คอลัมน์ “The Golf Touch” โดย “วันปีย์ สัจจมาร์ค”
สัปดาห์ที่ผ่านมา เราก็มีโอกาสได้เห็นน้ำตาลูกผู้ชาย (อีกครั้ง) จากนักกอล์ฟที่ถือว่าเป็นสีสันในวงการอย่าง บับบา วัตสัน นักกอล์ฟมือซ้ายที่ทุกคนจะต้องสะดุดตาในเรื่องระยะ พอๆ กับสีสันอันเจ็บแสบของไม้กอล์ฟของเขา
แชมป์ PGA TOUR 4 รายการคนนี้ ถือว่าเป็นนักกอล์ฟที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ที่สูงมาก เพราะถ้าเทียบเวลาที่ทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมกับนักกอล์ฟอาชีพคนอื่นๆ แล้ว คงจะถูกทิ้งไม่เห็นฝุ่น เขามักทำอะไรตามอารมณ์ ณ ขณะนั้นของตนเองเสมอ ถ้าให้เห็นภาพชัดๆ ลองนึกเปรียบเทียบกับ มาริโอ บาโลเตลลี่ ในวงการฟุตบอลดูได้เลย บับบา จะเป็นประเภทรู้สึกอยากซ้อมเมื่อไหร่ค่อยซ้อม บางทีขณะแข่งขัน ถ้าเริ่มตีพลาดหลายๆ ช็อตเข้า วันนั้นก็ตีทิ้งเลยก็มี(เดินมาจรดแล้วตีแบบไม่มีรูทีน) แต่มาถึงวันนี้พรสวรรค์นั้นได้บรรดาลฝันระดับเมเจอร์ของเขาให้เป็นจริงได้สำเร็จแล้ว
ในอดีตนั้นมีนักกอล์ฟผู้ยิ่งใหญ่ ที่ถือว่า “ฝีมือเยี่ยมเปี่ยมพรสวรรค์” อยู่มากมาย แต่ทว่า แจ็กเกตสีเขียวตัวนี้ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสได้ครอบครอง เพราะไม่ว่าจะเก่งมาจากไหนของมุมโลก ก็ใช่ว่าจะได้มาสวมใส่กันได้โดยง่าย เราลองมาดูกันว่าในอดีตที่ผ่านมามีใครกันบ้างที่ดูแล้วน่าจะได้…แต่ไม่ได้ ซึ่งแต่ละชื่อก็คุ้นหูสะดุดตากันทั้งนั้น
อันดับที่10 David Love III แม้จะเป็นแชมป์ PGA TOUR ถึง 20 รายการ กับ 1 เมเจอร์ PGA Championship เขาติด TopTen 6 ครั้งและทำได้ดีที่สุดเพียงอันดับ 2 ถึง 2 ครั้ง ซึ่งในปี 1995 เขาแพ้ให้กับ Ben Crenshaw ไปเพียงสโตรกเดียว
อันดับที่ 9 Tom Weiskopf เป็นแชมป์ The Open ปี 1973 รวมถึง PGA TOUR อีก 16 รายการ ในรายการนี้เขาเป็นผู้ได้อันดับที่ 2 มากถึง 4 ครั้ง แต่ไม่เคยได้แชมป์
อันดับที่ 8 David Duval เจ้าของตำแหน่งมือหนึ่งของโลก 15 สัปดาห์ โดยระหว่างปี 1997-2001 เขาได้แชมป์ PGA TOUR ไปทั้งสิ้น 13 รายการ รวมทั้งแชมป์ The Player Championship ปี99 และ THE OPEN ในปี 2001 เป็นไฮไลต์ แต่ในรายการนี้เขาไม่เคยได้แชมป์ แต่ก็ป้วนเปี้ยนอยู่ใน Top 6 ถึง 4 ปีติดต่อกัน (1998-2001)
อันดับที่ 7 Tom Kite เป็นผู้เล่นที่ได้ชื่อว่ามีฝีมือแบบปอนด์ต่อปอนด์ดีที่สุดตลอดกาลด้วยน้ำหนักตัว 155 ปอนด์ กับแชมป์ PGA TOUR 19 รายการพ่วงด้วย 1 เมเจอร์จาก U.S. OPEN ปี 1992 น่าเสียดายที่ในเดอะมาสเตอร์สโอกาสที่ดีที่สุดของเขาในปี 1986 นั้น เขาถูกความเก๋าของ แจ๊ค นิคลอส ในวัย 46 ปีทิ้งทวนคว้าแชมป์ไปครอง
อันดับที่ 6 Ernie Els แม้ว่าเขาเคยได้ที่ 2 มาถึงสองครั้งในปี 2000, 2004 แต่ปีนี้ Els ไม่ได้แม้โอกาสที่จะร่วมแข่ง โดยพลาดการเข้าร่วมแข่งขันเดอะมาสเตอร์สครั้งแรกในรอบ 18 ปี เขาคงต้องปลอบใจตัวเองในหอเกียรติยศด้วยแชมป์ 60 รายการทั่วโลก กับอีก 3 เมเจอร์ ไปก่อนจนกว่าจะกลับมาลุ้นใหม่ในปีหน้า
อันดับที่ 5 Nick Price อดีตมือ 1 ของโลกและแชมป์ทำเงินรางวัลสูงสุดของ USPGA 2 ปีติดต่อกัน (1994-1995) และตำแหน่งแชมป์มากกว่า 50 รายการทั่วโลกแล้ว รวมทั้ง 3 เมเจอร์ แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ถือสถิติ 18 หลุมที่ดีที่สุดของเดอะมาสเตอร์สที่ 9 อันเดอร์พาร์ แต่เขาก็ไม่เคยได้ดีไปกว่าอันดับที่ 5 ในรายการนี้เลย
อันดับที่ 4 Hale Irwin อดีตแชมป์ PGA TOUR 20 รายการ และ 3 U.S.OPEN ผลงานสม่ำเสมอมาก เพราะไม่เคยหลุดจาก 10 คนแรกในอันดับทำเงินรางวัลเลยตั้งแต่ 1973-1978 แต่ในเดอะมาสเตอร์ส กลับทำได้ดีที่สุดแค่ที่ 4 ร่วม
อันดับที่ 3 Johny Miller นักกอล์ฟจอมบู๊ ฝีปากคม และตีเหล็กได้อย่างคมกริบไม่แพ้ใครบนโลก ในปี 1974เขาได้คว้าแชมป์ PGA TOUR ไปถึง 8 รายการในปีเดียว ในเดอะมาสเตอร์เขาเคยลุ้นและเป็นรองแชมป์ถึง 3สมัย ก่อนที่อาการบาดเจ็บจะบังคับให้เขาเกษียรจากการแข่งขัน โดยที่ตู้เสื้อผ้าเขาก็ปราศจากแจ็กเกตสีเขียวอยู่ดี
อันดับที่ 2 Greg Norman ก่อนจะมีนักกอล์ฟชื่อ Tiger Woods นั้น Greg คือคนที่ครองตำแหน่งหมายเลข 1 ของโลกได้นานที่สุด ดูแล้วเป็นคนที่หยิบจับอะไรก็ประสบความสำเร็จไปซะทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสนามกอล์ฟ หรือแบรนด์เสื้อผ้าที่เป็นของตัวเอง และยังสามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 68 รายการรอบโลก แถมยังประดับโดยแชมป์THE OPEN อีก 2 สมัย แต่สิ่งที่ยังไม่เคยประสบความสำเร็จเลย คือ ชัยชนะรายการใหญ่บนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา โดยใกล้เคียงในรายการนี้คือจบ 3 วันนำ Nick Faldo ถึง6 สโตรค แต่มาพังยับเยินในวันสุดท้ายและสูญเสียสิทธิ์ในการครอบครอง green jacket ไป
อันดับที่ 1 Lee Trevino นักกอล์ฟแม็กซิกันอันตรายผู้นี้เรียกได้ว่าตะล่อมรอบๆ เดอะมาสเตอร์ส โดยเป็นแชมป์ระดับเมเจอร์อื่นๆ มาครบแล้วทั้ง 3 รายการๆ ละ 2 ครั้ง! บวกกับอีก 29 แชมป์ PGA TOUR แต่เรื่องที่น่าเซอไพรส์ ก็คือ เขาไม่เคยใกล้เคียงกับการลุ้นแชมป์รายการนี้เลยแม้แต่นิดเดียว โดยทำได้ดีที่สุดคืออันดับ 10 ในปี 1975 เท่านั้น
และนี่ก็คือ 10 เซียนในอดีตที่ไม่เคยได้แชมป์รายการนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนบนถนนเส้นเดียวกันนี้ของยุคปัจจุบันนอกเหนือจาก Ernie Els ที่พูดถึงไปแล้ว ก็มีพ่อหม้ายเมเจอร์อีก 2 คน คืออดีตมือ 1 ของยุโรป 8สมัยอย่าง Colin Montgomery และเพื่อนซี้รุ่นน้องอดีตมือ 1 ของโลก Lee Westwood ที่อาจจะจบเส้นทางการแข่งขันกอล์ฟอาชีพโดยไม่มีแจ็กเกตสีเขียวด้วยเช่นกัน
สัปดาห์ที่ผ่านมา เราก็มีโอกาสได้เห็นน้ำตาลูกผู้ชาย (อีกครั้ง) จากนักกอล์ฟที่ถือว่าเป็นสีสันในวงการอย่าง บับบา วัตสัน นักกอล์ฟมือซ้ายที่ทุกคนจะต้องสะดุดตาในเรื่องระยะ พอๆ กับสีสันอันเจ็บแสบของไม้กอล์ฟของเขา
แชมป์ PGA TOUR 4 รายการคนนี้ ถือว่าเป็นนักกอล์ฟที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ที่สูงมาก เพราะถ้าเทียบเวลาที่ทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมกับนักกอล์ฟอาชีพคนอื่นๆ แล้ว คงจะถูกทิ้งไม่เห็นฝุ่น เขามักทำอะไรตามอารมณ์ ณ ขณะนั้นของตนเองเสมอ ถ้าให้เห็นภาพชัดๆ ลองนึกเปรียบเทียบกับ มาริโอ บาโลเตลลี่ ในวงการฟุตบอลดูได้เลย บับบา จะเป็นประเภทรู้สึกอยากซ้อมเมื่อไหร่ค่อยซ้อม บางทีขณะแข่งขัน ถ้าเริ่มตีพลาดหลายๆ ช็อตเข้า วันนั้นก็ตีทิ้งเลยก็มี(เดินมาจรดแล้วตีแบบไม่มีรูทีน) แต่มาถึงวันนี้พรสวรรค์นั้นได้บรรดาลฝันระดับเมเจอร์ของเขาให้เป็นจริงได้สำเร็จแล้ว
ในอดีตนั้นมีนักกอล์ฟผู้ยิ่งใหญ่ ที่ถือว่า “ฝีมือเยี่ยมเปี่ยมพรสวรรค์” อยู่มากมาย แต่ทว่า แจ็กเกตสีเขียวตัวนี้ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสได้ครอบครอง เพราะไม่ว่าจะเก่งมาจากไหนของมุมโลก ก็ใช่ว่าจะได้มาสวมใส่กันได้โดยง่าย เราลองมาดูกันว่าในอดีตที่ผ่านมามีใครกันบ้างที่ดูแล้วน่าจะได้…แต่ไม่ได้ ซึ่งแต่ละชื่อก็คุ้นหูสะดุดตากันทั้งนั้น
อันดับที่10 David Love III แม้จะเป็นแชมป์ PGA TOUR ถึง 20 รายการ กับ 1 เมเจอร์ PGA Championship เขาติด TopTen 6 ครั้งและทำได้ดีที่สุดเพียงอันดับ 2 ถึง 2 ครั้ง ซึ่งในปี 1995 เขาแพ้ให้กับ Ben Crenshaw ไปเพียงสโตรกเดียว
อันดับที่ 9 Tom Weiskopf เป็นแชมป์ The Open ปี 1973 รวมถึง PGA TOUR อีก 16 รายการ ในรายการนี้เขาเป็นผู้ได้อันดับที่ 2 มากถึง 4 ครั้ง แต่ไม่เคยได้แชมป์
อันดับที่ 8 David Duval เจ้าของตำแหน่งมือหนึ่งของโลก 15 สัปดาห์ โดยระหว่างปี 1997-2001 เขาได้แชมป์ PGA TOUR ไปทั้งสิ้น 13 รายการ รวมทั้งแชมป์ The Player Championship ปี99 และ THE OPEN ในปี 2001 เป็นไฮไลต์ แต่ในรายการนี้เขาไม่เคยได้แชมป์ แต่ก็ป้วนเปี้ยนอยู่ใน Top 6 ถึง 4 ปีติดต่อกัน (1998-2001)
อันดับที่ 7 Tom Kite เป็นผู้เล่นที่ได้ชื่อว่ามีฝีมือแบบปอนด์ต่อปอนด์ดีที่สุดตลอดกาลด้วยน้ำหนักตัว 155 ปอนด์ กับแชมป์ PGA TOUR 19 รายการพ่วงด้วย 1 เมเจอร์จาก U.S. OPEN ปี 1992 น่าเสียดายที่ในเดอะมาสเตอร์สโอกาสที่ดีที่สุดของเขาในปี 1986 นั้น เขาถูกความเก๋าของ แจ๊ค นิคลอส ในวัย 46 ปีทิ้งทวนคว้าแชมป์ไปครอง
อันดับที่ 6 Ernie Els แม้ว่าเขาเคยได้ที่ 2 มาถึงสองครั้งในปี 2000, 2004 แต่ปีนี้ Els ไม่ได้แม้โอกาสที่จะร่วมแข่ง โดยพลาดการเข้าร่วมแข่งขันเดอะมาสเตอร์สครั้งแรกในรอบ 18 ปี เขาคงต้องปลอบใจตัวเองในหอเกียรติยศด้วยแชมป์ 60 รายการทั่วโลก กับอีก 3 เมเจอร์ ไปก่อนจนกว่าจะกลับมาลุ้นใหม่ในปีหน้า
อันดับที่ 5 Nick Price อดีตมือ 1 ของโลกและแชมป์ทำเงินรางวัลสูงสุดของ USPGA 2 ปีติดต่อกัน (1994-1995) และตำแหน่งแชมป์มากกว่า 50 รายการทั่วโลกแล้ว รวมทั้ง 3 เมเจอร์ แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ถือสถิติ 18 หลุมที่ดีที่สุดของเดอะมาสเตอร์สที่ 9 อันเดอร์พาร์ แต่เขาก็ไม่เคยได้ดีไปกว่าอันดับที่ 5 ในรายการนี้เลย
อันดับที่ 4 Hale Irwin อดีตแชมป์ PGA TOUR 20 รายการ และ 3 U.S.OPEN ผลงานสม่ำเสมอมาก เพราะไม่เคยหลุดจาก 10 คนแรกในอันดับทำเงินรางวัลเลยตั้งแต่ 1973-1978 แต่ในเดอะมาสเตอร์ส กลับทำได้ดีที่สุดแค่ที่ 4 ร่วม
อันดับที่ 3 Johny Miller นักกอล์ฟจอมบู๊ ฝีปากคม และตีเหล็กได้อย่างคมกริบไม่แพ้ใครบนโลก ในปี 1974เขาได้คว้าแชมป์ PGA TOUR ไปถึง 8 รายการในปีเดียว ในเดอะมาสเตอร์เขาเคยลุ้นและเป็นรองแชมป์ถึง 3สมัย ก่อนที่อาการบาดเจ็บจะบังคับให้เขาเกษียรจากการแข่งขัน โดยที่ตู้เสื้อผ้าเขาก็ปราศจากแจ็กเกตสีเขียวอยู่ดี
อันดับที่ 2 Greg Norman ก่อนจะมีนักกอล์ฟชื่อ Tiger Woods นั้น Greg คือคนที่ครองตำแหน่งหมายเลข 1 ของโลกได้นานที่สุด ดูแล้วเป็นคนที่หยิบจับอะไรก็ประสบความสำเร็จไปซะทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสนามกอล์ฟ หรือแบรนด์เสื้อผ้าที่เป็นของตัวเอง และยังสามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 68 รายการรอบโลก แถมยังประดับโดยแชมป์THE OPEN อีก 2 สมัย แต่สิ่งที่ยังไม่เคยประสบความสำเร็จเลย คือ ชัยชนะรายการใหญ่บนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา โดยใกล้เคียงในรายการนี้คือจบ 3 วันนำ Nick Faldo ถึง6 สโตรค แต่มาพังยับเยินในวันสุดท้ายและสูญเสียสิทธิ์ในการครอบครอง green jacket ไป
อันดับที่ 1 Lee Trevino นักกอล์ฟแม็กซิกันอันตรายผู้นี้เรียกได้ว่าตะล่อมรอบๆ เดอะมาสเตอร์ส โดยเป็นแชมป์ระดับเมเจอร์อื่นๆ มาครบแล้วทั้ง 3 รายการๆ ละ 2 ครั้ง! บวกกับอีก 29 แชมป์ PGA TOUR แต่เรื่องที่น่าเซอไพรส์ ก็คือ เขาไม่เคยใกล้เคียงกับการลุ้นแชมป์รายการนี้เลยแม้แต่นิดเดียว โดยทำได้ดีที่สุดคืออันดับ 10 ในปี 1975 เท่านั้น
และนี่ก็คือ 10 เซียนในอดีตที่ไม่เคยได้แชมป์รายการนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนบนถนนเส้นเดียวกันนี้ของยุคปัจจุบันนอกเหนือจาก Ernie Els ที่พูดถึงไปแล้ว ก็มีพ่อหม้ายเมเจอร์อีก 2 คน คืออดีตมือ 1 ของยุโรป 8สมัยอย่าง Colin Montgomery และเพื่อนซี้รุ่นน้องอดีตมือ 1 ของโลก Lee Westwood ที่อาจจะจบเส้นทางการแข่งขันกอล์ฟอาชีพโดยไม่มีแจ็กเกตสีเขียวด้วยเช่นกัน