อรรถพล ณ บางช้าง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายรายการ บมจ. ทรูวิชั่นส์ และ จุลทัย ศาลิคุปต ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายรายการกีฬา แถลงข่าวยืนยันลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาหลายๆรายการที่ถูกกล่าวอ้างยังอยู่ในมือ ทรูฯ ยอมรับสงครามแห่งการแย่งลิขสิทธิ์กีฬาระดับโลกได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ล่าสุดผู้บริหารด้านคอนเทนต์ของทรูวิชั่นส์ อรรถพล ณ บางช้าง ได้เผยรายละเอียดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาที่กำลังอยู่ในความสนใจของคอกีฬาและบุคคลทั่วไปเป็นอย่างมากในขณะนี้ว่า “จากการที่มีผู้ให้บริการรายหนึ่งให้ข่าวว่าเพิ่งได้รับลิขสิทธิ์เทนนิส ยูเอส โอเพ่นและจะออกอากาศในช่วงปลายเดือนสิงหาคมโดยอาจมีเจตนาที่จะสร้างจุดขายให้กับสินค้า ทรูวิชั่นส์ขอยืนยันว่าทั้งฤดูกาลนี้และฤดูกาลต่อไป ทรูฯก็ยังคงเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เทนนิส ยูเอส โอเพ่น แต่เพียงผู้เดียวอย่างแน่นอน "“
“นอกจากนี้พรีเมียร์ลีกก็ยังอยู่ในมืออีก 1 ฤดูกาล 2012-2013 ส่วนการประมูลซื้อในครั้งถัดไปนั้นยังไม่แน่ว่าจะมีขึ้นเมื่อไหร่ ก็คงต้องรอพรีเมียร์ลีกจัดการขายลิขสิทธิ์ที่อังกฤษให้เรียบร้อยก่อน โดยปกติแล้วประมาณ1 ปีล่วงหน้า”
กับความมั่นใจในการคว้าลิขสิทธิ์บอลอังกฤษนั้น คุณอรรถพลกล่าวว่า “เรามั่นใจว่าจะได้ต่อ เพราะความแข็งแกร่งเรื่องจำนวนยอดสมาชิกหรือยอดผู้ชมที่มีอยู่ในมือ รวมถึงแบ็คกราวน์ดด้านการเงินของบริษัท แต่ทั้งนี้เม็ดเงินในการประมูลสู้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ประมาทไม่ได้ อย่างไรก็ดีเราคงไม่หน้ามืดทุ่มแบบไม่ลืมหูลืมตา เสร็จแล้วก็ต้องมาเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้ท่านสมาชิก เราไม่ทำเช่นนั้นแน่ ต้องไม่ลืมตัวอย่างที่ผ่านมาในประเทศอย่างฮ่องกงหรือสิงคโปร์ ที่ปรากฏว่าทุ่มไปแล้ว บริษัทที่ได้ลิขสิทธิ์กลับขาดทุน บริษัทที่ไม่ได้กลับกำไร เพราะค่าใช้จ่ายลดลง เพราะเอาเงินไปใช้ซื้อตัวอื่นแทน สุดท้ายคนที่ได้กลายเป็นทุกขลาภ สรุปแล้วคนที่ได้ไปต้องทำเป็นด้วย ผมเชื่อว่าเราได้เปรียบตรงนี้เพราะไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ ถ้าเป็นเจ้าอื่นก็ต้องเร่งหาสมาชิก หาวิธีเอารายได้คืน กว่าจะเริ่มต้นหาเผลอๆ ไม่ทัน 3 ปีเร็วมาก”
สำหรับการแข่งขันที่สูงขึ้นเนื่องจากมีคู่ต่อสู้รายใหม่อย่าง GMMZ ขึ้นมานั้น คุณอรรถพล ได้ให้ความเห็นว่า “คงเหนื่อยมากขึ้นแน่นอน ผมทำงานสายนี้มาหลายปีก็ต้องสู้มาตลอด สำหรับกีฬาหลังจากอยู่สบายมาหลายฤดูกาลแล้วถึงเวลาแข่งขัน เราคงต้องให้ความสำคัญกับการเลือกมากขึ้น คงจะมีของครบทุกอย่างเหมือนเดิมไม่ได้ อาจจะต้องเลือกเสียบางอย่างที่ไม่สำคัญไป เพื่อรักษาคอนเทนต์สำคัญให้กับสมาชิก เรามั่นใจว่ามีข้อมูลตรงนี้และรู้ว่าคนดูต้องการอะไร”
“อย่างในกีฬานั้นเราโดดลงไปดึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมาถ่ายทอดสด 3 ปีเต็ม เพราะตลอด 3 ปีที่ผ่านมาที่ ESPN เสียสิทธิไป ก็มีเสียงเรียกร้องให้ถ่ายถ้วยนี้กันเยอะมาก ผมมองว่าน่าจะทดแทน บุนเดสลีกา และลา ลีกา สเปน ที่มีทีมใหญ่ไม่กี่ทีม แถมราคาลิขสิทธิ์ก็ขึ้นไปมาก”
“นอกจากฟุตบอลเรายังถ่ายทอดมวยคู่หยุดโลกอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ปะทะ มิเกล ค็อตโต้ รวมทั้งเริ่มต้นพูดคุยกับทาง NFL ซึ่งได้รับกระแสการรับชมจากทางคนดูที่พลาดชมเยอะ เพื่อจะดึงอเมริกันฟุตบอลกลับมา ตอนนี้ขอดูท่าทีทางฝั่ง NFL อีกครั้งหนึ่งก่อน”
ด้าน จุลทัย ศาลิคุปต ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายรายการกีฬา เผยว่า “ในฤดูกาลหน้าแชมเปี้ยนส์ลีกคืออาวุธสำคัญของเรา ทีนี้ผู้ชมจะได้ชมฟุตบอลกันอย่างเต็มอิ่มทั้งสุดสัปดาห์และกลางสัปดาห์ ไม่เหมือนฤดูกาลที่แล้วซึ่งบางครั้งเวลาการถ่ายทอดสดของลีกยุโรปทับกันมาก เราก็ถ่ายไม่ได้มาก”
“ผมยืนยันว่าเราไม่ได้มุ่งมั่นเป็นเพียง King of Soccer แต่จะเป็น King of Sports ก็ต้องยอมรับว่า มันเหมือนสงครามแห่งการแย่งชิงลิขสิทธิ์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผู้ขายลิขสิทธิ์จะมีทางเลือกมากขึ้น แต่เราก็มั่นใจด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งการจัดการด้านการผลิต และการโปรโมท บวกกับฐานสมาชิกและเทคโนโลยี รวมถึงการมีนักพากษ์กีฬาดีๆอยู่ในมือ ผมไม่หนักใจแต่รู้สึกเหมือนชีวิตมีสีสันขึ้นมากกว่า” จุลทัย กล่าวทิ้งท้าย