xs
xsm
sm
md
lg

“มูรินโญ” บลูปรินท์ ชี้ช่องเชลซีสยบบาร์ซา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เป๊ป-ดิ มัตเตโอ” วัดกึ๋นอีกรอบ
ต้องใช้ความพยายามถึง 4 ปีกว่าที่ โชเซ มูรินโญ จะสยบ บาร์เซโลนา ลงได้ในศึกลา ลีกา สเปน นอกจากนำ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด เขยิบใกล้แชมป์ลีกแดนกระทิงดุ ดูเหมือน “เดอะ สเปเชียล วัน” ได้หยิบยื่นพิมพ์เขียวกลายๆ ให้ เชลซี ต้นสังกัดเก่าสำหรับการต่อกร “เจ้าบุญทุ่ม” สโมสรที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดในโลก กับ ศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบตัดเชือกนัดสองที่คัมป์ นู คืนวันอังคารที่ 24 เมษายน 2555

เก็บชัยชนะมาได้ 1-0 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อสัปดาห์ก่อน ทว่า โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ กุนซือขัดตาทัพ “สิงห์บลู” ยอมรับไม่สามารถไว้วางใจได้เลยว่าทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะตีตั๋วเข้าสู่รอบชิงจ้าวยุโรป ที่ อัลลิอันซ์ อารีนา นครมิวนิค ประเทศเยอรมนี วันที่ 19 พฤษภาคม ในเมื่อต้องมีคิวเยือนคัมป์ นู สังเวียนซึ่งยากที่คู่ต่อกรจะบุกมาทำอะไรได้ตามอำเภอใจ แต่ รีล มาดริด แสดงบางอย่างให้เห็นใน “เอล กลาสิโก” ยัดเยียดความปราชัยคาบ้านหนแรกให้ บาร์เซโลนา ในรอบ 54 นัดหลังสุด

ย้อนกลับไปรอบรองแชมเปียนส์ ลีก นัดแรก บาร์เซโลนา ครองบอลคิดเป็นถึง 79 เปอร์เซ็นต์ สร้างโอกาสทำประตู 24 หน ยิงเข้ากรอบให้ ปีเตอร์ เช็ก ต้องเซฟ 6 ครั้ง แต่ส่งลูกหนังซุกก้นตาข่ายไม่ได้ ส่วนเกมเจอ รีล มาดริด ลูกทีมของ “เป๊ป” ครองบอล 73 เปอร์เซ็นต์ ผ่านบอลเหนือกว่าถึง 616 ต่อ 174 ครั้ง ทว่า สิ่งที่ มูรินโญ แสดงให้เห็น คือ แทกติกอันยอดเยี่ยม สูตร 6-3-1 เมื่อต้องตั้งรับในแดนตัวเองให้โอกาสบาร์ซาได้ยิง 14 หนก็จริง อย่างไรก็ตาม มีเพียง 3 ครั้งที่ อีเคร์ คาซิยาส ต้องออกแรง ขณะเดียวกัน “ราชันชุดขาว” ยังสวนกลับได้อย่างเห็นผล มีโอกาสซัดเท่าเทียม เข้ากรอบ 6 หน แปรเปลี่ยนเป็น 2 ประตู ดังนั้น ดิ มัตเตโอ สามารถนำเอา “บลูปรินท์” ที่ มูรินโญ ฝากไว้มาใช้ได้อย่างไม่ต้องเขินอาย

คาดว่า ดิ มัตเตโอ จะกลับมาใช้ 11 ผู้เล่นตัวจริงเหมือนเกมแรก หลังเปลี่ยนถึง 8 รายนัดบุกยัน “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล 0-0 ศึกพรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เช็ก ยังเฝ้าเสาเหนียวหนึบ เกมรับ แกรี เคฮิลล์ เข้าคู่ จอห์น เทอร์รี ได้ดี บรานิสลาฟ อิวาโนวิช และ แอชลีย์ โคล กลับประจำการแบ็กขวาซ้าย แผงมิดฟิลด์ แฟรงค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล และ ราอูล เมยเรเลส อาศัยลูกสดไล่ตัดเกมเหมือนเดิม ปล่อยให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา อาศัยความแกร่งพักบอลแดนหน้า หาจังหวะเรียกฟาวล์ถี่เพื่อถ่วงเวลา ด้าน ฆวน มาตา ใช้ความเร็วเป็นตัวช่วยคอยสวนกลับ ขณะที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ซึ่งส่องบาร์ซาได้ถึง 7 ประตู สมัยเล่นให้ แอตเลติโก มาดริด เป็นทีเด็ดอยู่ข้างสนาม

ส่วน บาร์เซโลนา มีความเป็นไปได้ที่ กวาร์ดิโอลา จะปรับแทกติกมาเล่นหลัง 3 ตัว เคราร์ด ปิเก สลัดอาการบาดเจ็บต้นขากลับมาผนึกกำลัง คาร์เลส ปูโยล และ ฮาเวียร์ มาสเชราโน ขณะที่ ดาเนียล อัลเวส แบ็กขวาจอมบุกดันขึ้นสูงช่วยแดนกลาง เซร์กี บุสเกตส์, เชส ฟาเบรกาส, ชาบี เอร์นานเดซ ส่วน อันเดรส อิเนียสตา จะประสานแนวรุกร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี และ อเล็กซิส ซานเชซ ด้านดาวรุ่งอย่าง ไอแซค คูเอนกา, คริสเตียน เตโญ หรือว่า เปโดร โรดริเกซ คอยโอกาสลงมาเปลี่ยนเกม

โดยการเจอกันรอบรองชนะเลิศเมื่อปี 2009 เชลซี เคยบุกเจ๊า 0-0 ถึงคัมป์ นู ขยับใกล้โอกาสเข้าชิง เมื่อ มิคาเอล เอสเซียง ซัดให้ทีมดังแห่งลอนดอนนำแต่หัววัน แต่งานเลี้ยงมีอันต้องเก็บฉาก อิเนียสตา ซัดทดเจ็บเป็นอเวย์โกล ส่ง บาร์เซโลนา เข้าถึงรอบชิงก่อนสอนเชิง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งทีมจากอังกฤษลงได้ แต่ชั่วโมงนี้ “เจ้าบุญทุ่ม” อยู่ในภาวะกดดันตัวเอง ไม่สามารถปล่อยให้ถ้วยยุโรปหลุดมือไปได้ ขณะที่ “สิงห์บลู” โมเมนตัมกำลังมา 9 นัดหลังสุดไร้พ่าย และปราชัยเพียง 3 จาก 18 เกม ภายใต้การดูแลของ ดิ มัตเตโอ ดูเหมือนทุกความมุ่งมั่นหันเหมาที่ แชมเปียนส์ ลีก เต็มตัว ดังนั้น โอกาสที่เชลซีจะหลุดเข้าไปลุ้นครองจ้าวยุโรปสมัยแรกมีไม่น้อยทีเดียว
“เมสซี” ความหวังบาร์ซา
“ดร็อกบา” ฮีโร่สิงห์บลูส์ ?
พิมพ์เขียว “มูรินโญ” ได้ผล
กำลังโหลดความคิดเห็น