ค่ายมวยชื่อดังในประเทศไทยเกือบ 40 ค่าย รวมตัวกันประชุมจัดตั้งกลุ่มผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกฎหมายมวย โดยมีชื่องานว่า “ผ่าทางตัน พ.ร.บ.มวย” เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้และบังคับใช้กฎหมายให้เกิคความยุติธรรม โดยมีกรณี บัวขาว กับ ค่าย ป.ประมุข เป็นกรณีศึกษา
เมื่อวันศุกร์ที่ 27 เมษายน 2555 ที่ห้องอาหาร 13 เหรียญ สาขาพระรามเก้า เวลา 13.00 น.มีการรวมตัวกันของกลุ่มผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพระราชราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 โดยมีหัวหน้าค่ายมวยชื่อดังในประเทศไทย เกือบ 40 ค่าย อาทิเช่น ค่าย ป.ประมุข, ค่ายแกแล็คซี่, ค่าย ส.เพลินจิต พร้อมด้วย โปรโมเตอร์ ผู้จัดการแข่งขัน นักมวย และบุคคลในวงการมวย เดินทางมาร่วมประชุม เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้และบังคับใช้กฎหมายให้เกิคความเป็นธรรม โดยมีกรณี บัวขาว กับ ค่าย ป.ประมุข เป็นกรณีศึกษา ในชื่องานว่า “ผ่าทางตัน พ.ร.บ.มวย” โดยมีตัวแทนจากทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มาร่วมรับฟังและจดบันทึก
ทางที่ประชุมได้แต่งตั้งให้ พ.ต.ต.ดร.เสวก ปิ่นสินชัย โปรโมเตอร์มวยชื่อดังดำรงตำแหน่งประธานในที่ประชุม มี นายสุกฤษฎิ์ แพรกรีฑาเวศน์ และ นายสุรัตน์ เสียงหล่อ เป็นรองประธาน ซึ่งมีหัวข้อสำคัญในการพิจารณา คือ 1.เรื่องสัญญากำหนดระยะเวลาการสังกัดค่ายของนักมวย 2.เรื่องการพักร่างกายของนักมวยในการขึ้นชกกำหนด 21 วัน และเรียกร้องให้ทาง กกท.ทำตามกฎระเบียบที่ตั้งไว้ ไม่ใช่ฝ่าฝืนกฎ
หลังการประชุม “บิ๊กเหวก” พ.ต.ต.ดร.เสวก ปิ่นสินชัย ได้กล่าวว่า “การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อระดมความเห็นจากค่ายมวยที่ประสบปัญหาจาก พ.ร.บ.มวย ปี 2542 โดยให้แต่ละคนเสนอปัญหาพร้อมแนวทางการแก้ไข และทำการลงคะแนนเสียงเพื่อหาข้อสรุป จากนั้นจึงจัดหาตัวแทนเพื่อยื่นเรื่องให้กับทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ โดยเรื่องดังกล่าวจะเป็นการขอแก้ไขระเบียบของคณะกรรมการกีฬามวย และ พ.ร.บ.กีฬามวยบางข้อ”
“โดยในวันนี้ทางที่ประชุมมีข้อสรุป คือ ในเรื่องกำหนดการพักร่างกายของนักมวยก่อนชกไฟต์ถัดไปนั้น จากเดิม 21 วัน อยากจะขอแก้ให้เหลือ 14 วัน โดยมีทางแพทย์รับรองว่า พร้อมขึ้นชก ส่วนในเรื่องสัญญาระหว่างค่ายมวยกับตัวนักมวยนั้น เสียงส่วนมากอยากจะขอให้ยกเลิกระเบียบที่กกท.กำหนดว่าจะต้องมีระยะเวลา 8 ปีออกไป” โปรโมเตอร์ชื่อดังกล่าว
ภาพโดย นายพลภัทร วรรณดี