“บัวขาว” อุบชื่อบู๊ไทยไฟต์ โต้มีบ่างยุหัก “ป.ประมุข”

ASTV ผู้จัดการรายวัน – สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ “บัวขาว ป.ประมุข” นักมวยไทยเงินล้าน ออกมาปรากฏตัวอีกครั้งในงานแถลงข่าวไทยไฟต์ 2012 โดยยืนยันว่า ขึ้นชกแน่นอน แต่จะใช้ชื่อเดิมหรือไม่ ให้รอลุ้นในวันที่ 17 เมษายนนี้ พร้อมทั้งปฏิเสธ ว่า ไม่มีมือที่สามคอยยุให้แตกหักกับค่าย ป.ประมุข ส่วนกรณีปัญหายกให้ผู้ใหญ่จัดการ

เมื่อวันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ.2555 เวลา 14.30 น.มีงานแถลงข่าวการแข่งขันมวยไทยไฟต์ ครั้งที่ 3 ที่ห้องอินฟินิตี้ โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ กรุงเทพฯ โดยศึกไทยไฟต์ 2012 จะมีขึ้นที่แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ในวันที่ 17 เมษายนนี้ โดยใช้ชื่องานว่า “ไทยไฟต์ ไทยคัลเจอร์” ภายใต้แนวคิด “มวยไทย อาหารไทย วัฒนธรรมไทย” ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนในการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น

สำหรับนักชกที่เข้าร่วม ประกอบด้วย เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง, สุดสาคร ส.กลิ่นมี, สิงห์มณี แก้วสัมฤทธิ์ รวมทั้ง สมบัติ บัญชาเมฆ หรือที่รู้จักในนาม “บัวขาว ป.ประมุข” ซึ่งถูกประกบคู่แข่งขันแมตช์แรกพบกับ มิชาเอล กอร์นูเบต์ จากฝรั่งเศส ในรุ่น 70 กิโลกรัม ด้าน บัวขาว มาร่วมงานโดยมีบอดี้การ์ด 5-6 คน คอยคุ้มกันอย่างใกล้ชิดก่อนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพียง 5-7 นาที จากนั้นจึงขึ้นรถตู้เพื่อนั่งเครื่องบินกลับไปซ้อมที่บ้านเกิด จ.สุรินทร์

ทั้งนี้ บัวขาว เปิดปากคุยกับสื่อที่มากันคับคั่ง ว่า “ผมไม่ขอพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ให้ผู้ใหญ่เป็นคนจัดการกันดีกว่า ส่วนชื่อที่จะขึ้นชกคงยึดชื่อหน้า ว่า บัวขาว แต่ชื่อหลังจะเป็นอย่างไรให้ติดตามในวันจริง เรื่องสภาพจิตใจของผมไม่มีปัญหา เพราะแยกเรื่องส่วนตัวกับการชกออกจากกันได้ ตอนนี้ขอซ้อมที่สุรินทร์ เนื่องจากอยู่กับครอบครัวแล้วสบายใจกว่า ขณะที่เรื่องมือที่สามคอยยุให้แตกหักกับค่าย ป.ประมุข ไม่มีแน่นอน มีเพียงแค่พ่อแม่และคนทางบ้านที่เป็นห่วงว่าถ้าร่างกายไม่ไหวก็ให้ออกมา สำหรับค่ายมวยบัญชาเมฆที่ผมก่อตั้งยังไม่ได้จดทะเบียน แต่การชกไทยไฟต์ปีนี้ผมพร้อมทำเต็มที่เพื่อแฟนมวยไทย และขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เสมอมา”

ด้าน นพพร วาทิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สปอร์ต อาร์ต จำกัด ผู้จัดศึกไทยไฟต์ กล่าวเสริมเรื่องบัวบาวว่า “ถึงอย่างไรเขาก็ต้องขึ้นชกในชื่อ บัวขาว ป.ประมุข เนื่องจากยังมีสัญญากับค่าย ป.ประมุข อยู่ แต่ทางที่ดีผมอยากให้กำนันแก๊ (ประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่าย ป.ประมุข) มาจับเข่าคุยกัน เพื่อเปิดโอกาสให้กับบัวขาว ซึ่งบางทีอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีของเรื่องนี้ก็ได้ และผมก็ไม่อยากให้ต่างฝ่ายต่างออกมาให้ร้ายกันเองอีก”