โรแบร์โต มันชินี กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี เผยยังไม่คิดถึงการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก แม้ทีมเพิ่งเฉือน “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมเมือง 1-0 ในเกมดาร์บีแมตช์ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 30 เม.ย.ระบุ ยังเหลือเกมหนักที่ต้องพยายามเก็บชัยชนะอีก 2 นัดก่อนจบฤดูกาล
แวงซองต์ กอมปานี กองหลังกัปตันทีมโหม่งประตูชัย 1-0 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกของเกมที่สนามอิติฮัด สเตเดียม ทำให้ แมนฯ ซิตี แซงหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของตารางแทน ด้วยประตูได้-เสียที่ดีกว่า กุมความได้เปรียบสำหรับโอกาสซิวแชมป์ลีกเมืองผู้ดีสมัยแรกนับแต่ปี 1968
อย่างไรก็ตาม มันชินี ยังพยายามลดความกดดันของลูกทีมด้วยการปฏิเสธ แมนฯ ซิตี การันตีการคว้าแชมป์แน่นอนแล้ว เพราะอาจเกิดสะดุดในเกม 2 นัดสุดท้ายที่จะบุกเยือน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 6 พ.ค.นี้ และ เจอ ควีนสปาร์ก เรนเจอร์ส ในเกมรูดม่านปิดฉากฤดูกาล
โดยกุนซือชาวอิตาเลียน กล่าวหลังจบเกมดาร์บีแมตช์ ว่า “เรามีความสุข ผมคิดว่า เราสมควรชนะเกมนี้ เรายิงประตูได้ เล่นดี และเกือบยิงประตูลูกที่สอง ผมไม่คิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสยิงประตูด้วยซ้ำ แต่มันเป็นเกมที่ยาก เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมชั้นยอดทีมหนึ่งซึ่งเรารู้ดี”
“แมนฯ ยูไนเต็ด มีเกม 2 นัดสุดท้ายที่ง่ายกว่า พวกเขาจะเล่นกับ สวอนซี และ ซันเดอร์แลนด์ ขณะที่เราเจอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ ควีนสปาร์ก เรนเจอร์ส ซึ่งเป็นสองทีมที่แข็งแกร่ง ตอนนี้การลุ้นแชมป์ยังไม่จบ ถ้าเราคิดว่ามันจบก็จะเป็นความผิดพลาดอย่างมาก” มันชินี กล่าว
ระหว่างเกมนัดชี้ชะตาเกิดเหตุการณ์ที่ มันชินี ปะทะคารมกับ เซอร์ อเลกซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด บริเวณข้างสนาม เนื่องจากทั้งสองคนเห็นไม่ตรงกันในจังหวะที่ ไนเจล เดอ ยอง มิดฟิลด์เจ้าถิ่น ทำฟาวล์หนักใส่ แดนนี เวลเบ็ก กองหน้าทีมเยือน
มันชินี ซึ่งหลังจบเกมจับมือกับ เซอร์ อเลกซ์ ตามปกติ ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า “ผมกำลังพูดอยู่กับผู้ตัดสินคนที่ 4 เขา (เฟอร์กูสัน) มาพูดอะไรบางอย่างกับผม และผมก็ตอบเขาไปก็แค่นั้น ผมเข้าใจดี เพราะตอนนั้นเกมค่อนข้างตึงเครียด”