ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า และ ตำรวจสากล เพื่อกวาดล้างวงการให้สะอาดเสียที ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางการจีนบังคับให้หมอนี่สารภาพด้วยการช้อตไฟฟ้า ชกตามใบหน้า บังคับให้อดนอน ตีด้วยกระบองไฟฟ้า แล้วเอาเหน็บใต้รักแร้ รวมทั้งยัดเข้าไปในปาก
ในที่สุด เซียะ หย่าหลง ก็ยอมรับว่า ตนได้ทำการทุจริตจริง โดยให้เหตุผลหน้าตาเฉยว่า ก็การให้สินบนนั่นมันเป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติในประเทศจีนนี่นา แล้วถ้าตนดันปฏิเสธของกำนัล มันก็เป็นการดูถูกน้ำใจของผู้ให้ เป็นการทำลายความสัมพันธ์ ตัดคอนเนกชันที่มีต่อกัน
ผมว่า น่าชื่นชมจีน ตรงที่คิดจะทำอะไร มันเด็ดขาดชัดเจนดีจัง ทั้งหมดทั้งมวลนี่ก็คงรำคาญที่ตนเองเป็นชาติมหาอำนาจ แต่ฟุตบอลมันเห่ยมานานเหลือเกิน แล้วก็พบว่า ปัญหาคอร์รัปชันเป็นตัวการสำคัญ จึงจัดการให้เรียบร้อย นี่ยังมีผู้ต้องหารอคิวอีกเยอะครับ
แม้ว่าจะพ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่ เซียะ หย่าหลง (Xie Yalong ) อดีตผู้นำองค์กรฟุตบอลของ จีน กำลังถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการสอบสวนกรณีทุจริตในขณะดำรงตำแหน่ง นี่ไงครับ ชาติยักษ์ใหญ่ที่มีประชากรจำนวนมากถึง 1 ใน 4 ของประชากรโลก สามารถระดมเม็ดเงินสนับสนุนมากมายมหาศาล แต่ผลงานทางด้านฟุตบอลกลับไม่อยู่ในระดับแถวหน้าของโลก ส่วนหนึ่งมันมาจากปัญหาเน่าเฟะ กินกันอย่างมูมมาม เละเทะนั่นเอง
ตั้งแต่ปี 1955 ที่มีการก่อตั้ง สมาคมฟุตบอลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (Football Association of the People's Republic of China) หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า Chinese Football Association (CFA) ขึ้นใหม่ ตอนนั้นองค์กรดังกล่าวยังเป็นหน่วยงานภายใต้ การกีฬาแห่งประเทศจีน คือ อยู่ในอำนาจรัฐ แล้วทำการว่าจ้าง นักบริหารอาชีพมาเป็นประธานสมาคม ต่อมาในปี 1989 สมาคมต้องการผันตัวเองให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น จึงแยกตัวเองเป็นอิสระจากอำนาจรัฐ กลายเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และใช้วิธีสรรหา ว่าจ้างนักบริหารอาชีพมาปฏิบัติหน้าที่แบบเต็มเวลาในฐานะ รองประธานสมาคม
ตัวรองประธานสมาคม นี่แหละใหญ่ที่สุด เป็นผู้ที่กุมอำนาจการบริหารงานทั้งหมด หมอนี่มีภารกิจหลักในการพัฒนาวงการฟุตบอลของจีน ควบคุมดูแลลีกในประเทศ ทีมชาติ แต่งตั้งถอดถอนผู้จัดการทีมชาติ ฯลฯ ส่วนบุคคลที่ดำรงตำแหน่ง ประธาน นั้นเป็นเพียงหัวขบวนสัญลักษณ์ที่ทำหน้าที่แค่ในงานพิธีอย่างเป็นทางการเท่านั้น ไม่ได้มีบทบาทชี้เป็นชี้ตายทิศทางของสมาคม
เซียะ หย่าหลง อดีตรองประธานสมาคมฟุตบอลจีน วัย 56 ปี ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2005 และอยู่ยาวถึงปี 2008 ถูกกล่าวหาว่า รับเงินใต้โต๊ะจำนวนประมาณ 200,000 ยูโร หรือประมาณ 8 ล้านบาท จากผู้บริหารบริษัทผลิตภัณฑ์กีฬา นายกี้ (Nike) เพื่อแลกกับการยอมให้ยี่ห้อนี้เป็นผู้สนับสนุนสมาคมฟุตบอลจีน นอกจากนั้น ยังมีกรณีรับเงินจากผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาจิมนาสติคยี่ห้อ อิมพั้ลส์ (Impulse) อีกด้วย
ไม่เพียงแต่ รองประธาน ผู้อื้อฉาวคนนี้ การกวาดล้างขบวนการทุจริตยังขยายวงไปถึงคนอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น หนานหยง (Nan Yong) คนที่เข้ามารับตำแหน่งต่อจาก เซียะ หย่าหลง ซึ่งมีข้อมูลว่า รายนี้รับเงินสถุนไป 180,000 ยูโร เหวย เฉ่าหุ้ย (Wei Shaohui) อดีตผู้จัดการทีมชาติจีน หลี่ ตงเฉิง (Li Dongsheng) อดีตประธานผู้ตัดสิน ก็มีชื่ออยู่ในบัญชีทุจริตในวงการฟุตบอล รวมทั้ง นักเตะใน ชายนีส ซุพเพ่อร์ ลีก อีก 4 คนที่โดนข้อหารับเงินจากการล้มบอลให้ทีมหนีตกชั้น
การสอบสวนดังกล่าวกำลังดำเนินไปด้วยความเด็ดขาด ชัดเจน โดยทาง สมาคมฟุตบอลจีน กำลังประสานความร่วมมือกับ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า และ ตำรวจสากล เพื่อกวาดล้างวงการให้สะอาดเสียที ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางการจีนบังคับให้หมอนี่สารภาพด้วยการช้อตไฟฟ้า ชกตามใบหน้า บังคับให้อดนอน ตีด้วยกระบองไฟฟ้า แล้วเอาเหน็บใต้รักแร้ รวมทั้งยัดเข้าไปในปาก
ในที่สุด เซียะ หย่าหลง ก็ยอมรับว่า ตนได้ทำการทุจริตจริง โดยให้เหตุผลหน้าตาเฉยว่า ก็การให้สินบนนั่นมันเป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติในประเทศจีนนี่นา แล้วถ้าตนดันปฏิเสธของกำนัล มันก็เป็นการดูถูกน้ำใจของผู้ให้ เป็นการทำลายความสัมพันธ์ ตัดคอนเนกชันที่มีต่อกัน
ผมว่า น่าชื่นชมจีน ตรงที่คิดจะทำอะไร มันเด็ดขาดชัดเจนดีจัง ทั้งหมดทั้งมวลนี่ก็คงรำคาญที่ตนเองเป็นชาติมหาอำนาจ แต่ฟุตบอลมันเห่ยมานานเหลือเกิน แล้วก็พบว่า ปัญหาคอร์รัปชันเป็นตัวการสำคัญ จึงจัดการให้เรียบร้อย นี่ยังมีผู้ต้องหารอคิวอีกเยอะครับ
