“ดำดอตคอม” บัวขาว ป.ประมุข ยอมหักไม่ยอมงอ ขึ้นเวทีทำศึกมวยไทยไฟต์ 2012 ณ แหลมบาลีฮาย พัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ 17 เมษายน 2555 ระดมสาดหมัดแข้งชนะน็อก “หมีพันธุ์ดุ” รัสเทม ซาริโพว์ จากรัสเซียในยกที่สอง ประกาศศักดาต่อหน้าแฟนหมัดมวยนับหมื่น
เป็นประเด็นคาใจคอหมัดมวยมานานถึงโอกาสที่ สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว ป.ประมุข ขวัญใจชาวไทยจะสามารถขึ้นชกในศึกไทยไฟต์ประจำปี 2012 ได้หรือไม่ ในวันที่ 17 เม.ย.เหตุจากต้นสังกัดไม่อนุญาตให้ขึ้นสังเวียนผ้าใบ โดย บัวขาว ต้องยื่นเรื่องต่อนายทะเบียน คณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พิจารณาให้มีผลเปลี่ยนชื่อก่อนขึ้นชก มิเช่นนั้น “ป.ประมุข” พร้อมดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมาย
แต่ล่าสุด บัวขาว ตัดสินใจสวมนวมใส่กระจับขึ้นชกเป็นคู่ที่ 4 ในรุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวท 70 กิโลกรัม พบกับ รัสเทม ซาริโพว์ ซึ่งตอนแรกตามโปรแกรมนักชกจากแดนหมีขาวมีคิวดวลกำปั้น ไทรโยค พุ่มพันธ์ม่วง แต่ตามพระราชบัญญัติ “พ.ร.บ.” กีฬามวย พ.ศ.2542 ระบุไว้ว่านักชกจะขึ้นไฟต์ต่อไปได้ก็ต่อเมื่อได้พักเกิน 21 วันไปแล้ว ดังนั้น บัวขาว จึงสร้างความประหลาดใจขึ้นตะบันแทน ซึ่งการชกปรากฏว่า “ดำดอตคอม” วัย 29 ปี อาศัยเชิงมวยและความหนักหน่วงที่เหนือกว่าไล่ขยี้จนน็อก “หมีพันธุ์ดุ” ลงได้ในปลายยกที่สอง
ซึ่งภายหลังการแข่งขัน บัวขาว เปิดใจทั้งน้ำตาบนเวทีว่า “ตอนแรกผมนึกว่าจะไม่ได้ขึ้นชกแล้ว เนื่องจากมีปัญหาหลายประการอย่างที่ทราบกัน แต่ครั้งนี้ผมมีความตั้งใจมาก ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งค่ายเก่า (ป.ประมุข) หรือฝ่ายจัดการแข่งขันไทยไฟต์ ย่อมรู้ถึงความตั้งใจของผม ที่ผ่านมา ผมตั้งใจซ้อม ผมอยากแข่ง เพราะเป็นแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว ที่สำคัญ ผมไม่ได้ขึ้นสังเวียนเพื่อตัวเอง แต่เพื่อประเทศชาติ เพื่อชาวจังหวัดสุรินทร์ วันนี้คุณพ่อและญาติพี่น้องก็ตามมาเชียร์ถึงที่นี่ ผมจึงไม่สามารถทิ้งความฝันได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากพรุ่งนี้ผมต้องติดคุกก็ยอม” จากนั้น บัวขาว ก็ก้มลงกราบที่เท้าของคุณพ่อเล็ง วัย 62 ปี เรียกเสียงเชียร์จากญาติพี่น้องบ้านสองหนอง อำเภอสำโรงทาบ ที่ตามมาให้กำลังใจ รวมถึงคอหมัดมวยได้อย่างล้นหลาม
ด้าน “จ่าทุย” พันจ่าอากาศเอก อรรถพงษ์ อำอนันต์ โปรโมเตอร์ผู้จัดศึกไทยไฟต์ กล่าวกับทีมข่าว MGR Sport ที่ไปเกาะขอบเวที ว่า “การปล่อยให้ บัวขาว ขึ้นชก ผมมีสิทธิ์โดน กกท.สั่งยึดใบอนุญาต 6 เดือน เพราะผิดกฎที่ บัวขาว ไม่มีรายชื่อในโผขึ้นสังเวียน ตรงนี้ผมพร้อมยอมรับ ส่วนที่ค่าย ป.ประมุข จะฟ้องหรือไม่ ผมก็พร้อมสู้ทางกฎหมาย เนื่องจากตอนขอให้ บัวขาว มาต่อยไทยไฟต์ 2012 ยังไม่มีปัญหา แต่เมื่อนักมวยมีปัญหากับค่าย กลายเป็นว่า ไม่อนุญาตให้ต่อย บอกตามตรงผมเสียหายเช่นกัน เพราะอย่าลืมว่าบอกกล่าวกับบรรดาสปอนเซอร์ไปแล้ว”
นอกจากนี้ ทีมข่าว MGR Sport พยายามสอบถามไปทางฟาก นายธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ บุตรชาย “กำนันแก๊” ประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่าย ป.ประมุข ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแล บัวขาว ปรากฏว่า “เสี่ยอุ” ไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ ขณะที่ นายวิวรรธน์ แสงสุริยฉัตร ทนายความค่าย ป.ประมุข ไม่สามารถติดต่อได้เนื่องจากปิดโทรศัพท์
ส่วนผลไทยไฟต์คู่อื่นๆ ที่น่าสนใจ “ซ้ายดับวิญญาณ” สิงห์มณี แก้วสัมฤทธิ์ เป็นตัวแทนนักชกไทยไปต่อยในรุ่นเวลเตอร์เวท 67 กก.ศึกไทยไฟต์รอบสุดท้ายวันที่ 16 ธันวาคม ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ต่อไป พร้อมรับเงินรางวัลอีก 3 แสนบาท จาก อีซูซุ สปอนเซอร์ค่ายรถยนต์เจ้าใหญ่ เมื่อเอาชนะคะแนน “ขุนศอกอเวจี” สุดสาคร ส.กลิ่นมี ไปได้
ขณะที่คู่ประกอบรายการ เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง โชว์ฝีมือสมดีกรีแชมป์ไทยไฟต์ 2011 รุ่นเวลเตอร์เวท แจกศอกจามไม่ยั้ง ทำให้ มิเชล คอร์นูเบต จากฝรั่งเศส มีแผลแตกบริเวณหว่างคิว เมื่อแพทย์สนามเข้ามาดูอาการไม่อนุญาตให้ชกต่อ ทำให้กรรมการชูมือให้ เข้ม ชนะเทคนิเคิล น็อกเอาต์ (TKO) ไปในที่สุด ด้าน ท็อปคิงส์ บ๊อกซิ่ง อีกหนึ่งกำปั้นไทยต่อยโชว์ 2 ยก ประเดิมชนะคะแนน มัลกี แชซ จากสหรัฐอเมริกา ไปได้ตามคาด
หมายเหตุ : ภาพโดย ธัชกร กิจไชยภณ
เป็นประเด็นคาใจคอหมัดมวยมานานถึงโอกาสที่ สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว ป.ประมุข ขวัญใจชาวไทยจะสามารถขึ้นชกในศึกไทยไฟต์ประจำปี 2012 ได้หรือไม่ ในวันที่ 17 เม.ย.เหตุจากต้นสังกัดไม่อนุญาตให้ขึ้นสังเวียนผ้าใบ โดย บัวขาว ต้องยื่นเรื่องต่อนายทะเบียน คณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พิจารณาให้มีผลเปลี่ยนชื่อก่อนขึ้นชก มิเช่นนั้น “ป.ประมุข” พร้อมดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมาย
แต่ล่าสุด บัวขาว ตัดสินใจสวมนวมใส่กระจับขึ้นชกเป็นคู่ที่ 4 ในรุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวท 70 กิโลกรัม พบกับ รัสเทม ซาริโพว์ ซึ่งตอนแรกตามโปรแกรมนักชกจากแดนหมีขาวมีคิวดวลกำปั้น ไทรโยค พุ่มพันธ์ม่วง แต่ตามพระราชบัญญัติ “พ.ร.บ.” กีฬามวย พ.ศ.2542 ระบุไว้ว่านักชกจะขึ้นไฟต์ต่อไปได้ก็ต่อเมื่อได้พักเกิน 21 วันไปแล้ว ดังนั้น บัวขาว จึงสร้างความประหลาดใจขึ้นตะบันแทน ซึ่งการชกปรากฏว่า “ดำดอตคอม” วัย 29 ปี อาศัยเชิงมวยและความหนักหน่วงที่เหนือกว่าไล่ขยี้จนน็อก “หมีพันธุ์ดุ” ลงได้ในปลายยกที่สอง
ซึ่งภายหลังการแข่งขัน บัวขาว เปิดใจทั้งน้ำตาบนเวทีว่า “ตอนแรกผมนึกว่าจะไม่ได้ขึ้นชกแล้ว เนื่องจากมีปัญหาหลายประการอย่างที่ทราบกัน แต่ครั้งนี้ผมมีความตั้งใจมาก ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งค่ายเก่า (ป.ประมุข) หรือฝ่ายจัดการแข่งขันไทยไฟต์ ย่อมรู้ถึงความตั้งใจของผม ที่ผ่านมา ผมตั้งใจซ้อม ผมอยากแข่ง เพราะเป็นแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว ที่สำคัญ ผมไม่ได้ขึ้นสังเวียนเพื่อตัวเอง แต่เพื่อประเทศชาติ เพื่อชาวจังหวัดสุรินทร์ วันนี้คุณพ่อและญาติพี่น้องก็ตามมาเชียร์ถึงที่นี่ ผมจึงไม่สามารถทิ้งความฝันได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากพรุ่งนี้ผมต้องติดคุกก็ยอม” จากนั้น บัวขาว ก็ก้มลงกราบที่เท้าของคุณพ่อเล็ง วัย 62 ปี เรียกเสียงเชียร์จากญาติพี่น้องบ้านสองหนอง อำเภอสำโรงทาบ ที่ตามมาให้กำลังใจ รวมถึงคอหมัดมวยได้อย่างล้นหลาม
ด้าน “จ่าทุย” พันจ่าอากาศเอก อรรถพงษ์ อำอนันต์ โปรโมเตอร์ผู้จัดศึกไทยไฟต์ กล่าวกับทีมข่าว MGR Sport ที่ไปเกาะขอบเวที ว่า “การปล่อยให้ บัวขาว ขึ้นชก ผมมีสิทธิ์โดน กกท.สั่งยึดใบอนุญาต 6 เดือน เพราะผิดกฎที่ บัวขาว ไม่มีรายชื่อในโผขึ้นสังเวียน ตรงนี้ผมพร้อมยอมรับ ส่วนที่ค่าย ป.ประมุข จะฟ้องหรือไม่ ผมก็พร้อมสู้ทางกฎหมาย เนื่องจากตอนขอให้ บัวขาว มาต่อยไทยไฟต์ 2012 ยังไม่มีปัญหา แต่เมื่อนักมวยมีปัญหากับค่าย กลายเป็นว่า ไม่อนุญาตให้ต่อย บอกตามตรงผมเสียหายเช่นกัน เพราะอย่าลืมว่าบอกกล่าวกับบรรดาสปอนเซอร์ไปแล้ว”
นอกจากนี้ ทีมข่าว MGR Sport พยายามสอบถามไปทางฟาก นายธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ บุตรชาย “กำนันแก๊” ประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่าย ป.ประมุข ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแล บัวขาว ปรากฏว่า “เสี่ยอุ” ไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ ขณะที่ นายวิวรรธน์ แสงสุริยฉัตร ทนายความค่าย ป.ประมุข ไม่สามารถติดต่อได้เนื่องจากปิดโทรศัพท์
ส่วนผลไทยไฟต์คู่อื่นๆ ที่น่าสนใจ “ซ้ายดับวิญญาณ” สิงห์มณี แก้วสัมฤทธิ์ เป็นตัวแทนนักชกไทยไปต่อยในรุ่นเวลเตอร์เวท 67 กก.ศึกไทยไฟต์รอบสุดท้ายวันที่ 16 ธันวาคม ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ต่อไป พร้อมรับเงินรางวัลอีก 3 แสนบาท จาก อีซูซุ สปอนเซอร์ค่ายรถยนต์เจ้าใหญ่ เมื่อเอาชนะคะแนน “ขุนศอกอเวจี” สุดสาคร ส.กลิ่นมี ไปได้
ขณะที่คู่ประกอบรายการ เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง โชว์ฝีมือสมดีกรีแชมป์ไทยไฟต์ 2011 รุ่นเวลเตอร์เวท แจกศอกจามไม่ยั้ง ทำให้ มิเชล คอร์นูเบต จากฝรั่งเศส มีแผลแตกบริเวณหว่างคิว เมื่อแพทย์สนามเข้ามาดูอาการไม่อนุญาตให้ชกต่อ ทำให้กรรมการชูมือให้ เข้ม ชนะเทคนิเคิล น็อกเอาต์ (TKO) ไปในที่สุด ด้าน ท็อปคิงส์ บ๊อกซิ่ง อีกหนึ่งกำปั้นไทยต่อยโชว์ 2 ยก ประเดิมชนะคะแนน มัลกี แชซ จากสหรัฐอเมริกา ไปได้ตามคาด
หมายเหตุ : ภาพโดย ธัชกร กิจไชยภณ
