xs
xsm
sm
md
lg

บุรีรัมย์ แมน มาร์คคิ่ง โซนอล มารค์คิ่ง / กษิติ กมลนาวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
 
หลังจาก เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2012 รอบแบ่งกลุ่ม เปิดฉากมา 2 นัด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ ไทยพรีเมียร์ ลีก โชว์ฟอร์มหรู เก็บ 6 คะแนนเต็มอย่างเหนือความคาดหมายของแฟนบอลชาวไทย แต่อีก 2 นัดถัดมา กลับแพ้รวด ทำให้ร่วงจากตำแหน่งจ่าฝูงลงมาอยู่ที่อันดับ 3 และโอกาสผ่านเข้ารอบ 16 ทีมแบบได้เปรียบด้วยการเป็นทีมเจ้าบ้านตอนนี้กลับกลายเป็นต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนอย่างแสนสาหัส เพื่อเอาแค่ผ่านเข้ารอบไปให้ได้

ผมว่า 2 นัดที่ ปราสาทสายฟ้า มอบ 6 แต้มให้ จนบุค เฮยินแด มอเต้อร์ส (Jeonbuk Hyundai Motors) นั่นเพราะการเสียประตูในแต่ละจังหวะกองหลังเผลอทั้งสิ้น มัวแต่มองลูกบอล ไม่ได้มองขุนพลของฝ่ายตรงข้าม ต่อไปคงต้องย้ำเตือนสมาธิในการตั้งรับ และใช้ระบบ แมน-ทู-แมน มาร์คคิ่ง (Man-to-man marking) กับ โซนอล มาร์คคิ่ง (zonal marking) ให้มากขึ้น ไม่ใช่ปล่อยให้คู่ต่อสู้ยืนอย่างอิสระ ไร้ตัวประกบ

ระบบ แมน มาร์คคิ่ง นี้คือ ยุทธวิธีในการตั้งรับที่ผู้เล่นกองหลังได้รับมอบหมายให้ประกบติดผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเป็นรายตัว มากกว่าจะมัวพะวงพื้นที่ประจำตำแหน่งของตน แบ็กจอมประกบระดับโลกในสมัยก่อนก็ต้องนึกไปถึงบทบาทของ เกลาดิโอ เจนตีเล (Claudio Gentile) กองหลังทีมชาติอิตาลี ที่จับตาย ดิเอโก มาราโดนา (Diego Maradona) ในฟุตบอลโลก 1982 ซึ่งในปีนั้น เสือเตี้ย ไม่สามารถคายพิษสงออกมาได้ดังใจ และ อิตาลี กรุยทางไปถึงแชมป์โลกด้วย

ส่วน โซนอล มาร์คคิ่ง นั้น ผู้เล่นยืนประจำตำแหน่ง คุมพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละคนอย่างเหนียวแน่น ใครเข้ามาในโซนก็ต้องประกบติด อย่าให้มีโอกาสเล่นหรือทำเกม แล้วถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามคนนั้นเคลื่อนที่ไปในโซนอื่น ก็เป็นหน้าที่ของเพื่อนร่วมทีมที่มีหน้าที่คุมโซนนั้นบ้างที่จะต้องจับตายหมอนี่ให้ได้

ในปัจจุบัน มีการผสมผสานทั้ง 2 ระบบเข้าด้วยกัน ซึ่งเขาจะเลือกใช้ในเวลาที่เหมาะสม แล้วเมื่อหันกลับมาดูประตูที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องสังเวยให้ฝ่ายตรงข้าม 4 เกม รวม 8 ประตู ส่วนมากมักจะเป็นการเสียแบบง่ายๆ ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามยืนอยู่โล่งๆ ซึ่งในเรื่องของฟุตบอลนั้น โอกาสดังกล่าวถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่มีทีมใดอยากจะมอบให้กันง่ายๆ แม้แต่ครั้งเดียว

พูดถึงอีก 2 นัดที่เหลือ ยากที่สุดก็ต้องนัดไปเยือน คาชิวะ เรย์โซล ที่ ฮิตาชิ คาชิวะ ซอคเกอร์ สเตเดียม ใน คาชิวะ ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ หากไปคว้าชัยชนะ เก็บ 3 แต้มกลับมา โอกาสเข้ารอบในฐานะจ่าฝูงก็สดใส เพราะในรอบน็อกเอาต์ 16 ทีม จะมีแข่งเพียงนัดเดียว โดยให้ทีมจ่าฝูงเป็นเจ้าบ้าน ส่วนทีมอันดับ 2 ต้องไปเยือน แม้คว้าเพียงคะแนนเดียวกลับบ้านก็ยังได้ลุ้นเอาชนะ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ ที่ บุรีรัมย์ บ้านของตนเอง ดังนั้น ผลเสมอกับ คาชิวะ นั้น ทำให้ บุรีรัมย์ จะมีโอกาสมากที่จะผ่านเข้ารอบ แต่จะเป็นจ่าฝูงหรือไม่ ยังต้องดูนัดสุดท้าย

ส่วนการกลับมามือเปล่า แม้ บุรีรัมย์ ยังไม่ตกรอบสนิท แต่นอกจากจะต้องเอาชนะในนัดสุดท้ายแล้ว ยังไม่เพียงพอ ต้องรอดูผลของอีกคู่ด้วย เรียกว่า ชะตาชีวิตของตนเองต้องฝากไว้กับส้นเท้าของคนอื่น ดังนั้น ไปญี่ปุ่นคราวนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ควรแก้ไขปัญหากองหลังให้มีสติ มีสมาธิ ใช้ระบบ แมน-ทู-แมน มาร์คคิ่ง และ โซนอล มาร์คคิ่ง ให้เหนียวแน่นกว่าเดิมน่าจะดีที่สุด

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการฟุตบอลไทย เรื่องความชัดเจน โปร่งใสเรื่องเงินๆ ทองๆ จากการบริหารงานของ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด จนกลายเป็นประเด็นถกกันอย่างเผ็ดร้อน กระทบผู้เกี่ยวข้องถึงกับร้อนตัวออกมาแถลงและประกาศถอนตัวออกไปนั้น ผมว่า อันนี้ บุรีรัมย์ แค่ โซนอล มาร์คคิ่ง เท่านั้น คือ ตรวจสอบทั่วๆ ไป ยังไม่ได้ใช้ระบบ แมน มาร์คคิ่ง นะครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น