ศูนย์ข่าวศรีราชา - คนสู้ชีวิต..หนุ่มเมืองฉะเชิงเทรา วัย 54 ปี อดีตพนักงานบริษัท หลังภรรยาถูกไฟดูดเสียชีวิต ชะตาพลิกผันต้องออกจากงานมาเป็นพ่อลูกอ่อนเลี้ยงลูกน้อยถึง 4 คน ปากกัดตีนถีบด้วยการนำจักรยานยนต์สมบัติชิ้นสุดท้ายต่อพ่วงข้างใส่หลังคา หอบลูกใส่รถกระเตงเร่ขายแตงโม ไปตามถนนหนทาง เลี้ยงปากท้องครอบครัว
วันนี้ ( 23 มี.ค.55 ) หลังในเขตพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้มีกระแสข่าวว่า พบพ่อหม้ายลูกดกสู้ชีวิต ไม่ท้อต่อชะตากรรม หลังภรรยาเสียชีวิต ต้องเลี้ยงลูกน้อยถึง 4 คน เพียงลำพัง หาเงินเลี้ยงชีพและปากท้องลูกๆ ด้วยการขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ตระเวนขายแตงโม ไปตามเส้นทางถนนสุขุมวิทหมายเลข 3 ระหว่างกิโลเมตรที่ 1 - 10 ตามหมู่บ้าน ตรอก และซอยต่าง ๆ โดยมีลูกน้อยทั้ง 4 คน นั่งแออัดกันอยู่ในพ่วงข้าง ติดตามผู้เป็นพ่อไปช่วยขายแตงโม ทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นต่างสมเพศเวทนา ช่วยกันอุดหนุนเพื่อเป็นค่าอาหารของเด็ก ๆ
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป พบพ่อค้าขายแตงโมลูกดกตามที่ชาวบ้านกล่าวถึง ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 100 สีแดง ทะเบียน ขงษ 314 ชัยภูมิ ติดพ่วงข้างมีหลังคาคลุม ตระเวนขายแตงโมอยู่ภายในซอยสัตหีบสุขุมวิท 81 ( จามจุรี ) ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ โดยมีรถจักรยานเด็กผูกห้อยติดท้าย มาพร้อมกับลูกน้อยชาย - หญิง อายุระหว่าง 3 - 10 ปี จำนวน 4 คน ที่นั่งแออัดกันอยู่ในพ่วงข้าง ช่วยผู้เป็นพ่อขาย ด้วยการส่งเสียงตะโกนเรียกลูกค้าว่า
“แตงโมไหมคะ แตงโมมาขายแล้วคะ ไม่แดง ไม่หวาน ไม่เอาตังจ๊ะ” ทำให้รู้สึกชื่นหูแก่ผู้ที่ได้ยิน จำต้องสงสารออกจากบ้านมาโบกให้จอดช่วยกันอุดหนุน เพื่อเป็นค่าอาหารแก่เด็ก ๆ
จากการสอบถามข้อมูลทราบว่า พ่อค้าลูกดกสู้ชีวิตรายนี้คือ นายสมยศ มลสุวรรณ อายุ 54 ปี ภูมิลำเนาเลขที่ 56 ม.3 ต.หอมศีล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนเด็กสาวที่นั่งซ้อนท้ายตะโกนส่งเสียงเรียกลูกค้าคือ ด.ญ.พลอยพรรณ อายุ 9 ขวบ บุตรสาวคนโต ส่วนบุตรอีก 3 คนคือ ด.ญ.พรนิพา อายุ 7 ขวบ ด.ช.พงศ์เพชร อายุ 4 ขวบ และด.ญ.รัศมี อายุ 3 ขวบ
นายสมยศ มลสุวรรณ พ่อค้าแตงโม เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวเป็นคนจังหวัดฉะเชิงเทราโดยกำเนิด เมื่อ 2 ปีก่อน สมัยที่อยู่กันพร้อมหน้าครอบครัว ตนได้ยึดอาชีพเป็นพนักงานบริษัท ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้าน มีลูกด้วยกัน 4 คน รายได้ขณะนั้นเพียงพอปากท้อง และส่งลูกทั้ง 4 คน ให้ได้เข้าเรียนหนังสือ
หลังภรรยาจากไปอย่างกะทันหัน ด้วยอุบัติเหตุพลาดท่าถูกไฟฟ้าดูดจนเสียชีวิต ทำให้ชีวิตเริ่มพลิกผันเลวร้ายลง เมื่อไม่มีคนเลี้ยงลูกน้อยที่ยังเล็กอยู่ในขณะนั้น จึงต้องออกจากงานมาเลี้ยงลูก โดยให้ลูกออกจากโรงเรียน ก่อนจะตัดสินใจพาครอบครัว ด้วยการนำรถจักรยานยนต์ที่เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียว ต่อทำพ่วงข้างมีหลังคาให้ลูกๆ ได้นั่งออกเดินทางจากจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้ามาตั้งรกรากอาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และออกหางานทำโดยเริ่มจากการเป็นกรรมกรก่อสร้าง แต่รายได้ไม่เพียงพอ และไม่มีเวลาดูแลลูก ๆ จึงตัดสินใจนำเงินเก็บที่ติดตัวอยู่ไม่มาก ลงทุนไปรับซื้อแตงโมจากชาวไร่ชาวสวนมาวิ่งรถขาย แม้บางครั้งขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ต้องดิ้นรนสู้ชีวิตต่อไป เพราะถ้าไม่ทำตนและลูก ๆ ก็คงต้องอดตายอย่างแน่นอน
ด.ญ.พลอยพรรณ พี่สาวคนโต เปิดเผยว่า ตนและน้อง ๆ มีความมุ่งหวังที่อยากจะได้เรียนหนังสือเหมือนคนอื่น ๆ แต่ด้วยฐานะที่ยากจน ทำให้ต้องมาช่วยพ่อขายแตงโม รู้สึกสงสารที่เห็นพ่อเหนื่อย ตนจึงอยากช่วยแบ่งเบาภาระให้กับพ่อ ด้วยการช่วยเลี้ยงน้อง และติดตามพ่อไปขายแตงโม แค่นี้ก็ทำให้รู้สึกมีความสุข แม้จะไม่ได้เรียนหนังสือก็ตาม